หลากหลายความเชื่อเกี่ยวกับการกินอาหารเช้าที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ บ้างก็ว่าการกินอาหารเช้าช่วยให้สมองแล่น ช่วยให้มีพลัง ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และอีกสารพัดประโยชน์ของมื้อเช้า แต่พนักงานออฟฟิศอย่างเรา ที่ตอนเช้าๆ กลับไม่ค่อยมีเวลา กว่าจะฝ่าดงรถติด กว่าจะแย่งขึ้นรถสาธารณะได้ มาถึงออฟฟิศก็ติดประชุมลากยาวยันเที่ยง สิ่งที่ตกถึงท้องมีแต่กาแฟ ไม่เคยได้กินมื้อเช้าเลยซักวัน แล้วแบบนี้หมายความว่าสุขภาพของเราจะเสียจริงมั้ย?
วันนี้ OfficeMate เลยมาบอกต่อข้อมูลอีกด้าน ว่าจริงๆ แล้วการอดมื้อเช้าอาจไม่ได้แย่อย่างที่คิด แถมยังส่งผลดีบางอย่างอีกด้วย ไปดูกัน!
งานวิจัยเผย การอดมื้อเช้าไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกาย
ก่อนหน้านี้หลายคนคงเคยอ่านงานวิจัย หรือได้ยินผ่านหูกันมาบ้างว่าการอดมื้อเช้านั้น ส่งผลเสียต่อสุขภาพในหลายๆ ด้าน แต่งานวิจัยอีกมุมหนึ่ง ก็ออกมาบอกว่า จริงๆ แล้วการอดมื้อเช้านั้น ไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกาย แถมยังมีบางมุมที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
อย่างผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยโมนาช ประเทศออสเตรเลีย บอกว่าอาหารเช้าไม่ได้มีผลกับระบบเผาผลาญ หรือช่วยลดน้ำหนัก ส่วนการอดมื้อเช้าก็ไม่ได้ทำให้อ้วน หรือทำให้หิวโหยและกินอาหารมากขึ้นแต่อย่างใด
ทั้งยังมีนักโภชนาการจากญี่ปุ่น ที่ออกมาบอกตรงกันว่าการอดมื้อเช้าไม่ได้ส่งผลต่อระบบเผาผลาญ ว่าง่ายๆ คือ แม้จะไม่ได้กินมื้อเช้าก็ไม่ได้ทำให้ระบบเผาผลาญแย่ลง และไม่ได้ทำให้น้ำหนักขึ้น เพราะปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายเผาผลาญไปในแต่ละวันระหว่างคนที่อดมื้อเช้า กับคนที่กินมื้อเช้านั้นแทบไม่แตกต่างกัน
นอกจากนั้น หากมองไปยังผลงานวิจัยเก่าๆ ที่ผ่านมาถึงประโยชน์ของการกินมื้อเช้า พบว่าผลการวิจัยเหล่านั้น มาจากการสังเกต บันทึกข้อมูล และสรุปผล ไม่ได้มาจากการทดลองเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มตัวอย่างที่อดมื้อเช้า vs กลุ่มตัวอย่างที่กินมื้อเช้า แบบจริงจัง ดังนั้น ก็คงพูดได้ไม่เต็มปากว่า การกินมื้อเช้ามีประโยชน์ เพราะการที่มนุษย์คนนึงจะมีสุขภาพดีได้ มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่เกี่ยวข้อง และส่งเสริมกัน
การอดมื้อเช้าอาจมีประโยชน์มากกว่าที่คิด!
อย่างแรกเลย คือ การอดมื้อเช้าอาจช่วยให้เราคุมน้ำหนักได้มากกว่า เพราะปริมาณแคลอรีที่ได้รับต่อวันนั้นน้อยลง เพราะอย่างที่บอกว่าการอดมื้อเช้าไม่ได้ทำให้เราหิวโหย หรือตบะแตกในมื้อเที่ยง สำหรับบางคนอาจจะหิวมากขึ้นก็จริง แต่ก็มีงานวิจัยที่บอกเอาไว้ว่าการหิวโหยจากมื้อเช้านั้น ทำให้เรากินเพิ่มขึ้นเพียง 30% เท่านั้น แถมแคลอรีที่เพิ่มขึ้นมาจาก 30% นี้ รวมๆ แล้วยังน้อยกว่าการกินอาหารครบสองมื้อ เช้า+เที่ยง นอกจากนั้น ยังมีงานวิจัยที่บอกว่าการอดมื้อเช้าช่วยให้เราลดปริมาณแคลอรีต่อวันลงได้ราวๆ 400 แคลอรีเลยทีเดียว
นอกจากนั้น หากใครเคยได้ยินเรื่องการทำ IF หรือ Intermittent Fasting สูตรลดน้ำหนัก ด้วยการจำกัดเวลากิน ว่ากันว่าเป็นสูตรที่ช่วยลดไขมัน และช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมใช้สูตรกิน 8 ชั่วโมง และอดอาหารอีก 16 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงที่อดอาหารนี้ ระดับอินซูลินในร่างกายของเราจะลดลง ส่วนระดับโกรทฮอร์โมนจะเพิ่มขึ้น และเมื่อไม่มีอาหารในระบบย่อยอาหาร ร่างกายก็จะดึงไขมันมาใช้ ทำให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดลงนั่นเอง
นอกจากนั้น การทำ IF ยังมีประโยชน์อื่นๆ คือ ช่วยลดไขมันในเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์ ช่วยเพิ่มความจำ ลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์ เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งประโยชน์ส่วนใหญ่ก็มาจากการที่ร่างกายของเราหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมามากขึ้นนั่นเอง ซึ่งบางคนยังบอกว่า การทำ IF ช่วยให้ออกกำลังกายได้มากขึ้นอีกด้วย
IF เกี่ยวอะไรกับการอดมื้อเช้า?
นั่นก็เพราะว่าหลายคนที่ทำ IF ส่วนใหญ่จะเลือกกิน 8 อด 16 ซึ่งมักจะเริ่มต้นมื้อแรกในตอนเที่ยงวัน และจบมื้อภายในสองทุ่ม และถ้าดูจากประโยชน์ของ IF แล้ว อาจอนุมานได้ว่าการอดมื้อเช้าก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด
หากจะเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์รองรับเหตุผลในข้อนี้ ขออ้างอิงผลการศึกษาจาก Mayo Clinic ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สรุปว่า ผู้ชายสามารถอดอาหารได้นาน 16 ชั่วโมง และผู้หญิงอดอาหารได้นาน 14 ชั่วโมง เราสามารถเข้านอนตอนสี่ทุ่ม ตื่นหกโมงเช้าไปทำงาน และเริ่มกินอาหารมื้อแรกตอนเที่ยงได้แบบสบายๆ โดยไม่มีอาการหิวโหยหรืออ่อนเพลีย (ข้อมูลจาก The Standard)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น OfficeMate ไม่ได้ชวนให้ทุกคนมาอดอาหารเช้า ใครที่ทานมื้อเช้าอยู่แล้วก็ทานต่อไปได้ แต่สำหรับใครไม่ได้ทานมื้อเช้าก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าการกินอาหารมื้อเช้า ก็คือเรากินอะไรเข้าไปต่างหาก เพราะถ้ากินแต่ของที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะอดหรือกินมื้อเช้าก็ทำให้อ้วน และเสี่ยงโรคได้อยู่ดี
สำหรับบางคนถ้าอดอาหารแล้วมีอาการวิงเวียน อ่อนเพลีย หรือเป็นลม เพราะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ก็แนะนำให้กินให้ครบ 3 มื้อ แต่เลือกกินอาหารดีๆ บวกกับออกกำลังกายก็ช่วยลดน้ำหนักและลดไขมันได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้นแล้ว ใครใคร่กินมื้อเช้าก็กิน ใครใคร่อดมื้อเช้าก็อด และหันมาโฟกัสที่อาหารการกินในแต่ละมื้อแทนดีกว่า
สำหรับมื้อเช้า แนะนำว่าควรกินอาหารที่ให้พลังงานและดีต่อสุขภาพ อย่างไข่ นม ไก่ ชีส ซีเรียลธัญพืช ขนมปังโฮลวีต ถั่วต่างๆ หรือผักใบเขียว ส่วนมื้อกลางวัน แนะนำให้กินให้ครบ 5 หมู่ งดของทอด ของมัน เพราะนอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังหนักท้อง อาจทำให้ง่วงหนักในตอนบ่าย และมื้อเย็นควรเป็นอาหารย่อยง่าย อย่างสุกี้ สลัดผัก หรือใครที่อยากจัดหนัก ก็แนะนำให้กินเนื้อแบบไม่ติดมัน เช่น เนื้อไก่ หรือเนื้อปลา ลดแป้ง ลดทอด และกินผักแกล้มเยอะๆ เท่านี้ก็ช่วยให้สุขภาพดีได้แล้ว
นอกจากอาหารการกิน อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระปรี้กระเปร่า และยังช่วยบรรเทาความเครียดได้ในช่วงที่ต้องอยู่ติดบ้านแบบนี้
ช้อปอุปกรณ์ออกกำลังกาย เอาไปเปิดยิมส่วนตัวที่บ้านได้เลยที่ OfficeMate ช้อปวันนี้ส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 นี้เท่านั้น!
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
- 8 ไอเทมสำหรับออกกำลังกายที่บ้าน ฉบับมือใหม่ ฟิตได้ไม่ต้องง้อยิม!
- อยู่บ้าน ก็เบิร์นได้! ด้วย HIIT Workout เทคนิคช่วยสลายไขมันใน 30 นาที
- เที่ยงนี้…กินไรดี? แก้ปัญหาระดับชาติแบบไม่ขาดสารอาหาร
ขอบคุณข้อมูลจาก