อากาศร้อนจนแทบจะละลายแบบนี้ นอกจากทำให้หงุดหงิดแล้ว ยังอาจทำให้ป่วยได้อีกด้วย หนึ่งในโรคที่มาพร้อมหน้าร้อน อย่างโรคไข้หวัดแดด ดูเผิน ๆ เหมือนจะเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่ถ้าเกิดมีอาการในช่วงนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมีร้อน ๆ หนาว ๆ ไปหยิบชุดตรวจ ATK มาแยงจมูกกันแน่ ๆ แต่ก่อนจะกังวลใจ เราลองมาดูสถานการณ์ โควิดวันนี้ ที่มีข่าวการกลายพันธุ์ ของเชื้อโควิด ทำให้มีผู้ติดเชื้อ โควิด 19 เพิ่มขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ 2566 ที่ผ่านมา
ทางด้านสาธารณสุขระบุว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้นเป็นระลอกเล็ก ซึ่งอาการส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่ ซึ่งโควิด สายพันธุ์ XBB.1.16 จากประเทศอินเดีย ไม่ได้แตกต่างจากสายพันธุ์อื่น ๆ โดยมากพบในผู้ใหญ่ มีไข้ ปวดหัว เจ็บคอ น้ำมูกไหล ส่วนในเด็กจะแตกต่างตรงมีไข้สูง และมีอาการตาแดง ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษ แต่เจอในเด็กเท่านั้น ผู้ใหญ่ไม่มีรายงาน
ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจว่าตนเองเป็นไข้หวัด หรือติดโควิดกันแน่ บล็อกนี้ OfficeMate จะพาไปเช็กว่าอาการของโรคไข้หวัดแดด แตกต่างจาก โควิด-19 อย่างไร และควรดูแลตัวเองยังไงให้ห่างไกลจากโรคไข้หวัดแดดมากที่สุด
ไข้หวัดแดด คืออะไร?
ไข้หวัดแดด หรือ Summer Flu / Summer Cold เป็นการที่ร่างกายได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่ พร้อม ๆ กับที่ต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงในหน้าร้อน หรือเจอกับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อยแบบฉับพลัน ทำให้ร่างกายปรับสภาพตามไม่ทัน ระบายความร้อนออกได้น้อย เมื่อมีความร้อนสะสมอยู่ในร่างกายมากเกิน ก็เกิดเป็นอาการป่วยคล้ายไข้หวัดขึ้นมา
ใครเสี่ยงเป็นไข้หวัดแดดได้บ้าง
- คนที่ต้องทำงานกลางแจ้ง เช่น กรรมกร, ผู้รับจ้าง/รับเหมา, เกษตรกร, นักกีฬา ฯลฯ
- เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ
- คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน หรือโรคความดันโลหิตสูง
นอกจากคนที่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้แล้ว คนที่เข้าออกในที่ที่อุณหภูมิต่างกันบ่อยๆ ก็เสี่ยงเป็นไข้หวัดแดดได้ เช่น การเดินเข้าออกระหว่างห้องแอร์สลับกับนอกอาคารที่อากาศร้อนจัด
อาการของไข้หวัดแดด vs โควิด-19
อาการของไข้หวัดแดด
- มีไข้ต่ำ ๆ ไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส
- รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว
- ปวดหัวเป็นระยะๆ บางคนอาจมีอาการปวดหัวไมเกรน
- วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด
- อ่อนเพลีย
- ริมฝีปากแห้ง ในปากแห้ง คอแห้ง แสบคอ
- รู้สึกขมในปาก รสชาติอาหารเปลี่ยนไป บางคนมีอาการเบื่ออาหาร
- บางคนมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- เป็นตะคริว
- นอนหลับไม่สนิท
- ตาแห้ง ตาแดง ปวดกระบอกตา
*อาการตาแห้ง ตาแดง และปวดกระบอกตานี้ เป็นสัญญาณของการมีความร้อนสะสมในร่างกายมากเกินไป ซึ่งทำให้เราสามารถแยกอาการป่วยระหว่างไข้หวัดแดด และโควิด-19 ออกจากกันได้ นอกจากนั้น การเป็นไข้หวัดแดด จะไม่มีอาการเจ็บคอ ไม่มีน้ำมูกไหล และไม่มีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบเหนื่อย หายใจถี่ เพราะฉะนั้น ใครที่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ ก็อย่าลืมเช็กอาการให้ดีก่อน จะได้รักษาตามอาการได้ถูกต้อง
ดูแลตัวเองอย่างไรไม่ให้ป่วยในหน้าร้อน
หากเป็นไข้หวัดแดด ให้รักษาตามอาการเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดธรรมดา คือ เช็ดตัวเพื่อคลายความร้อนให้ร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เยอะ หากมีไข้ หรือปวดหัวก็ทานยาลดไข้ และยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ
ส่วนการป้องกันไม่ให้เป็นไข้หวัดแดดนั้น ทำได้โดย
- หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งนานเกินไป หรือพกร่ม และใส่เสื้อคลุมกันแดด เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับแสงแดดโดยตรง
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เน้นเป็นเสื้อผ้าที่อ่อน เนื้อบาง และไม่รัดแน่น
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากเหงื่อ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในวันที่อากาศร้อนจัด
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง
- กินผัก และผลไม้ เพื่อเติมวิตามินซีให้ร่างกาย
- หากอยู่ในบ้าน ตอนกลางวันควรเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ และใช้พัดลม หรือพัดลมไอเย็น แทนการเปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อไม่ให้อุณหภูมิภายในบ้านกับภายนอกบ้านต่างกันเกินไป ส่วนใครที่เดินตากแดดจัดๆ ก่อนเข้าห้องแอร์ ควรนั่งพักในที่ที่มีร่มไม้ หรือในที่ที่อากาศถ่ายเทซักพัก เพื่อให้ร่างกายปรับตัวตามอุณหภูมิได้ทัน
อาการป่วยในช่วงนี้ ไม่ว่าจะมีน้ำมูก ปวดหัว หรือแสบคอเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้กังวลได้แล้ว เพราะฉะนั้นดูแลตัวเองให้ดี ทั้งการหลีกเลี่ยงแสงแดด ที่ที่อุณหภูมิสูง เพื่อป้องกันไข้หวัดแดด และสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันโควิด-19 จะได้ไม่มีอะไรต้องกังวลนะคะ
ช้อปพัดลม และพัดลมไอเย็น ไปเพิ่มความชุ่มฉ่ำในหน้าร้อน ปรับอุณหภูมิในห้องให้ต่ำลง เพื่อร่างกายที่เย็นสบาย และสดชื่น ช้อปเลยที่ OfficeMate ช้อปวันนี้ รับส่วนลดพิเศษ และของดีๆ มากมาย พร้อมบริการส่งฟรี เมื่อสั่งซื้อครบ 499 บาท!
บทความแนะนำ!