ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนมีที่มาที่ไป แม้แต่กระดาษที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็มีที่มาอย่างยาวนาน ซึ่งกระดาษนอกจากเป็นอุปกรณ์ในการช่วยบันทึก และใช้เขียดเขียนแล้ว ในอดีตกระดาษยังเป็นนวัตกรรมที่สำคัญ และรับบทบาทในการเก็บบันทึกข้อมูลในอดีต ทำให้มนุษยชาติของเราทราบถึงความเป็นมาของตนเอง ทั้งทางด้านสังคม ศาสนา ประเพณีต่างๆ ของแต่ละกลุ่ม จนปัจจุบัน “กระดาษ” มีประโยชน์มากกว่าการใช้เขียดเขียนและจดบันทึก เนื่องด้วยขีดความสามารถในการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น กระดาษจึงถูกผลิตขึ้นเพื่อจุดประสงค์อื่นๆ ด้วย เช่น เป็นกระดาษชำระ กล่องกระดาษ บรรจุภัณฑ์ หรือแม้แต่นำไปทำเก้าอี้กระดาษสำหรับงานอีเว้นท์หลายๆ ครั้ง ประโยชน์มากมายขนาดนี้ เรามาดูความเป็นมาของกระดาษกันเลยค่ะ

กระดาษสมัยอียิปต์โบราณ

หากจะพูดถึงจุดเริ่มต้นของกระดาษ คงต้องกลับไปประมาณ 5,000 ปีที่แล้ว ในสมัยของอาณาจักรอียิปต์โบราณ กระดาษในยุคสมัยนั้น ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาจากต้นกกชนิดหนึ่ง เติบโตตามแนวลุ่มแม่น้ำไนล์ ความสูงของต้นประมาณ 2-3 เมตร เรียกว่าต้นปาปิรัส (Papyrus) กรรมวิธีในการประดิษฐ์กระดาษปาปิรัส คือ นำต้นกกชนิดนี้มาตัดให้ได้ตามความยาวของกระดาษที่ต้องการ ลอกเปลือกออก สานขัดกันแล้วนำไปแช่ในน้ำให้นิ่ม หลังจากนั้นทุบส่วนที่ประสานกันให้แบนเป็นเนื้อเดียว และตากให้แห้ง และใช้หินขัดให้เรียบอีกที แต่ด้วยข้อจัดกัดของพื้นที่เจริญเติบโตของต้นปาปิรัส ที่ขึ้นเฉพาะบริเวณลุ่มแม่น้ำไนล์ ทำให้กระดาษชนิดนี้ไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายนัก รวมถึงนักวิจัยรุ่นหลังไม่ได้ยอมรับว่ากระดาษปาปิรัสเป็นกระดาษ เนื่องจากเนื้อกระดาษไม่ละเอียดเรียบเป็นแผ่นเท่าที่ควร เพียงเป็นการนำต้นกกมาทับซ้อนกันเท่านั้น

กระดาษสมัยกรีกโรมัน

มีการนำเข้ากระดาษปาปิรัสจากอียิปปต์ในสมัยกรีกโรมัน แต่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากมีราคาค่อนข้างสูง ชาวกรีกโรมันจึงคิดวิธีการจดบันทึกลงบนหนังสัตว์แทน เรียกว่า พาร์ชเมนท์ (Parchment) ทำจากหนังวัว หนังแกะ หรือหนังแพะ โดยการนำหนังสัตว์เหล่านี้มาแช่น้ำทำความสะอาด และแช่สารละลายที่เป็นด่างเพื่อกำจัดขน หลังจากนั้นนำไปขึงกับกรอบไม้ให้ตึงจนแห้ง หนังสัตว์มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบ ทำให้มีความเหนียว เหมาะจะนำมาจดบันทึก นอกจากนี้ชาวกรีกโรมัน ยังได้มีการพัฒนาพาร์ทเมนท์ให้มีคุณสมบัติเหมาะกับการจดบันทึกมากยิ่งขึ้นในเวลาต่อมา จึงถือได้ว่าพาร์ทเมนท์เป็นกระดาษของชาวกรีกโรมันเลยก็ว่าได้

กระดาษ ที่เป็นต้นแบบจนถึงปัจจุบัน

กระดาษที่เป็นต้นกำเนิดของรูปแบบกระดาษที่เราใช้กันในปัจจุบันนั้น ถูกบันทึกว่าเกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อค.ศ.105 โดยขุนนางท่านหนึ่งชื่อว่า ไซลั่น แต่ในภายหลังมีการค้นพบกระดาษซึ่งมีอายุยาวนานกว่าถึง 140 ปีก่อนคริสตกาล เลยสันนิษฐานได้ว่าขุนนางไซลั่นเป็นเพียงผู้ที่เสนอกรรมวิธีการทำกระดาษอย่างเป็นทางการต่อจักรพรรดิโฮเท่านั้น ไม่ได้เป็นผู้คิดค้น ซึ่งวิธีการผลิตกระดาษในยุคนั้นคือการนำเศษผ้าเก่า เปลือกไม้ มาต้มให้เนื้อยุ่ยละเอียด และในไปกรองด้วยตะแกรง เกลี่ยให้เรียบ และตากแห้งจนสามารถนำมาใช้งานได้ หลังจากความลับเรื่องการประดิษฐ์กระดาษถูกเก็บเงียบในแผ่นดินจีนยาวนานกว่า 500 ปี ก็ได้มีการเผยแพร่ไปยังเกาหลี และญี่ปุ่น หลังจากนั้นกระดาษได้ถูกเผยแพร่ไปยังเอเชียกลาง ดินแดนอาหรับ และไปถึงยุโรปผ่านเส้นทางค้าไหม

อุตสาหกรรมกระดาษ

เมื่อกระดาษได้ถูกเผยแพร่ออกไปจากจีนผ่านเส้นทางสายไหม จนเข้ามายังดินแดนอาหรับ ในยุคที่ดินแดนมุสลิมแถบตะวันออกลางมีความเจริญรุ่งเรื่อง โดยเฉพาะด้านวิยาการต่างๆ กระดาษเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพัฒนาและเกิดเป็นอุตสาหกรรมกระดาษขึ้นที่ดินแดนอาหรับนั่นเอง ในยุคนั้นกระดาษถูกประดิษฐ์ขึ้นจากเศษผ้าลินินและเคลือบแป้ง แทนเยื้อไม้แบบจีน ทำให้กระดาษของชาวมุสลิมมีความเหนียวกว่า และมีการพัฒนาให้กระดาษมีความขาวขึ้น ใช้งานได้ง่ายขึ้น จนเป็นที่นิยมและแพร่หลายเข้าไปยังยุโรป และมีการตั้งโรงงานผลิตหลากหลายแห่ง ทั้งในอิรัก ซีเรีย ปาเลสไตน์ และแอฟริกา จนถึงสเปนโดยกลุ่มชาวมุสลิม และขยายไปยังอิตาลีในกลุ่มชาวคริสเตียน

เครื่องจักรผลิตกระดาษ

เมื่อกระดาษถูกเผยแพร่เข้าไปยังอิตาลี ได้มีการพัฒนากรรมวิธีในการผลิตกระดาษให้ดีกว่าของชาวอาหรับ โดยมุ่งเน้นไปที่เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต ในปี ค.ศ.1798 เอ็ม ดิโดต์ ชาวฝรั่งเศสได้คิดประดิษฐ์เครื่องจักรผลิตกระดาษอัตโนมัติเป็นเครื่องแรก หลังจากนั้นในปีค.ศ.1807 พี่น้องตระกูลโฟร์ดริเนียร์ (Fourdrinier) ได้นำแนวคิดของ นิโคลัส หลุยส์ โรเบิร์ต (Nicholas Loius Robert) ผู้ซึ่งเคยทำงานในโรงงานกระดาษของเอ็ม ดิโดต์ มาพัฒนาต่อยอดจนเกิดเป็นเครื่องจักรผลิตกระดาษที่สามารถม้วนได้สำเร็จ และต่อมาก็ได้ตั้งชื่อเครื่องจักรนี้ว่า โฟร์ดริเนียร์ เป็นต้นแบบของเครื่องจักรผลิตกระดาษในปัจจุบันนั่นเอง

วัสดุที่ใช้ในการผลิตกระดาษ

เราจะเห็นได้ว่าแต่เดิมกระดาษผลิตมาจากเศษเปลือกไม้ เศษผ้าต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความต้องการในการใช้กระดาษก็มีมากขึ้น ทำให้มีการหาวัสดุอื่นๆ มาทดแทน ทั้งต้นปอ ซังข้าวโพด อ้อย ไผ่ และพืชอื่นๆ และพบว่าเยื่อไม้ยืนต้นสามารถนำมาทำกระดาษได้ดีที่สุด ปัจจุบันนิยมผลิตกระดาษจากต้นสนและต้นยูคาลิปตัส

คำว่ากระดาษ และ Paper มาจากไหน

เริ่มที่คำว่า Paper ซึ่งคำนี้มีที่มาจากคำว่า Papyrus ซึ่งเป็นชื่อของต้นปาปิรัสที่นำมาใช้ในการผลิตกระดาษในสมัยอียิปต์โบราณ

ส่วนคำว่า กระดาษ ไม่ใช่คำไทยแท้ แต่เป็นคำที่เพี้ยนมาจากภาษาโปรตุกีสคำว่า Cartas ซึ่งคาดว่าเป็นชาติแรกที่นำกระดาษเข้ามาในสยามตั้งแต่สมัยก่อนอยุธยา คนไทยจึงเพี้ยนคำว่า Cartas เป็นคำว่ากระดาษตั้งแต่นั้นมา

อ่านจบแล้วเราจะเห็นได้ว่า กระดาษ หรือวัสดุในการใช้จดบันทึกที่เราคุ้นตา และเห็นเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวัน มีประวัติและความเป็นมายาวนาน และอยู่คู่ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เป็นเครื่องมือส่งต่อวัฒนาธรรมและองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่นที่สำคัญ ครั้งหน้าออฟฟิศเมทมีเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจอะไรมาฝากอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ

ช้อปกระดาษ A4 กระดาษถ่ายเอกสารคุณภาพดี ได้ในเว็บไซต์ OfficeMate สั่งซื้อผ่านออนไลน์วันนี้ ช้อปเยอะได้ลดเพิ่ม! พร้อมของแถมดีๆ อีกเพียบ และบริการส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อครบ 499 บาท

บทความแนะนำ!

ที่มา: finearts.go.th/  supremeprint.net/ poontana.co.th