
โดยปกติแล้วกระดาษที่ใช้ในงานพิมพ์ทั่วไป คือกระดาษถ่ายเอกสารขนาด A4 แต่อันที่จริงกระดาษยังมีอีกหลายขนาด ตามมาตรฐานจากนานาประเทศ สำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน วันนี้ออฟฟิศเมทจะพาคุณไปเรียนรู้ขนาดกระดาษในมาตรฐานต่างๆ ว่ามีกี่แบบกี่ขนาด แล้วแต่ละขนาดนั้นเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบไหน ว่าแล้วก็…ไปดูกันเลยค่ะ
ขนาดกระดาษตามมาตรฐาน ISO 216
ขนาดกระดาษตามมาตรฐาน ISO 216 เป็นขนาดกระดาษที่นิยมใช้กันในหลายประเทศทั่วโลก กำหนดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 โดยสถาบันเยอรมันเพื่อการมาตรฐานแห่งประเทศเยอรมนี ซึ่งมีแนวคิดพื้นฐานมาจากมาตรฐานระบบ German DIN 476
จุดเด่นของกระดาษมาตรฐาน ISO 216 คือ หากนำกระดาษขนาดตามมาตรฐานนี้ 1 แผ่น มาพับครึ่ง กระดาษที่ได้จากการพับครึ่ง จะยังคงมีอัตราส่วน กว้าง x ยาว เท่ากัน กับกระดาษก่อนพับ ซึ่งเป็นข้อดีและเป็นสาเหตุที่ทำให้กระดาษในมาตรฐาน ISO 216 ได้รับความนิยม เพราะเมื่อนำกระดาษไปใช้ในงานพิมพ์ต่างๆ แม้จะต้องตัดแบ่งย่อส่วนขนาดไหน ก็ไม่เหลือเศษกระดาษที่ต้องทิ้งให้เปล่าประโยชน์เลย
ขนาดกระดาษตามมาตรฐาน ISO 216 แบ่งออกเป็น 3 ชุด ดังนี้
ขนาดกระดาษตามมาตรฐาน ISO 216 ชุด A
ขนาดกระดาษในชุด A ถือเป็นขนาดกระดาษที่สำคัญต่อระบบงานพิมพ์ และเป็นขนาดกระดาษที่นิยมใช้กันมากที่สุด ที่คุ้นเคยกันดีก็คือ กระดาษถ่ายเอกสารขนาด A4 นั่นเอง โดยขนาดกระดาษในชุด A จะเริ่มตั้งแต่ ขนาด A0 ไปจนถึง A10 ซึ่งทุกๆ ขนาดในชุด A นี้ จะมีสัดส่วนกว้าง X ยาว เท่ากับ 1 : 1.618 เสมอ ซึ่งไซส์ของกระดาษจะไล่จากใหญ่ไปเล็กโดยใหญ่ที่สุดจะเป็นขนาดกระดาษ A0, ขนาดกระดาษ A1, ขนาดกระดาษ A2, ขนาดกระดาษ A3, ขนาดกระดาษ A4 ไล่ไปจนถึงขนาดเล็กที่สุดที่ขนาดกระดาษ A8

- A0 = 841 x 1189 มิลลิเมตร
- A1 = 594 x 841 มิลลิเมตร
- A2 = 420 x 594 มิลลิเมตร
- A3 = 297 x 420 มิลลิเมตร
- A4 = 210 x 297 มิลลิเมตร
- A5 = 148 x 210 มิลลิเมตร
- A6 = 105 x 148 มิลลิเมตร
- A7 = 74 x 105 มิลลิเมตร
- A8 = 52 x 74 มิลลิเมตร
- A9 = 37 x 52 มิลลิเมตร
- A10 = 26 x 37 มิลลิเมตร
ขนาดกระดาษตามมาตรฐาน ISO 216 ชุด B
ขนาดกระดาษในชุด B เป็นขนาดที่คุ้นเคยกันน้อยกว่าชุด A แต่ก็สามารถนำไปใช้แทนขนาดกระดาษมาตรฐานชุด A ได้ และยังนิยมใช้กันในสายงานดีไซน์หรืองานพิมพ์ เช่น ใบปิดโฆษณา ป้ายประกาศ โปสเตอร์ หนังสือ พาสปอร์ต และซองเอกสาร เป็นต้น

- ฺB0 = 1000 x 1414 มิลลิเมตร
- B1 = 707 x 1000 มิลลิเมตร
- B2 = 500 x 707 มิลลิเมตร
- B3 = 353 x 500 มิลลิเมตร
- B4 = 250 x 353 มิลลิเมตร
- B5 = 176 x 250 มิลลิเมตร
- B6 = 125 x 176 มิลลิเมตร
- B7 = 88 x 125 มิลลิเมตร
- B8 = 62 x 88 มิลลิเมตร
- B9 = 44 x 62 มิลลิเมตร
- B10 = 31 x 44 มิลลิเมตร
ขนาดกระดาษตามมาตรฐาน ISO 216 ชุด C
ขนาดกระดาษในชุดนี้มีไว้สำหรับกำหนดขนาดของซองใส่เอกสาร ซึ่งกระดาษในชุด C จะมีขนาดใหญ่กว่า ชุด A แต่เล็กกว่าชุด B ซึ่งกระดาษที่จะสามารถใส่ในซองได้พอดี จะต้องเป็นกระดาษที่มีรหัสเดียวกันกับซอง เช่น กระดาษขนาด A4 จะสามารถใส่ในซองขนาด C4 ได้พอดี ส่วนซองขนาด C4 จะสามารถใส่ในซองขนาด B4 ได้พอดี เป็นต้น

- C0 = 917 x 1297 มิลลิเมตร
- C1 = 648 x 917 มิลลิเมตร
- C2 = 458 x 648 มิลลิเมตร
- C3 = 324 x 458 มิลลิเมตร
- C4 = 229 x 324 มิลลิเมตร
- C5 = 162 x 229 มิลลิเมตร
- C6 = 114 x 162 มิลลิเมตร
- C7 = 81 x 114 มิลลิเมตร
- C8 = 57 x 81 มิลลิเมตร
- C9 = 40 x 57 มิลลิเมตร
- C10 = 28 x 40 มิลลิเมตร
ขนาดกระดาษตามมาตรฐานอเมริกา
ขนาดกระดาษมาตรฐานอเมริกา เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2538 โดยสถาบันอเมริกันเนชั่นแนลสแตนดาร์ด (American National Standards Institute : ANSI) นิยมใช้กันในประเทศอเมริกาและใช้เป็นขนาดกระดาษเขียนแบบสำหรับสถาปนิกและวิศวกร

- ANSI E = 864 x 1118 มิลลิเมตร
- ANSI D = 559 x 864 มิลลิเมตร
- ANSI C = 432 x 559 มิลลิเมตร
- ANSI B = 279 x 432 มิลลิเมตร (Tabloid) , 432 x 279 มิลลิเมตร (Ledger)
- ANSI A = 216 x 279 มิลลิเมตร (Letter)
นอกจากขนาดกระดาษตามมาตรฐานที่กล่าวมาแล้ว ยังมีขนาดกระดาษในมาตรฐานอื่นๆ อีก เช่น ขนาดกระดาษมาตรฐาน JIS ประเทศญี่ปุ่น และขนาดกระดาษมาตรฐาน SIS ประเทศสวีเดน เป็นต้น การกำหนดขนาดมาตรฐานของกระดาษให้เป็นสากล ก็เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานและการสื่อสาร รวมถึงอำนวยความสะดวกในการซื้อขายแลกเปลี่ยนกระดาษทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศนั่นเองค่ะ
กระดาษเป็นสินค้าพื้นฐานที่มีความสำคัญในทุกสำนักงานและบ้าน เพื่อใช้ในการพิมพ์และคัดลอกเอกสารต่าง ๆ ความสำคัญของกระดาษนั้นไม่ได้จำกัดแค่การใช้งานในสำนักงานเท่านั้น แต่ยังใช้กันอย่างแพร่หลายในการศึกษาหรือธุรกิจต่าง ๆ โดยกระดาษที่ใช้ควรมีคุณสมบัติที่เหมาะสม เช่น ความหนา ความเรียบเนียน และการรับหมึกที่ดี ซึ่งทำให้การพิมพ์เป็นไปอย่างมีคุณภาพและไม่เกิดปัญหาในเครื่องพิมพ์
เมื่อพูดถึงการเลือกซื้อกระดาษที่ดีที่สุด ไม่ควรมองข้ามเรื่องราคาและคุณภาพ กระดาษที่มีคุณภาพสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดปัญหาที่เกิดจากกระดาษลอกเลือนหรือการติดค้างในเครื่องพิมพ์
หากคุณกำลังมองหากระดาษที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสม สามารถมาเลือกช้อปกันได้ที่ OfficeMate ซึ่งมีหลากหลายตัวเลือกให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นกระดาษสำหรับใช้ในสำนักงานหรือกระดาษที่มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับงานพิมพ์ที่มีความละเอียดสูง เลือกซื้อได้ตามความต้องการในราคาคุ้มค่า พร้อมบริการจัดส่งที่สะดวกและรวดเร็ว!
🔥 ดีลสุดพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่! 🔥
🛍️ ซื้อครบ 999.- ใส่โค้ด “NEW10” รับส่วนลด 10% (สูงสุด 1,000 บาท)
🎯 ยิ่งช้อป ยิ่งลด! อย่าพลาดดีลสุดคุ้มวันนี้!
📌 ช้อปเลย 👉 www.ofm.co.th
ขอบคุณรูปภาพจาก
http://www.supremeprint.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=538771421
http://taroangtoang.blogspot.com/2015/03/a4.html
https://www.iop.co.th/content/มาตรฐานของขนาดกระดาษ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เจาะลึกคุณสมบัติของกระดาษสำหรับธุรกิจงานพิมพ์ ที่เจ้าของธุรกิจงานพิมพ์ควรรู้
- เชื่อหรือไม่!! ประโยชน์ของกระดาษ A3 มีมากกว่าที่คุณคิด
- รู้หรือไม่? กว่าจะเป็นกระดาษ…ต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง