จอคอมพิวเตอร์สำหรับการทำงานควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการทำงานแต่ละชนิด เพราะหากใช้งานไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลเสียต่อผู้ใช้งานได้ และหากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ก็อาจสะสมผลเสียและส่งผลในระยะยาวจนทำให้ผู้ใช้งานเกิดอาการบาดเจ็บหรือเป็นโรคร้ายอย่างอื่นตามมาได้ ดังนั้นเราจึงเช็กสเปคจอคอมพิวเตอร์รวม ๆ ในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ เพื่อให้คุณเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม

รวมสเปคจอคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับการทำงานแต่ละแบบ

การเลือกจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้น ในเบื้องต้นเราต้องเช็กก่อนว่า เราต้องการใช้งานจอมอนิเตอร์รูปแบบใด เพราะการใช้งานสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานจอมอนิเตอร์เพื่อเล่นเกม ทำงานออฟฟิศ งานเอกสารทั่วไป หรือการทำงานสำหรับกราฟิก เป็นต้น

จอคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมหรือเกมมิ่ง

ขนาดของหน้าจอ

หน้าจอคอมพิวเตอร์มีหลายขนาดเพื่อตอบสนองการใช้งาน โดยส่วนใหญ่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่หลายคนเลือกใช้จะมีขนาด 23 นิ้วขึ้นไป ส่วนคอมเกมเมอร์อาจต้องการหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น เช่น 27 นิ้ว และตอนนี้มีให้เลือกทั้งจอแบบปกติ กับ จอโค้ง ให้เลือก

ความละเอียดของหน้าจอ

ความละเอียดของหน้าจอ คือข้อที่สำคัญในการเลือกจอคอมเล่นเกม ความละเอียดของหน้ามีผลกับสีสันของภาพที่จะแสดงบนหน้าจอ หน้าจอใช้งานทั่วไปมีความละเอียด 1080p หน้าจอสำหรับงานกราฟิกอาจเลือกความละเอียดสูง 2K-4K เพื่อที่จะสามารถมอบภาพที่สดใส รายละเอียดคมชัด ไม่ว่าจะรับชมที่มุมใดก็ตาม และหากมีโหมด Low Blue Light ช่วยลดแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากหน้าจอ เพื่อปกป้องดวงตาของคุณจากผลกระทบที่เป็นอันตราย

พาเนลหรือประเภทหน้าจอ LCD

พาเนลหรือประเภทหน้าจอ LCD มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ TN พาเนลจอทั่วไป, IPS (เทคโนโลยี IPS ที่รวดเร็วการครอบคลุมสีที่น่าทึ่งและการเล่นเกมที่ไม่สะดุดและไม่สะดุดในการออกแบบที่โดดเด่นปรับปรุงใหม่) มุมมองภาพปานกลางและค่าสีถูกต้อง, VA มุมมองภาพกว้างและค่าสีถูกต้องกว่า หรือ สรุปง่าย ๆ คือ

  • TN มีมุมมองของภาพที่ไม่ค่อยมาก
  • IPS มีมุมมองปานกลาง สีปานกลาง
  • VA มีมุมมองที่กว้าง เม็ดสีใช้งานดี

ค่ารีเฟรชเรท

ค่ารีเฟรชเรทของจอคอมพิวเตอร์ ค่ารีเฟรชเรทเป็นค่าที่ทำให้หน้าจอคอมพิวเตอร์แสดงผลภาพที่ไหลลื่น ซึ่งการแสดงผลหน้าจอคอมพิวเตอร์จะต้องแสดงผลภาพนิ่งที่แสดงผ่านทางหน้าจอใน 1 วินาทีได้หลายเฟรมภาพ เพื่อทำให้การส่งภาพของเราไม่มีสะดุด ยกตัวอย่างเช่นจอ 60 Hz, 120 Hz และ 144 Hz โดยค่าทั่วไปจะอยู่ที่ 60Hz สูงสุดที่ 240 Hz เหมาะสำหรับการเล่นเกมเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium ทำให้การเล่นเกมไหลลื่น ไม่สะดุด แก้ปัญหาภาพขาดหรือกระตุก

อุปกรณ์เสริม

จอมอนิเตอร์มาตรฐานควรมีช่อง HDMI และ DisplayPort อย่างน้อย 1 ช่อง ใช้เพื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับทีวี รวมถึงเลือกที่มีพอร์ต USB, 3.5mm และอื่น ๆ ส่วนอุปกรณ์เสริมสำหรับหน้าจออย่างขาตั้งหรือคอคอมพิวเตอร์ ซึ่งควรปรับระดับหรือองศามุมมองได้ หรือ รองรับการติดตั้งกับขาแขวนติดผนังได้ไหม

จอคอมพิวเตอร์สำหรับงานกราฟิก

พิจารณาเลือกจากชนิดของจอภาพ

การวัดประสิทธิภาพของจอภาพคอมพิวเตอร์ สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีนั้นก็จะมีการวัดที่แตกต่างกันไป ดังนี้

-ความสว่างของหน้าจอ

วิธีแรกคือการวัดความสว่างของหน้าจอ โดยค่ามาตรฐานมักจะอยู่ที่ประมาณ 120 – 500 cd/m2 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและแสงสว่างจากภายนอก และความสว่างก็ไม่ควรจะน้อยหรือมากเกินไปด้วย

-ขนาดของจอภาพ

ขนาดของจอภาพก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ เพราะขนาดของหน้าจอคอมพิวเตอร์จะสัมพันธ์กันกับลักษณะการใช้งาน หากจอภาพมีขนาดที่ไม่เหมาะกับการใช้งานแล้ว ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานของคอมพิวเตอร์ลดน้อยลงไปด้วย

-อัตราส่วนของจอภาพ

จอมอนิเตอร์ในปัจจุบันจะมีอัตราส่วนของจอภาพหลัก ๆ 3 อัตราส่วน ได้แก่ 4 : 3 ซึ่งจะเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบทั่วไป ส่วน 16 : 9 และ 16 : 10 จะเป็นหน้าจอแบบกว้างหรือที่เรียกว่า Wide Screen ซึ่งหน้าจอในลักษณะนี้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความกว้างของหน้าจอ เช่น การดูหนัง การทำกราฟิก หรือการตัดต่อวีดิโอ เป็นต้น

-ความละเอียดของจอภาพ

ความละเอียดของจอภาพเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยวัดประสิทธิภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยวัดจากจำนวนพิกเซลตามความกว้างและความสูงที่สามารถแสดงผลได้ ได้แก่ Full HD คือความละเอียดของจอภาพ 1920 x 1080 (1080p), 2K (QUD) คือความละเอียดของจอภาพ 2560 x 1440 (1440p) และ 4K (UHD) คือความละเอียดของจอภาพ 4096 x 2160 และ 3840 x 2160

-ระดับพิกเซล

ความคมชัดของจอคอมพิวเตอร์สามารถวัดได้ด้วยระยะห่างของพิกเซลสีเดียวกัน (ในหน่วยมิลลิเมตร) หรือเรียกว่าระดับพิกเซล ซึ่งระดับพิกเซลจะแปรผกผันกับความคมชัด คือยิ่งระดับพิกเซลมีค่าน้อย ความคมชัดของภาพก็จะยิ่งมากขึ้น

-อัตรารีเฟรช

อัตรารีเฟรช หรือ Refresh Rate คือจำนวนครั้งที่ภาพถูกฉายบนจอมอนิเตอร์ภายใน 1 วินาที ฉะนั้นหากค่า อัตรารีเฟรชยิ่งมากก็จะยิ่งทำให้การแสดงผลของหน้าจอคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

จอคอมพิวเตอร์สำหรับงานเอกสาร

การเลือกจอคอมพิวเตอร์สำหรับงานเอกสารถือว่าไม่ต้องพิจารณาอะไรมากมาย เพียงแต่เน้นการแสดงผลของหน้าจอเป็นพิเศษ เพื่อช่วยถนอมสายตาสำหรับการใช้งานที่จำเป็นต้องเพ่งตัวอักษร และหากคุณเป็นชาวออฟฟิศที่ต้องทำงานด้วยคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ซึ่งมีชาวออฟฟิศหลาย ๆ คนที่ใช้เวลาการทำงานอยู่ที่หน้าจอมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ยิ่งต้องพิจารณาเลือกใช้หน้าจอมอนิเตอร์ที่มีการแสดงผลแบบโหมดถนอมสายตาด้วย เพื่อช่วยถนอมการใช้สายตา และที่สำคัญอย่ามองข้ามความละเอียดในการแสดงผล เพราะหากเป็นการทำงานกับเอกสารสำคัญ ๆ ย่อมต้องการความละเอียดของภาพที่สูง ดังนั้นการเลือกใช้จอคอมพิวเตอร์ยี่ห้อที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ตรงกับสเปคของการทำงานกับเอกสาร ยิ่งช่วยให้เอกสารของคุณดูมีความเรียบร้อยมากขึ้น

และอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ก็คือ เวลาตอบสนองคือเวลาที่ใช้ขณะพิกเซลเปลี่ยนจากสีดำเป็นขาว และเปลี่ยนกลับมาเป็นสีดำอีกครั้ง ภายในมิลลิวินาที โดยเวลาตอบสนองนี้ยิ่งน้อยก็จะยิ่งทำให้การแสดงผลของจอภาพคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้พลังงานนอกจากการแสดงภาพออกมาได้คมชัดและรวดเร็วแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยคือการใช้พลังงานที่พอดี ไม่ควรจะใช้พลังงานมากเกินไป เพราะจะทำให้กินไฟมาก จึงทำให้ปัจจุบันมีหน้าจอคอมหลายรุ่นที่สามารถควบคุมการใช้งานไม่ให้ใช้พลังงานมากเกินไปนั่นเอง

จอคอมพิวเตอร์สำหรับคนเล่นหุ้น

การเลือกซื้จอคอมพิวเตอร์สำหรับคนเล่นหุ้นนั้น อาจจะต้องเลือกซื้อมากกว่า 1 เครื่อง เพราะก่อนที่เราจะตัดสินใจเทรดหุ้นสักตัว จำเป็นต้องเสพสื่อและมองราคาตลาดโลกจากธุรกิจโลกวงการต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด เรียกได้ว่านักลงทุนหรือนักเทรดหุ้นจะต้องมีสายตาอันกว้างไกล ดังนั้นการเลือกเสพสื่อหรือสังเกตกราฟในการเล่นหุ้นผ่านหน้าจอมอนิเตอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากมีการเลือกใช้หน้าจอที่ดี มีประสิทธิภาพ ก็สามารถช่วยทำให้เราผู้ใช้งานได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์และต่อเนื่องได้ เพราะหากเลือกใช้หน้าจอแสดงผลที่มีการแสดงเม็ดสี หรือการแสดงผลที่ผิดเพี้ยน อาจส่งผลในระยะยาวต่อระบบสายตาของผู้ใช้งานได้ เพราะต้องมีการเพ่งเล็งบวกกับการวิเคราะห์อยู่ตลอดเวลา

และอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกันคือ ค่าขอบเขตสี Color Gamut หรือขอบเขตสีของหน้าจอ (Color Space)เพราะหน้าจอแต่ละรุ่นยี่ห้อให้ค่าการแสดงผลของสีที่ต่างกัน ซึ่งความชัดของสี และ ความแม่นยำต่อการนำไปใช้งานจริงก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะมีหลายครั้งที่ตอนอยู่ในคอมสีนี้ พอตีพิมพ์ออกมาได้เป็นอีกสี โดยเราสามารถจำแนกขอบเขตสีของจอคอมพิวเตอร์ปัจจุบันออกเป็น 4 มาตรฐานดังนี้

sRGB เป็น ค่าสีที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ และ สื่อดิจิทัล

AdobeRGB เป็นขอบเขตของสีที่พัฒนาโดย Abode ใช้ในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยโปรแกรมจากตระกูล Adobe ทั้งหลาย แต่ต้องใช้กับอุปกรณ์แสดงผลที่มีราคาค่อนข้างสูงจึงไม่เป็นที่นิยมเท่าค่าสี sRGB

DCI-P3 (P3) เป็นค่ามาตรฐานสีที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอเมริกา มีค่าความกว้างของสีมากกว่า sRGB เล็กน้อย และให้ค่าสีออกมาเป็น % เหมือนกับ sRGB

NTSC ค่ามาตรฐานสี ที่มีขอบเขตสีสูงมาก โดยหากเทียบมาตรฐานสีที่ใกล้เคียงแล้ว NTSC 72% จะมีสีที่ใกล้กับ sRGB ที่ 100% เลยทีเดียว

ข้อดีของการเลือกใช้จอมอนิเตอร์ที่เหมาะสม

เห็นภาพชัดเจน จดคอมที่ดีจะทำให้เราเห็นภาพชัดเจนลดโอกาสเสี่ยงต่าง ๆ ได้ เช่น การทำงานเกี่ยวกับการเงินและตัวเลข ถ้าจอคอมพิวเตอร์ประมวลผลออกมาผิดพลาดอาจจะส่งผลต่อธุระกิจนั้นได้ อาจจะขาดทุนได้เพราะการคำนวนผิดพลาดจากจอคอมพิวเตอร์

ลดอาการเพ่งเล็ง จอคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่เหมาะสม จะทำให้ผู้ใช้สบายตาและไม่ต้องเพ่งเล็งที่ตัวหนังสือหรือจอภาพมากเกินไป เพราะถ้าเราเพ่งเล็งมากเกินไปจะส่งผลให้เราปวดลูกตาได้ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเสียสายตา สายตาสั้นได้

เล่นเกมสนุก สายเกมเมอร์จะรู้ดีที่สุดว่าหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบไหนยี่ห้อไหนดีสุดในการเล่นเกม แต่ละเกมที่เล่นสีสันไม่เหมือนกัน เช่น เกมที่สร้างความตื่นเต้นและความบันเทิงที่มีตัวการ์ตูนสีสันสดใสน่ารักมากมาย ซึ่งเกมนี้ต้องใช้สมาธิในการเล่นเป็นอย่างมากถ้าจอคอมไม่ดีจะทำให้เล่นเกมไม่สนุก ดังนั้นหากคอเกมต้องการสร้างความบันเทิงผ่านการเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง ก็ควรเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ที่มีความเหมาะสม เพื่อประโยชน์การใช้งานที่ลงตัวที่สุด

และในปัจจุบันมีการผลิตหน้าจอคอมพิวเตอร์ชนิดโค้งเพื่ออำนวยความสะดวก และยกระดับการใช้งานไปอีกขั้น ซึ่งการเลือกใช้หน้าจอมอนิเตอร์ชนิดโค้ง มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงจำเพาะด้วย ซึ่งจอโค้งเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเลือกซื้อจอ แน่นอนว่าราคาจะแพงกว่าจอปกติในปสเปคเดียวกันอยู่แล้ว แต่เราจะได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยมุมมองที่กว้างมากกว่า และจากผู้ใช้หลายคนบอกแล้วว่า มันไม่ได้ทำให้ปวดตาอย่างที่คิด แต่บางมุมอาจเกิดแสงจ้าที่อาจขัดใจเราอยู่บ้าง เพราะแหล่งกำเนิดแสงมาจากหลายมุมแทนที่จะเป็นเพียงมุมเดียว สำหรับจอโค้งที่ดี จะมีความกว้างอย่างต่ำที่ 30 นิ้ว และมีรัศมีความโค้งที่ 1800R แต่ยิ่งตัวเลขน้อยลงเท่าไหร่ ก็จะมีความโค้งมากขึ้น (ต่ำสุดคือ 1000R) ดังนั้นก่อนที่จะพิจารณาเลือกซื้อจอโค้งหรือจอปกติ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงคือความเหมาะสมในการใช้งาน และความถนัดในการใช้งานแต่ละบุคคลอีกด้วย

การเลือกใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ตรงกับสเปคหรือการใช้งานที่ถูกต้อง นอกจากจะช่วยทำให้เกิดการใช้งานที่คล่องและลงตัวแล้ว ยังส่งผลดีทางอ้อมต่อระบบการทำงานของร่างกายผู้ใช้งานด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสรีระของผู้ใช้งานในระหว่างการใช้งาน รวมทั้งการประหยัดค่าใช้งาน และยังได้งานที่มีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการอีกด้วย

OfficeMate มีจอคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ พร้อมโปรโมชั่นดีๆมากมาย ช้อปเลย!