ไขข้อข้องใจ กรวยจราจรมีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร

กรวยจราจร เป็นหนึ่งในอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน ใช้สำหรับการกั้นพื้นที่ แบ่งเขตต่าง ๆ มักพบได้ทั่วไปตามท้องถนน ห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ อาคารสำนักงาน รวมถึงเขตก่อสร้าง จราจร ซ่อมบำรุง พื้นที่อุบัติเหตุ การทำงานของตำรวจ ฯลฯ และอื่น ๆ อีกมากมาย หลาย ๆ คนอาจคิดว่า กรวยจราจรสีส้มหรือสีแดงที่เราเห็นได้ทั่วไปนั้นเหมือน ๆ กัน แต่ความจริงแล้ว กรวยจราจรมีหลากหลายประเภท และแต่ละประเภทมีการใช้งานและสื่อความหมายที่แตกต่างกันออกไป

Table of Contents

กรวยจราจร มีกี่ประเภท

1. กรวยจราจร EVA

กรวยจราจร EVA เป็นกรวยที่เราพบเห็นได้บ่อยมากที่สุดตามท้องถนน งานจราจร หรือไซต์งานก่อสร้างต่าง ๆ เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีราคาค่อนข้างถูก ยืดหยุ่นสูง สามารถคืนรูปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่แตกหักหรือบุบสลายง่ายเมื่อโดนรถทับหรือชน นอกจากนั้นยังมีน้ำหนักเบา ทนทานต่อสภาพอากาศ โดยจะมีการคาดแถบสะท้อนแสง เพื่อให้ผู้ใช้ถนนมองเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นในตอนกลางคืน

2. กรวยจราจร PE

กรวยจราจร PE มีลักษณะคล้ายกับกรวยจราจรประเภทแรก แต่จะมีฐานรองที่ทำจาก PE สำหรับเพิ่มน้ำหนัก เพื่อให้กรวยจราจรสามารถทรงตัวอยู่ได้โดยไม่ล้มหรือพลิกคว่ำ แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีลมพัดแรง หรือบนท้องถนนที่มีรถวิ่งเร็ว กรวยจราจร PE จะมีแถบสะท้อนแสงขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้มองเห็นได้จากระยะไกล เหมาะกับการใช้งานในตอนกลางคืนเช่นเดียวกับกรวยจราจร EVA

3. กรวยจราจร PVC

กรวยจราจร PVC มีความยืดหยุ่นสูงมากที่สุดในบรรดากรวยจราจรทุกประเภท เมื่อเกิดอุบัติเหตุ รถเฉี่ยวหรือชน กรวยจราจร PVC จะไม่เกิดความเสียหาย เพราะสามารถคืนตัวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังทนทานต่อสภาพอากาศ และทนต่อสารเคมีต่าง ๆ แต่ข้อเสีย คือ มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้กรวยจราจรประเภท EVA มากกว่า

4. กรวยจราจร PVC พร้อมฐานยาง

พัฒนามาจากกรวยจราจร PVC แต่มีการเพิ่มฐานยาง สำหรับเพิ่มน้ำหนัก โดยยังคงคุณสมบัติยืดหยุ่นสูงจากวัสดุ PVC ทนทานต่อการถูกรถทับหรือรถชน และมีฐานยางเข้ามาช่วยพยุง เพิ่มความสมดุล ไม่ทำให้กรวยจราจรพลิกคว่ำได้ง่าย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างดี และมักเป็นประเภทที่นิยมใช้รองจากกรวยจราจรแบบ EVA

5. กรวยจราจรพับได้

กรวยจราจรพับได้ ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถพับและจัดเก็บได้อย่างสะดวก ไม่เปลืองพื้นที่ เหมาะสำหรับการพกพาติดรถไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน กรวยจราจรประเภทนี้ยังคงมีแถบคาดสะท้อนแสง สำหรับการใช้งานในช่วงกลางคืนเช่นเดียวกับกรวยจราจรประเภทอื่น ๆ

กรวยจราจร แต่ละสี ต่างกันอย่างไร

กรวยจราจรสีส้ม

เป็นกรวยจราจรสีที่พบเห็นได้มากที่สุด ใช้สำหรับกั้นแบ่งเขตในพื้นที่ต่าง ๆ แบ่งเขตตามแนวถนน มักถูกใช้งานในหลากหลายวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นงานจราจร งานก่อสร้าง งานซ่อมบำรุง ฯลฯ กรวยจราจรสีส้มนั้นมีสีสดใส มองเห็นได้ง่าย และมีแถบคาดสะท้อนแสง จึงสามารถใช้งานได้ดีในที่มืด หรือในช่วงเวลากลางคืน

กรวยจราจรสีเหลือง

กรวยจราจรสีเหลือง ใช้เป็นสัญลักษณ์ในการแจ้งเตือนให้ระวังภัย หรืออันตรายต่าง ๆ โดยจะใช้กับการแบ่งเขตพื้นที่อันตราย เขตอุบัติเหตุ เขตการดำเนินงานสืบสวนและเก็บหลักฐานของตำรวจ โดยทั่วไปมักมีการใช้กรวยจราจรสีส้มและสีแดงทดแทนได้เช่นกัน

กรวยจราจรสีแดง

กรวยจราจรสีแดง ใช้สำหรับการแจ้งเตือนอันตราย หรือเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ เพื่อห้ามผู้ที่สัญจรผ่านไปมาไม่ให้ผ่านทาง หรือให้หยุดทำการกระทำใด ๆ นอกจากนั้น ยังเป็นสีที่แสดงถึงพื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย เช่น อุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์ PPE อุปกรณ์สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ฯลฯ

กรวยจราจรสีน้ำเงิน

กรวยจราจรน้ำเงินหรือสีฟ้า เป็นสีที่ตรงข้ามกับสีแดง จึงมักสื่อความหมายที่ตรงข้ามกัน กล่าวคือ เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อกำหนดหรือข้อบังคับใด ๆ ที่ต้องการให้ปฏิบัติตาม โดยอาจถูกนำไปใช้กั้นเขต ปิดหรือแบ่งช่องทางต่าง ๆ ที่ต้องการให้ผู้สัญจรรับทราบ

กรวยจราจรสีเขียว

สีเขียว เป็นสัญลักษณ์สากลที่แสดงถึงความปลอดภัย กรวยจราจรสีเขียวจึงถูกใช้ในแง่ของการอนุญาตให้ผ่าน โดยมักใช้กั้นเพื่อเป็นทางออกฉุกเฉิน เขตพื้นที่ที่ปลอดภัย และเขตการพยาบาล เป็นต้น

โดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักพบเห็นการใช้กรวยจราจรในสีสันสดใส เช่น สีส้มหรือสีแดง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้สัญจรที่ผ่านไปมาเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีกรวยจราจรอีกหลายสีที่ไม่ค่อยนิยมใช้ หรือถูกใช้เฉพาะทางในองค์กรหรือสถานที่ เช่น กรวยจราจรสีขาว กรวยจราจรสีม่วง โดยมักนำไปติดแบรนด์หรือโลโก้เพื่อสื่อถึงสถานที่นั้น ๆ

กรวยจราจร เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับการแบ่งเขตหรือพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะใช้กรวยจราจรประเภทไหน แต่องค์ประกอบสำคัญ คือ สีของกรวยจราจรและแถบสะท้อนแสงที่จะต้องทำให้ผู้สัญจรมองเห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน เมื่อเลือกกรวยจราจรที่ได้มาตรฐาน เหมาะสมตามรูปแบบการใช้งาน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ เพิ่มความปลอดภัยให้กับทั้งตัวผู้ปฏิบัติงานและบุคคลภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : OT Intertrade และ Sapsrisook