เปิดร้านถ่ายเอกสาร เถ้าแก่มือใหม่ ต้องรู้อะไรบ้าง
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าทุกวันนี้เราใช้งานกระดาษกันน้อยลง จะลงทุนเปิดร้านถ่ายเอกสารคงต้องรอวันเจ๊งอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วการเปิดร้านถ่ายเอกสารเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ยังน่าลงทุน อาจจะไม่ได้ผลกำไรมาเป็นกอบเป็นกำในระยะแรก แต่ในระยะยาวนั้นให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า สร้างความมั่นคงได้ และสามารถต่อยอดธุรกิจแบบ one-stop service ที่ให้บริการทั้งถ่ายเอกสาร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สแกน ทำปก ทำหนังสือ โปสเตอร์ ฯลฯ ก็จะช่วยตอบโจทย์ของลูกค้าได้หลากหลายขึ้น
บทความนี้ OfficeMate จะพาทุกคนไปเปิดตำรา ปั้นธุรกิจร้านถ่ายเอกสารให้ประสบผลสำเร็จนั้นต้องรู้อะไรบ้าง
1. ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
หัวใจสำคัญของการเปิดร้านถ่ายเอกสารเลยก็คือทำเล ซึ่งทำเลที่ดีที่สุดที่เหมาะจะเปิดร้านถ่ายเอกสารก็คือพื้นที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ถือว่าเป็นพื้นที่ทำเลทองเลยก็ว่าได้ เพราะกลุ่มนักเรียนนักศึกษาถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่สำคัญของธุรกิจร้านถ่ายเอกสาร หากเปิดร้านใกล้กับสถานศึกษายังไงการันตีรายได้เข้ามาตลอดไม่ขาดสาย
2. หน้าร้านสะดุดตา
ด้านหน้าของร้านควรสะอาดสะอ้าน ติดป้ายให้ชัดเจนสะดุดตา ใครเห็นต้องรู้ได้ทันทีว่าเป็นร้านถ่ายเอกสาร ภายในร้านมีรายละเอียดบอกการให้บริการต่าง ๆ พร้อมให้ครบพร้อม นอกจากนั้นบริเวณด้านหน้าของร้านควรมีพื้นที่รองรับลูกค้า เพราะธรรมชาติของร้านถ่ายเอกสารมักจะมีลูกค้ามานั่งเรียบเรียงตรวจเช็คเอกสาร จัดเอกสาร หรือค้นหาหน้าเอกสารกันเป็นปกติอยู่แล้ว ควรมีพื้นที่โต๊ะเก้าอี้จัดเป็นโซนไว้เฉพาะลูกค้าจะได้ไม่ต้องยืนนาน ๆ หากมาใช้บริการ
3. เงินทุนที่ต้องใช้ในการเปิดร้านถ่ายเอกสาร
เงินลงทุนสำหรับเปิดร้านถ่ายเอกสารถ้าเอาแบบ Startup เล็ก ๆ มีเครื่องถ่ายเอกสารเครื่องเดียวก็จะอยู่ที่ราว ๆ 50,000 – 500,000 บาท เพราะถ้าใช้เครื่องถ่ายเอกสารมือสองราคาก็จะตกเครื่องละ 50,000 – 60,000 บาท แต่ถ้าเป็นเครื่องถ่ายเอกสารใหม่มือหนึ่งส่วนใหญ่ก็ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนต้น ๆ นอกจากนั้นแล้วก็จะเป็นค่าลงทุนในส่วนของกระดาษขนาดต่าง ๆ เครื่องเย็บกระดาษ เครื่องตัดกระดาษ เป็นต้น
4. อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมี
การจะเปิดร้านถ่ายเอกสารให้รองรับทุกความต้องการของลูกค้านั้นจำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นครบพร้อม อย่างแรกเลยก็คือเครื่องถ่ายเอกสาร หากเลือกใช้เครื่องถ่ายเอกสารแบบมัลติฟังก์ชั่นที่สามารถถ่ายเอกสาร สแกน และส่งแฟลกซ์ได้ในเครื่องเดียวก็จะดีจะไม่ต้องลงทุนซื้อแยกให้สิ้นเปลือง
นอกเหนือจากเครื่องถ่ายเอกสารก็ควรจะมีคอมพิวเตอร์ และเครื่องปริ้นหรือ printer ไว้รองรับลูกค้าที่สะดวกจะปริ้นงานทางออนไลน์ หรือพกแฟลชไดร์ฟมาปริ้น ควรเลือกปริ้นเตอร์ที่รองรับทั้งการปริ้นขาวดำ และปริ้นสี หากมีเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้ ที่รองรับการใช้งานผ่านสัญญา Wireless ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่พกเพียงมือถือมาเครื่องเดียวก็สั่งปริ้นได้เลยทันที
กระดาษสำหรับร้านถ่ายเอกสารก็ควรมีหลากหลายแบบหลากหลายขนาดให้ได้เลือก ไม่ควรมีเฉพาะแค่ A4 หรือแม้แต่แค่กระดาษ A4 ก็ไม่ควรมีแค่แกรมเดียว ควรมีกระดาษหลาย ๆ ขนาด หลาย ๆ แกรม ไว้รองรับลูกค้า นอกจากนั้นควรมีตัวเลือกอื่น ๆ อย่างกระดาษแข็ง กระดาษการ์ด กระดาษถ่ายเอกสารรักษ์โลก กระดาษสี กระดาษปก ฯลฯ ไว้รองรับลูกค้าหลากหลายประเภท
นอกจากนั้นแล้วควรจะมีสันเข้าเล่มที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นสันกาว สันห่วง สันรูดพลาสติก สันกระดูกงู ไว้ให้ลูกค้าเลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้นยังควรมีอุปกรณ์งานเอกสารต่าง ๆ เช่น เครื่องตัดกระดาษ กรรไกร คัตเตอร์ เครื่องเคลือบบัตร ที่เย็บกระดาษ คลิปหนีบกระดาษ กาว เทปกาว เทปใส ฯลฯ เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ที่ทุกร้านถ่ายเอกสารต้องมี
5. ใส่ใจในการให้บริการ
การทำธุรกิจร้านถ่ายเอกสารเป็นงานบริการควรบริการลูกค้าให้ได้รับความประทับใจ ผลิตงานให้ลูกค้าอย่างมีคุณภาพเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ให้บริการที่รวดเร็ว ตรงเวลา ไม่ดองงาน นัดลูกค้ารับงานวันไหนต้องมีงานพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้า ทั้งหมดนี้จะทำให้ลูกค้าประทับใจและอยากจะแวะเวียนมาใช้บริการอยู่ตลอด
6. ทำการตลาดและประชาสัมพันธ์
ธุรกิจร้านถ่ายเอกสารในยุคนี้จะหวังเปิดร้านนั่งรอให้ลูกค้าเดินเข้ามาแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว เราควรเน้นทำการตลาดแบบเชิงรุก เมื่อลูกค้าไม่มาหาเราก็ต้องเป็นฝ่ายรุกหาลูกค้าเอง ยิ่งสามารถทำการตลาดออนไลน์ประชาสัมพันธ์ร้านเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ให้บริการรับปริ้นงานหรือรับออเดอร์ทางออนไลน์มีบริการส่งทางไปรษณีย์ก็จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้นกว่าเดิม
ใครที่สนใจอยากจะเริ่มต้นธุรกิจร้านถ่ายเอกสารอยากให้ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องถ่ายเอกสาร ตลอดจนต้นทุน และกำไรให้ถี่ถ้วนก่อนจะลงทุน
หากมองหาคู่ค้าธุรกิจที่เข้าใจคุณ เพื่อสั่งซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ มาที่ OfficeMate คู่คิดธุรกิจคุณ มีครบทุกความต้องการ ครบวงจรในที่เดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง
