ในวงการอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะในแง่ของการผลิตในโรงงาน หรือการจัดเก็บในคลังสินค้า อุปกรณ์ช่วยยกของหนักถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะมอบความสะดวกสบาย ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานอีกด้วย โดยในยุคปัจจุบัน มีเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์อุปกรณ์โรงงานชนิดนี้ให้มีความแข็งแรง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในบทความนี้ OfficeMate จะพาไปรู้จัก 5 อุปกรณ์ช่วยยกของหนักยอดนิยม ที่ถูกใช้ในโรงงาน และคลังสินค้า ช่วยอำนวยความสะดวกให้กระบวนการอุตสาหกรรมนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว และปลอดภัย

1. รถเข็น (Trolley)

Trolley_รถเข็น_OfficeMate

รถเข็น เป็นเครื่องมือพื้นฐานสำหรับการเคลื่อนย้ายสิ่งของที่ใช้กันแทบทุกวงการ ไม่เฉพาะแค่ในอุตสาหกรรมโรงงาน และคลังสินค้าเท่านั้น เพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย ไม่มีระบบการทำงานที่ยุ่งยากซับซ้อน และไม่เปลืองไฟ แต่อาจไม่เหมาะกับสิ่งของที่มีน้ำหนักมากเกิน เพราะยังต้องใช้แรงคนในการขับเคลื่อนและบังคับทิศทาง

ทั้งนี้ อุปกรณ์เคลื่อนย้าย ยังมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละธุรกิจสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมกับลักษณะงาน รูปแบบที่นิยมมีทั้งรถเข็นของแบบ 2 ล้อ ใช้กับงานที่ต้องการความคล่องตัวสูง เข้าถึงได้ทุกพื้นที่ ไปจนถึง 4 ล้อ ใส่ของได้มากขึ้น โดยอาจมีตะแกรงด้านข้างป้องกันของหล่น และยังมีประเภทรถเข็นพับได้ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บ

2. แฮนลิฟท์ (Hand Lift)

Handlift_OfficeMate

Hand Lift เรียกอีกชื่อหนึ่ง รถลากพาเลท เป็นเครื่องทุ่นแรงที่ใช้สำหรับการเคลื่อนย้ายพาเลทสินค้า หรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก มีลักษณะเป็นส้อมขนาดเรียวยาว สำหรับวางสิ่งของ เหมาะสำหรับใช้ในโรงงาน หรือคลังสินค้าที่มีความสูงหลายระดับ โดย Handlift นี้ยังสามารถเข้าไปช่วยจัดเรียงสินค้าเข้าชั้นได้อย่างเป็นระเบียบ ปลอดภัยต่อคนทำงาน

Hand Lift ยังมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบไฟฟ้า กึ่งไฟฟ้า หรือแบบแมนวล (Manual) ที่ต้องใช้แรงคนเข้าช่วย และยังแบ่งออกเป็นประเภทอื่น ๆ เช่น สแตกเกอร์ (Hand Stacker) สำหรับการยกพาเลทในแนวดิ่ง ช่วยยกของขึ้นที่สูง Lift Table แฮนลิฟท์ลักษณะคล้ายโต๊ะที่สามารถปรับระดับได้ เหมาะสำหรับการใช้งานแนวดิ่งที่มีความสูงไม่มากนัก รวมถึง ลิฟต์กระเช้า เครื่องมือสำหรับการจัดสิ่งของในที่สูง ที่ส่วนมากใช้งานการบรรทุกคนมากว่าสินค้า โดยผู้ที่จะขึ้นไปปฏิบัติงานในที่สูงต้องมีการสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้เพื่อความปลอดภัย

3. รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift)

Forklift_OfficeMate

Forklift หรือ รกยกสำหรับอุตสาหกรรม โรงงาน คลังสินค้า มีแท่นยกที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เมื่อพาเลทหรือสินค้าถูกวางที่แท่นยกด้านหน้า รถโฟล์คลิฟท์จะช่วยในการเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปวางยังอีกจุดหนึ่ง รวมถึงยกของในแนวดิ่ง ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดสินค้าในชั้นสูงได้ ตัวรถ Forklift จะมีที่นั่งสำหรับคนขับคอยบังคับทิศทางของรถ และแท่นยก ในบางรุ่นจะเป็นแบบยืนบังคับ และเพื่อความปลอดภัย ควรมีการติดตั้งอุปกรณ์เซฟตี้สำหรับรถโฟล์คลิฟท์ ให้ผู้อื่นสังเกตเห็นในขณะที่เปิดการทำงาน Forklift

4. แม่แรง

แม่แรง_OfficeMate

เครื่องมือในการยกสิ่งของอีกชนิดหนึ่ง แบบที่เราพบเจอประจำมักเป็นแม่แรงยกรถ ซึ่งมีหลักการทำงานเดียวกับแม่แรงยกของที่ใช้ในอุตสาหกรรมโรงงาน และคลังสินค้า นั่นคือ มีกลไกที่ทำการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากจากพื้นดินขึ้นที่สูง สามารถแบ่งประเภทแม่แรงได้ตามลักษณะ ได้แก่

  • แม่แรงแบบล้อเลื่อน หรือแม่แรงตะเข้ เป็นแม่แรงแบบงัดที่มีล้อเลื่อน นิยมใช้กับโรงงาน และคลังสินค้า สามารถยกสิ่งของที่มีน้ำหนักได้ตั้งแต่ 2-4 ตัน 
  • แม่แรงกระปุก รูปทรงกระบอก นิยมใช้กับยานพาหนะที่มีขนาดเล็ก เน้นการใช้งานบนพื้นผิวเรียบ เพื่อไม่ให้เกิดการล้มหรือลื่น รองรับน้ำหนักสิ่งของหรือพาหนะได้ตั้งแต่ 3 – 50 ตัน
  • แม่แรงยกรถแบบกรรไกร มีน้ำหนักเบามากที่สุด แต่สามารถรับน้ำหนักได้มากเมื่อเทียบกับประเภทอื่น ทำงานโดยใช้มือหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อยกขึ้น และหมุนทวนเข็มเมื่อต้องการลดระดับลง มักใช้กับรถยนต์ขนาดใหญ่

5. รอกไฟฟ้า

รอกไฟฟ้า_OfficeMate

อุปกรณ์ที่พัฒนามาจากแรงคน ที่เกิดจากการนำเชือกผูกกับสิ่งของแล้วชักรอกด้วยมือ แต่ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากขึ้น จึงมีการผลิตรอกที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยทุ่นแรงมนุษย์ในการยกของที่มีน้ำหนักสูงได้อย่างอิสระ และมีประสิทธิภาพกว่าที่เคย โดยทั่วไป รอกไฟฟ้าจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  • รอกสลิงไฟฟ้า ใช้สำหรับงานยกสินค้าหรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก โดยสามารถรองรับน้ำหนักจากการยกได้มากถึง 30 ตัน มีทั้งแบบเคลื่อนที่ 2 ทิศทาง (ขึ้น/ลง) และ 4 ทิศทาง (ขึ้น/ลง-ซ้าย/ขวา) เหมาะกับโรงงานหรือธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่
  • รอกโซ่ไฟฟ้า อุปกรณ์ที่พัฒนามาจากรอกแบบดั้งเดิมที่ใช้มือดึง มีราคาที่ถูกกว่ารอกสลิงไฟฟ้า และสามารถยกของที่มีน้ำหนักไม่มากนัก

การใช้อุปกรณ์ช่วยยกของหนักที่เหมาะสมในโรงงาน และคลังสินค้า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็วในการทำงาน รวมถึงลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุในขณะทำงาน หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาวิธีการใช้งาน การดูแลรักษา และการซ่อมบำรุงอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ หรือพนักงานในอุตสาหกรรมนี้ การทำความเข้าใจกับอุปกรณ์ช่วยยกของหนักเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์อย่างมากในการดำเนินงานได้อย่างราบรื่น และปลอดภัย

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

อ้างอิง: jbuynow , northpower , energyadvance , monotoolthailand