ฝีดาษลิงไม่ใช่โรคใหม่ ส่วนใหญ่จะเกิดการระบาดอยู่แถบประเทศในทวีปแอฟริกา แต่ตอนนี้มีรายงานข่าวว่าโรคฝีดาษลิงกำลังระบาดในประเทศแถบยุโรป อังกฤษ และอเมริกา ซึ่งในอดีตพบได้ไม่บ่อยนัก หลายๆ ประเทศจึงมีการเตรียมรับมือ กักตัวผู้ป่วย และผู้ใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงในการส่งต่อเชื้อจากคนสู่คน 

แม้ว่าตอนนี้ในประเทศไทยของเราจะยังไม่มีรายงานการแพร่ระบาด แต่ OfficeMate จะพาไปรู้จักกับโรคฝีดาษลิง ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร อาการเป็นแบบไหน น่ากลัวหรือไม่ แล้วต้องระวังตัวยังไงบ้าง?  

โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) คืออะไร?

ฝีดาษลิง (Monkeypox)

โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) คือ โรคที่เกิดจากไวรัสในตระกูลเดียวกันกับโรคฝีดาษคน หรือที่เรียกว่า ‘ไข้ทรพิษ’ แบ่งเป็น 2 สายพันธุ์หลักๆ คือ สายพันธุ์แอฟริกากลาง และแอฟริกาตะวันตก ส่วนใหญ่แล้วจะติดเชื้อจากสัตว์สู่คน สำหรับการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงจากคนสู่คนยังพบได้น้อยมาก

โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เกิดจากอะไร?

โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มพอกซ์วิริเด (Poxviridae) ซึ่งมีความใกล้เคียงกับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคฝีดาษคน หรือโรคไข้ทรพิษ แต่ไวรัสฝีดาษลิงนั้น มีความรุนแรงน้อยกว่า และส่วนใหญ่จะพบมากในสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนู กระต่าย 

คนสามารถติดเชื้อโรคฝีดาษลิงได้หากถูกสัตว์ที่มีเชื้อไวรัสกัด หรือมีการไปสัมผัสกับเลือด หนอง สารคัดหลั่งของสัตว์ที่ติดเชื้อ รวมถึงการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่สุก โดยไวรัสชนิดนี้จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางรอยแผล ระบบทางเดินหายใจ ดวงตา จมูก และปาก 

ส่วนการแพร่เชื้อจากคนสู่คนยังมีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก แต่ก็มีโอกาสแพร่เชื้อได้หากอยู่ใกล้ชิด และมีการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย รวมถึงอาจแพร่ระบาดผ่านทางสิ่งของที่ปนเปื้อน เช่น เสื้อผ้า หรือผ้าปูที่นอน 

อาการของโรคฝีดาษลิง (Monkeypox)

โรคฝีดาษลิงมีลักษณะอาการคล้ายคลึงกับโรคอีสุกอีใส และไข้ทรพิษ แต่มีความรุนแรงน้อย หายเองได้ และมีเปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตต่ำกว่า

โรคจะใช้เวลาฝักตัวประมาณ 10-12 วัน อาการแรกเริ่ม คือ มีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองโต ท้องเสีย หรืออาเจียน 

หลังจากมีไข้ 2-3 วัน จะเริ่มมีผื่นขึ้นตามผิวหนังบริเวณใบหน้า และแขนขา โดยผื่นจะเริ่มจากการเป็นจุดแดงๆ จากนั้นจะพัฒนาเป็นตุ่มแดงนู่นๆ กลายเป็นตุ่มใส และเริ่มมีหนอง จากนั้นจะแตก หรือแห้งหลุดไปเอง ระยะนี้จะกินเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์

ฝีดาษลิง (Monkeypox)

ฝีดาษลิงอันตรายแค่ไหน?

อย่างที่บอกว่าโรคฝีดาษลิงมีโอกาสน้อยที่จะติดจากคนสู่คน มีอาการไม่รุนแรง และสามารถหายได้เอง แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือร่างกายไม่แข็งแรง ก็อาจเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น อาการปอดบวม และเสียชีวิตได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดในกลุ่มเด็กเล็ก 

การรักษาโรคฝีดาษลิง 

โรคฝีดาษลิงยังไม่มีวิธีการรักษาแบบเฉพาะเจาะจง แต่จะเน้นลดการแพร่ระบาดของเชื้อโดยการฉีดวัคซีน โดยวัคซีนที่สามารถป้องกันการติดเชื้อ และลดความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ คือ วัคซีนไข้ทรพิษ หรือวัคซีนไข้ฝีดาษคน 

การป้องกันโรคฝีดาษลิง

  • หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ และสัมผัสสัตว์ที่เป็นพาหะ เช่น ลิง กระรอก หนู กระต่าย 
  • หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ 
  • พยายามไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้า ดวงตา จมูก และปาก 
  • เนื้อสัตว์ต้องปรุงให้สุกเสมอ
  • ไม่นำสัตว์ป่ามาเลี้ยง
  • สังเกตตัวเอง และเช็กอาการตลอดเวลา หากกลับมาจากพื้นที่มีโรคระบาด 

แม้ว่าโรคจะดูไม่น่ากลัว และมีอาการไม่รุนแรง แต่การดูแลตัวเองไม่ให้ป่วยย่อมดีกว่า โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก OfficeMate พร้อมส่งเวชภัณฑ์ฟรีถึงบ้าน เพียงคุณช้อปครบ 499 บาท สินค้ามีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเจลแอลกอฮอล์ สบู่เหลว หน้ากากอนามัย เอาไปป้องกันเชื้อโรคที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน เพื่อสุขอนามัยที่ดีของคุณ และคนที่คุณรัก สั่งซื้อได้เลยในเว็บไซต์ OfficeMate

ขอบคุณข้อมูลจาก