ในช่วงที่ผ่านมา มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หลายคนที่ต้องรอการจัดสรรเตียงในโรงพยาบาลและเตียงสนาม บางคนที่อาการของโรครุนแรงขึ้น หรือพบว่ามีปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 96% ทำให้จำเป็นต้องหาถังออกซิเจนมาใช้เพื่อพยุงอาการ ถังออกซิเจน จึงกลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์การแพทย์ที่สำคัญและขาดตลาดไประยะหนึ่งก่อนหน้านี้ 

แม้ช่วงนี้ ถังออกซิเจนจะมีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการมากขึ้นจากโรคระบาด แต่ในช่วงเวลาปกติ ถังออกซิเจนยังมีไว้สำหรับใช้กับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น โรคปอดอุดกั้น หรือโรคปอดเรื้อรัง วันนี้ OfficeMate เลยมีข้อควรรู้ ข้อควรระวัง รวมถึงการเก็บรักษาสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้ถังออกซิเจนที่บ้าน ไปดูกันเลยค่ะ

ถังออกซิเจน คืออะไร?

ถังออกซิเจน คือถังที่บรรจุก๊าซออกซิเจน ใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ก๊าซออกซิเจนในถังออกซิเจนจะมีความเข้มข้นอยู่ที่ 99% เป็นตัวช่วยให้ออกซิเจนในเลือดของผู้ป่วยอยู่ในระดับที่เหมาะสม 

ถังออกซิเจน คืออะไร
ถังออกซิเจนทางการแพทย์ต้องเป็นถังสีเขียวและมี มอก. 540-2555

ข้อควรรู้ก่อนใช้ถังออกซิเจน

ก่อนใช้งานถังออกซิเจน อย่าลืมอ่านข้อควรรู้สำคัญที่จะช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ!

  1. ถังออกซิเจนที่ใช้ในทางการแพทย์ต้องบรรจุในถังสีเขียวเท่านั้น และต้องมีสัญลักษณ์ มอก.540-2555
  2. ข้อต่อของถังออกซิเจนต้องใช้เกลียวที่ได้มาตรฐาน CGA 540 เท่านั้น
  3. โดยปกติแล้ว ก๊าซออกซิเจนไม่ติดไฟ แต่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ไฟลุกไหม้รวดเร็วขึ้นได้ หากมีถังออกซิเจนเก็บไว้ที่บ้าน ควรมีถังดับเพลิงติดตั้งเอาไว้ด้วยเช่นกัน
  4. หัวปรับลดแรงดัน ต้องเป็นหัวสำหรับถังออกซิเจนทางการแพทย์เท่านั้น ห้ามดัดแปลงนำหัวอื่นๆ มาใช้งาน
  5. หากถังออกซิเจนขึ้นสนิม ไม่ควรใช้งาน

อ่านบทความเพิ่มเติม

ข้อควรระวังในการใช้ถังออกซิเจน

รู้หรือไม่? การใช้ถังออกซิเจนมีข้อควรระวังที่คุณไม่ควรมองข้าม เพื่อความปลอดภัยและการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ขณะใช้งานถังออกซิเจน ให้วางในแนวตั้ง และหาที่ยึดให้ตัวถังมั่นคง
  2. การปล่อยก๊าซออกซิเจนในกรณีที่ใช้คู่กับสายยาง (Cannula) ควรปรับวาล์วให้อยู่ในระดับ 1-5 ลิตรต่อนาที หากเกินกว่านั้น ปริมาณออกซิเจนที่มากเกินไปอาจทำให้โพรงจมูกบาดเจ็บหรือมีเลือดกำเดาไหลได้
  3. เคลื่อนย้ายถังออกซิเจนอย่างระมัดระวัง ห้ามให้ถังออกซิเจนตกหรือกระแทกโดยเด็ดขาด เพราะอาจระเบิดได้ 
  4. ไม่ควรวางหรือเก็บถังออกซิเจนเอาไว้ในห้องโดยสารรถยนต์
  5. ขณะใช้งานถังออกซิเจน ให้อยู่ห่างจากห้องครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อน รวมถึงความร้อนอื่นๆ เช่น บุหรี่ ไฟแช็ก ไดร์เป่าผม มีดโกนหนวดไฟฟ้า อย่างน้อย 5 เมตร
  6. ห้ามล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ หรือทามือด้วยปิโตรเลี่ยมเจลลี่ รวมถึงโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ขณะหยิบจับหรือใช้งานถังออกซิเจน
  7. ในบริเวณที่เก็บถังออกซิเจน หรือขณะใช้ถังออกซิเจน ห้ามฉีดสเปรย์ปรับอากาศ หรือสเปรย์ฉีดผม  
การปรับวาล์วปล่อยก๊าซออกซิเจน
ปรับวาล์วปล่อยก๊าซออกซิเจนให้อยู่ในระดับ 1-5 ลิตรต่อนาที
ถังออกซิเจน สาย Cannula
สาย Cannula

การดูแลและเก็บรักษาถังออกซิเจน

เรียนรู้วิธีการดูแลและเก็บรักษาถังออกซิเจนอย่างถูกวิธีเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน

  1. เก็บถังออกซิเจนในแนวตั้ง ห้ามวางในแนวนอนหรือวางพิงกำแพง 
  2. เก็บถังออกซิเจนให้ห่างจากห้องครัวและแหล่งความร้อน อย่างน้อย 1.5 เมตร
  3. เก็บถังออกซิเจนในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก อย่าเก็บในที่ปิด เช่น ตู้เสื้อผ้า
  4. ปิดวาล์วถังให้สนิททุกครั้งหลังใช้งานถังออกซิเจน
  5. ก่อนส่งคืน หรือนำไปเติมออกซิเจน ปิดวาล์วถังให้สนิท และเช็ดตัวถังด้านนอกด้วยแอลกอฮอล์ 70%
  6. ควรติดป้ายห้ามสูบบุหรี่หรือห้ามจุดไฟ ในบริเวณที่เก็บถังออกซิเจน

หากซื้อถังออกซิเจนมาใช้ที่บ้าน แนะนำให้ซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้ และต้องไม่ใช้ถังออกซิเจนเก่าที่ขึ้นสนิมแล้ว ทางที่ดีหากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงควรติดต่อโรงพยาบาลเพื่อหาทางรักษาหรือรับถังออกซิเจนจากโรงพยาบาลมาใช้ เพราะทางโรงพยาบาลจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาให้ข้อมูลและคอยดูแล ปลอดภัยเต็มร้อยและชัวร์กว่าแน่นอนค่ะ 

รู้จักกับ ‘เครื่องผลิตออกซิเจน’ 

เครื่องผลิตออกซิเจน

นอกจากถังออกซิเจน ยังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘เครื่องผลิตออกซิเจน’ เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเช่นเดียวกัน 

เครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับใช้งานในบ้านมีหลายขนาด มีตั้งแต่ 3 ลิตรต่อนาที ไปจนถึง 10 ลิตรต่อนาที ตัวเลขนี้หมายถึงปริมาณออกซิเจนที่เครื่องผลิตออกซิเจนสามารถผลิตก๊าซออกซิเจนออกมาได้ภายใน 1 นาที หากผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบรุนแรง และมีระดับออกซิเจนในเลือดน้อยมาก การใช้เครื่องผลิตออกซิเจนแบบ 3 ลิตรต่อนาทีอาจไม่เพียงพอ ควรใช้แบบ 5-6 ลิตรต่อนาที ถ้ามากกว่านั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งาน

เครื่องผลิตออกซิเจนนั้นมีข้อดีคือใช้งานได้ง่ายกว่า ประหยัดเวลามากกว่า และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า เพราะไม่ต้องคอยเติมก๊าซออกซิเจน แต่ข้อเสียคือจะไม่สามารถใช้งานได้เลยหากเกิดไฟฟ้าดับ หรือต้องการใช้ระหว่างเดินทางเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

ไม่ว่าจะเลือกใช้แบบไหน จำเป็นต้องใช้ หรืออยากซื้อเก็บสำรองเอาไว้ที่บ้าน ก็แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้รู้ก่อนจะดีกว่าค่ะ

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ตอนนี้ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่ก็ยังไม่อยู่ในจุดที่เรียกว่าคลี่คลาย เรายังต้องป้องกันตัวเองกันต่อไป เพื่อความปลอดภัยของตัวเราและคนรอบข้าง ช้อปอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ทั้งหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ หรืออุปกรณ์สำหรับเฝ้าระวัง เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว และชุดตรวจแอนติเจนได้แล้ววันนี้ที่ OfficeMate ช้อปวันนี้ เราส่งให้ฟรี เมื่อสั่งซื้อครบ 499 บาท! 

อ่านบทความอื่นๆ

ขอบคุณข้อมูล

0 CommentsClose Comments

Leave a comment