ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax) หรือ VAT เป็นการเก็บภาษีจากการขายสินค้า หรือการให้บริการในแต่ละขั้นตอนการผลิต และจำหน่ายสินค้าหรือบริการ ทั้งที่ผลิต ภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ 

ใครมีหน้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

สำหรับผู้มีหน้าที่ในการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดนั้นประกอบไปด้วย

ใครมีหน้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

หน้าที่ของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีหน้าที่ต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้

1. เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ และออกใบกำกับภาษีเพื่อเป็น

หลักฐานในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 

2. จัดทำรายงานตามที่กฎหมายกำหนด 

3. ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีตามแบบ ภ.พ.30

หน้าที่ของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ที่ไหนบ้าง

 การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบ การให้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตาม แบบ ภ.พ.01 ณ สถานที่ดังต่อไปนี้

  1. กรณีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขต กรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากร พื้นที่ หรือ จะยื่นผ่านสำนักงานสรรพากรพื้นที่ สาขา (เขต) ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ 
  2. กรณีสถานประกอบการตั้งอยู่ในจังหวัดอื่น นอกเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ สำนักงาน สรรพากรพื้นที่สาขา (อำเภอ) ที่สถานประกอบ การตั้งอยู่ 
  3. กรณีมีสถานประกอบการหลายแห่ง ให้ยื่น คำขอจดทะเบียนได้ที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (เขต/อำเภอ) ที่ซึ่งสถานประกอบการที่เป็นที่ตั้งของสำนักงาน ใหญ่ตั้งอยู่ หากไม่มีสถานประกอบการที่เป็น สำนักงานใหญ่ ให้ผู้ประกอบการเลือกสถาน 
  4. กรณีสถานประกอบการตั้งอยู่ในท้องที่ตั้ง ใหม่ ที่ยังไม่มีสำนักงานสรรพากรตั้งอยู่ ให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (เขต/อำเภอ) ที่เคยควบคุมท้องที่นั้น 
  5.  กรณีเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในการกำกับ ดูแลของสำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ให้ ยื่นขอจดทะเบียนได้ ณ สำนักบริหารภาษีธุรกิจ ขนาดใหญ่ หรือจะยื่นผ่านสำนักงานสรรพากร พื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (เขต/ อำเภอ) ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ก็ได้

การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีข้อดีอย่างไร

1. กิจการสามารถขอคืนภาษีซื้อได้

กิจการสามารถนำภาษีซื้อมาขอคืนภาษีได้ เช่น เมื่อกิจการซื้อสินค้าราคา 20,000 บาท มีภาษีซื้อ 1,400 บาท ถ้ากิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถขอคืนภาษีซื้อ 1,400 บาทได้ ถ้ากิจการไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีซื้อจะถือเป็นภาระต้นทุนของกิจการ ไม่สามารถขอคืนภาษีซื้อได้

2. กิจการมีการจัดทำบัญชีที่เป็นระบบมากขึ้น

เมื่อกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการมีหน้าที่จัดทำใบกำกับภาษี ออกรายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย และยื่นแบบ ภ.พ.30 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ทำให้เมื่อมีรายการซื้อขายจึงต้องบันทึกในรายงานภาษีซื้อภาษีขาย ทำให้กิจการมีการจัดทำบัญชีที่เป็นระบบ

3 . พิ่มโอกาสทางธุรกิจ

เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการใบกำกับภาษีเวลาซื้อสินค้าหรือจ่ายค่าบริการ เพราะต้องการนำภาษีซื้อไปใช้เพื่อลดภาระภาษี การที่กิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มช่วยเพิ่มโอกาสในการหาลูกค้าได้มากขึ้น

4. สร้างความน่าเชื่อถือให้กิจการ

ในการติดต่อกับคู่ค้าที่ต้องการเอกสาร ภ.พ.20 (ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) ก่อนทำธุรกิจร่วมกัน การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มทำให้ธุรกิจดูมีความน่าเชื่อถือ มีตัวตนจริงและอยู่ในระบบของสรรพากร เพราะการที่กรมสรรพากรออก ภ.พ.20 ให้กิจการใดหมายถึงกรมสรรพากรได้ตรวจสอบความมีตัวตนของกิจการนั้นแล้ว

การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีข้อดีอย่างไร

ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีโทษอย่างไร

  1. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
  2.  เสียภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากยอดขาย สินค้าหรือบริการ ตั้งแต่วันที่มีหน้าที่จดทะเบียนฯ เพื่อเป็นผู้ประกอบการฯ 
  3. เสียเบี้ยปรับ 2 เท่าของเงินภาษีที่ต้องชำระ ในแต่ละเดือนภาษี 
  4. เสียเงินเพิ่มอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือ เศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระ
  5. ไม่มีสิทธิ์นำภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกผู้ประกอบการจดทะเบียนอื่นเรียกเก็บในขณะที่ยังไม่ได้จดทะเบียนฯ ไปหักออกจากภาษีที่ต้องชำระได้ (ภาษีขาย)

ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีโทษอย่างไร

สำหรับธุรกิจที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม นอกจากจะเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่ถูกต้องแล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกิจการได้อีกด้วย

PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ช่วยกิจการจัดทำงบการเงิน ให้ข้อมูลทางการเงินแบบ Real Time มีข้อมูลวิเคราะห์ในรูป Dashboard ช่วยผู้ประกอบการวางแผนและตัดสินใจเพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ

ลูกค้า OfficeMate ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 60 วัน มูลค่า 2,400 บาท

  • วันนี้ – 31 ธันวาคม 2024
  • คลิก https://bit.ly/PEAK-OFM (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
  • PEAK Call Center : 1485
  • LINE : @peakaccount
  • สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine

บทความที่เกี่ยวข้อง