เชื่อว่าเกือบทุกบ้าน และทุกออฟฟิศจะต้องมีปลั๊กไฟที่เรียกว่าปลั๊กพ่วงหรือปลั๊กสามตา เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าไว้สำหรับใช้งานเชื่อมต่อไฟฟ้ากระจายไปยังจุดต่าง ๆ บล็อกนี้ OfficeMate จะมาชวนคุณไปดูว่าปลั๊กไฟพ่วงที่ได้มาตรฐานนั้นเป็นแบบไหน และหากจะซื้อปลั๊กพ่วงมาใช้นั้นควรพิจารณาจากอะไรบ้าง เพื่อให้ได้ปลั๊กที่มีมาตรฐาน เหมาะสมกับการใช้งาน และปลอดภัยมากที่สุด

ชวนเช็กมาตรฐานปลั๊กไฟดูจากอะไรบ้าง

1. มาตรฐาน มอก.

อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดจะต้องผ่านมาตรฐานรองรับ มอก. หรือ “มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม” จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ก่อน จึงจะสามารถจำหน่ายได้อย่างถูกต้อง ซึ่งปลั๊กไฟหรือปลั๊ก 3 ตา ก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ต้องมีมาตรฐาน มอก. รองรับเช่นกัน ซึ่งมอก. สำหรับปลั๊กพ่วงคือ มอก. 2432-2555 ครอบคลุมตั้งแต่ตัวรางปลั๊ก สายไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ สวิตช์เปิด-ปิด ไปจนถึงแรงดันไฟฟ้า เวลาจะซื้อปลั๊กทุกครั้งจะต้องดูฉลากว่ามีสัญลักษณ์ มอก.2432-2555 เสมอจึงจะมั่นใจได้ว่าปลอดภัยได้มาตรฐาน

ปลั๊กไฟได้มาตรฐาน_OfficeMate_1

2. เต้ารับและเต้าเสียบต้องเป็นขากลม 3 ขา

อุปกรณ์ปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานเต้าเสียบจะต้องเป็นขากลม 3 ขาเท่านั้น นอกจากนั้นต้องมีติดตั้งฉนวนกันไฟที่โคนขาเต้าเสียบอย่างแน่นหนาด้วย เมื่อเสียบกับเต้ารับแล้วจะต้องแน่นพอดีไม่หลวม ปลั๊กพ่วงหรือปลั๊กไฟรุ่นเก่าที่เป็นขาแบนนั้นถือว่าไม่ผ่านมาตรฐานควรหลีกเลี่ยง ส่วนเต้ารับก็ต้องมี 3 ช่อง สอดรับกับตัวเต้าเสียบ คือ L (Line) N (Neutral) และ G (Ground) เป็นขาสำหรับรับกระแสไฟฟ้า 2 ขา และขาสำหรับสายดินเพื่อป้องกันไฟลัดวงจร โดยแต่ละช่องจะมีม่านนิรภัยปิดเต้ารับเอาไว้ทุกช่อง

3. รางปลั๊กผลิตจากวัสดุที่ไม่ลามไฟ

ตัวปลั๊กไฟหรือรางปลั๊กจะต้องทำมาจากวัสดุที่ไม่ลามไฟไม่เป็นฉนวนไฟฟ้าหรือนำความร้อน วัสดุที่ดีควรจะทำมาจากพลาสติก ABS พลาสติก AVC หรือ PC ที่ผ่านมาตรฐาน UL94 จะช่วยป้องกันความร้อนไม่ให้เกิดไฟไหม้หรือไฟฟ้าลัดวงจรได้

ปลั๊กไฟได้มาตรฐาน_OfficeMate_2

4. มีระบบตัดไฟ

ปลั๊กพ่วงหรือปลั๊ก 3 ตาที่ได้มาตรฐานจะต้องมีระบบตัดไฟหรือเบรกเกอร์นิรภัย (Circuit Breaker) มาด้วยในตัวโดยเฉพาะปลั๊กพ่วงที่มีตั้งแต่ 3 เต้ารับขึ้นไปเป็นข้อบังคับเลยว่าต้องมีเบรกเกอร์นิรภัยติดมาด้วย เพื่อช่วยตัดวงจรไฟฟ้าในกรณีที่มีการใช้กระแสไฟฟ้าสูงมากเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้เกิดไฟไหม้ได้ ทั้งนี้ ระบบตัดไฟควรจะเป็นระบบ RCBO หรือ Thermal Circuit Breaker เท่านั้น ห้ามใช้ฟิวส์ในการตัดไฟแบบปลั๊กไฟรุ่นเก่าอีกต่อไป

5. แรงดันไฟฟ้าและการรองรับกระแสไฟฟ้า

ปลั๊กพ่วงหรือปลั๊ก 3 ตาที่ได้มาตรฐานจะต้องระบุแรงดันไฟและการรองรับกระแสไฟฟ้าบนฉลากอย่างละเอียดด้วย ซึ่งปลั๊กพ่วงมาตรฐานจะสามารถรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 50V (โวลต์) แต่ไม่เกิน 440 V (โวลต์) ส่วนการรองรับกระแสไฟต้องไม่เกิน16A (แอมแปร์) ถ้าไม่อยู่ในขอบข่ายนี้ถือว่าไม่ผ่านมาตรฐาน มอก.

6. สวิตซ์และสายไฟต้องได้มาตรฐาน

ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตซ์เปิด-ปิดบนรางปลั๊กไฟนอกเหนือจากสวิตซ์หลัก เอาไว้ทำหน้าควบคุมเต้ารับแต่ละช่อง ซึ่งมีลักษณะของการต่อแบบขนานที่ช่วยควบคุมการจ่ายไฟของของปลั๊กแต่ละรู ซึ่งฟังก์ชันนี้ไม่ได้เป็นฟังก์ชันบังคับบางยี่ห้ออาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีก็จะต้องได้รับมาตรฐานรับรองมอก. 824-2551 หรือ IEC61058 ด้วย ส่วนตัวสายไฟของปลั๊กพ่วงนั้นจะต้องเป็นสายกลมที่แรงดันไฟฟ้าไม่ต่ำกว่าเต้าเสียบและเต้ารับ หลีกเลี่ยงการใช้งานสายไฟแบน เพราะถือว่าไม่ผ่านมาตรฐาน มอก.

ปลั๊กไฟได้มาตรฐาน_OfficeMate_3

เลือกปลั๊กไฟคำนึงถึงลักษณะการใช้งาน

การจะเลือกซื้อปลั๊กไฟพ่วงหรือปลั๊กสามตานั้นนอกจากจะพิจารณาจากมาตรฐานมอก.และ 6 ข้อข้างต้นแล้วเราจำเป็นจะต้องพิจารณาจากความเหมาะสมในการใช้งานด้วย อย่างแรกเลยคือดูจากวัตต์ที่ใช้งาน เพราะปลั๊กพ่วงแต่ละอันก็รองรับกำลังวัตต์ได้ต่างกัน เช่น 2,000w 2,300w 2,500w เป็นต้น เราต้องดูว่าจะเลือกใช้งานแบบไหนเพื่อให้กระจายกำลังไฟได้เหมาะสมกับการใช้งาน 

นอกจากนั้นยังต้องพิจารณาถึงการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟม แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ไอทีอื่น ๆ ควรจะเลือกปลั๊กพ่วงแบบที่มีหัวเสียบ USB ก็จะทำให้สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างสะดวกขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นอาจจะต้องดูเรื่องความยาวของสายไฟด้วย ควรเลือกปลั๊กที่มีสายยาวเหมาะสมไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป เพราะหากสายไฟไม่พอดีอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุและอันตรายระหว่างใช้งานขึ้นมาได้

ปลั๊กไฟพ่วงหรือปลั๊กสามตาเป็นอุปกรณ์เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เรียกได้ว่ามีเห็นใช้กันจนชิน ซึ่งหากคิดจะเลือกซื้อกันทั้งทีควรเลือกแบบที่มีมาตรฐานไปเลยดีกว่า จะได้มั่นใจว่าปลอดภัยในระยะยาว ลดความเสี่ยงจากอุปกรณ์ชำรุดหรือไม่มีคุณภาพซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรจนเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้ ซึ่งสามารถเข้าไปเลือกซื้อปลั๊กไฟพ่วงที่มีมาตรฐานแบบง่าย ๆ ได้ที่ OfficeMate สะดวกสบายสั่งซื้อง่ายได้ 24 ชั่วโมง พร้อมส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง: safesavethai และ 168watt