เตาอบมีหลากหลายขนาด หลายเรทราคา และมีฟังก์ชันการใช้งานแตกต่างกันออกไป การจะเลือกซื้อเตาอบให้คุ้มค่า ซื้อมาได้ใช้ ไม่เสียตังค์ฟรี ควรเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การทำอาหารของตัวเอง จะซื้อมาทำกินที่บ้าน หรือซื้อเพื่อใช้ในร้านอาหาร-คาเฟ่ ต้องเลือกเตาอบแบบไหน? วันนี้ OfficeMate มีเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเตาอบ และวิธีการเลือกซื้อเตาอบมาแนะนำ ไปดูกันเลย!
เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ ‘เตาอบ’
เตาอบแตกต่างจากไมโครเวฟ
เตาอบกับไมโครเวฟมีหน้าตาคล้ายคลึงกัน แต่ลักษณะการใช้งาน รวมถึงแหล่งการให้ความร้อนนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไมโครเวฟจะใช้ความร้อนจากคลื่นไมโครเวฟ ทำให้อาหารร้อนขึ้น หรือสุกได้ในเวลาสั้นๆ ใช้สำหรับอุ่นอาหาร หรือทำเมนูง่ายๆ ไม่สามารถปรุงอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูงได้ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองทำงานเช้า เอาไว้อุ่นข้าว หรืออุ่นอาหารค้างคืนแบบสะดวกและรวดเร็ว
ส่วนเตาอบใช้ความร้อนจากไฟฟ้า มีความร้อนหลายระดับให้เลือก ใช้อุ่นอาหารได้เช่นกัน แต่ก็ยังสามารถใช้ปรุงอาหารเมนูอื่นๆ ที่ต้องใช้ความร้อนสูงได้ เตาอบทำได้หลากหลายเมนู ทั้งตุ๋น ย่าง ปิ้ง ทำขนมปัง พิซซ่า พาย และอื่นๆ อีกมากมาย เหมาะกับคนที่มีเวลา ทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ หรือใช้ในร้านอาหาร และคาเฟ่ การใช้เตาอบอุ่นอาหารให้ร้อน จะช่วยคงรสชาติและความสดใหม่ได้มากกว่าไมโครเวฟ
ประเภทของเตาอบ
1. เตาอบไฟฟ้า
เตาอบไฟฟ้านิยมใช้กันกว้างขว้าง ทั้งใช้ในครัวเรือน และใช้ในธุรกิจร้านอาหาร ร้านขนม หรือคาเฟ่ แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ได้แก่ เตาอบไฟฟ้าแบบตั้งโต๊ะ และเตาอบไฟฟ้าแบบฝัง หรือแบบบิลท์อิน
- เตาอบไฟฟ้าตั้งโต๊ะ (Countertop Oven)
เตาอบไฟฟ้าแบบตั้งโต๊ะ เป็นเตาอบขนาดเล็ก สามารถตั้งวางบนโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ในครัวได้ รูปร่างหน้าตาคล้ายไมโครเวฟ แต่จะมีตะแกรง 1 ชั้นอยู่ตรงกลาง ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอะไรให้ยุ่งยาก และราคาถูก มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็ก 9 ลิตร ไปจนถึงขนาดใหญ่ 45 ลิตรขึ้นไป ข้อควรระวัง คือ แนะนำให้ตั้งห่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือวัตถุไวไฟอื่นๆ เพราะขณะอบจะมีความร้อนแผ่ออกมานอกเตาค่อนข้างเยอะ เนื่องจากกระจกกันความร้อนได้น้อย และควรระวังอย่าให้มือไปสัมผัสบริเวณกระจกหน้าเตา อาจทำให้บาดเจ็บได้ค่ะ
- เตาอบไฟฟ้าแบบฝัง (Built-in Oven)
เตาอบไฟฟ้าแบบฝัง เหมาะสำหรับใช้ในบ้าน หรือคอนโด และร้านอาหาร เพราะมีขนาดใหญ่ และต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญติดตั้งให้ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เตาอบแบบนี้ทำความร้อนได้สูงกว่าเตาอบแบบตั้งโต๊ะ ใช้ปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู และมีการออกแบบที่ช่วยกักเก็บความร้อนได้ดีกว่า ทั้งยังมีความสวยงาม ช่วยจัดระเบียบห้องครัว และไม่เปลืองพื้นที่บนเคาน์เตอร์ แต่อาจจะมีราคาสูง ก่อนซื้อเตาอบบไฟฟ้าแบบฝัง จึงควรพิจารณาถึงความจำเป็น และพื้นที่สำหรับติดตั้งให้รอบคอบ
2.เตาอบลมร้อน (Convection Oven)
เตาอบลมร้อน จะมีพัดลมช่วยกระจายความร้อน จึงให้ความร้อนได้ทั่วถึงกว่าเตาอบไฟฟ้า และทำให้อาหารหรือขนมสุกได้เร็วกว่า และสุกทั่วถึงกัน สีสันออกมาสวยงามสม่ำเสมอ แต่ราคาก็ค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับใช้ในธุรกิจทำเบเกอรี่ มาการอง ชูครีม ครัวซองต์ หรือพัฟพ์
3.เตาอบขนาดใหญ่ (Deck Oven)
เตาอบขนาดใหญ่ ใช้ในธุรกิจทำเบเกอรี่โดยเฉพาะ ให้ความร้อนจากพื้นเตา คล้ายเตาอบพิซซ่าแบบโบราณ เหมาะสำหรับอบขนมที่ต้องการความร้อนจากด้านล่าง เช่น ขนมปังสไตล์ยุโรป อย่างบาร์เกตต์ หรืออบพิซซ่า และคุ้กกี้
4.เตาอบคอมบิ (Combi Oven)
เตาอบคอมบิ หรือเตาอบคอมบิเนชั่น คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีทั้งเตาอบและเตานึ่งอยู่ในเครื่องเดียวกัน เหมาะสำหรับใช้ทำเมนูอาหารคาว และเหมาะสำหรับใช้ในร้านอาหาร ภัตตาคาร และโรงแรมมากกว่า เพราะมีขนาดใหญ่ และราคาสูง
How to เลือกซื้อเตาอบให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำอาหาร
เลือกขนาดของเตาอบให้เหมาะสม
การเลือกขนาดของเตาอบ ควรเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ตั้ง และความถี่ในการทำอาหาร รวมไปถึงรูปแบบของเมนู เพราะขนาดยิ่งใหญ่ ความจุยิ่งเยอะ ก็ยิ่งมีราคาสูง และกินพื้นที่ ถ้าต้องการเตาอบสำหรับทำอาหารกินภายในครอบครัว ควรเลือกเป็นเตาอบไฟฟ้าตั้งโต๊ะ ขนาดประมาณ 20 ลิตร หรือถ้าอยู่คนเดียว เน้นทำขนมปังปิ้ง หรืออบเล็กๆ น้อยๆ ก็เลือกที่ต่ำกว่า 20 ลิตร แต่ถ้าเปิดร้านอาหาร ร้านขนม หรือคาเฟ่ ก็เลือกเตาอบไฟฟ้าหรือเตาอบลมร้อนขนาดใหญ่ 45 ลิตร – 60 ลิตรขึ้นไป
อีกหนึ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับขนาดของเตาอบ ก็คือ ชั้นของตะแกรง โดยทุกๆ 10 ลิตร ควรมีตะแกรง 1 ชั้น เช่น เตาอบขนาด 20 ลิตร ควรมีตะแกรง 2 ชั้น หรือเตาอบขนาด 30 ลิตร ควรมีตะแกรง 3 ชั้น เพื่อให้ความร้อนกระจายได้ทั่วถึง
พื้นที่ติดตั้งเตาอบ
การติดตั้งเตาอบไฟฟ้าแบบตั้งโต๊ะ ควรอยู่ใกล้ปลั๊กไฟ และอยู่ห่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ พอสมควร และไม่ควรวางชิดผนังเพื่อให้ความร้อนสามารถระบายออกได้สะดวก ส่วนเตาอบไฟฟ้าแบบบิลท์อิน ควรตัดสินใจเลือกซื้อให้ได้ก่อนทำเคาน์เตอร์ครัว เพื่อให้ช่างสามารถวัดขนาดและออกแบบเคาน์เตอร์ให้เหมาะสมกับการวางเตาอบเข้าไปใต้เคาน์เตอร์ได้ หากซื้อเตาอบแบบบิลท์อินหลังจากทำเคาน์เตอร์ อาจต้องปวดหัวเพราะไม่สามารถหาขนาดที่เหมาะสมมาใส่ได้นั่นเอง
ฟังก์ชันการใช้งานของเตาอบ
ฟังก์ชันการใช้งานของเตาอบ อย่างน้อยๆ ควรเลือกที่สามารถปรับอุณหภูมิได้หลากหลาย (เตาอบบางรุ่นมีเพียงปุ่มตั้งเวลา ซึ่งจะทำได้แค่อุ่นอาหารเท่านั้น) และมีให้เลือกทั้งการใช้ไฟบน-ไฟล่าง เพียงเท่านี้ก็ใช้ได้ทั้งอุ่นอาหาร ปิ้งขนมปัง และอบขนมเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่ถ้าอยากได้ฟังก์ชันแบบแอดวานซ์ ปรุงอาหารได้เยอะขึ้น เตาอบบางยี่ห้อจะแถมไม้เสียบสำหรับย่างเนื้อสัตว์ สามารถติดตั้งแทนตะแกรงได้
Tips ไฟบน-ไฟล่าง คืออะไร?
มือใหม่หัดใช้เตาอบหลายคน อาจจะยังสับสนเรื่องการใช้ไฟบน-ไฟล่าง วันนี้เรามาทำความเข้าใจกัน
ไฟบน-ไฟล่าง คือ บริเวณของแหล่งความร้อนที่จะทำให้อาหารสุก ไฟบน คือ ความร้อนจะมาจากด้านบนเพียงอย่างเดียว, ไฟล่าง คือ ความร้อนจะมาจากด้านล่าง และไฟบน-ไฟล่าง ก็คือ ความร้อนที่ออกมาจากทั้งด้านบนและด้านล่าง ซึ่งการเลือกใช้ไฟบน-ไฟล่างนั้นขึ้นอยู่กับเมนู เช่น ถ้าต้องการอบบราวนี่อาจใช้แค่ไฟล่าง แต่ถ้าต้องการทำบราวนี่หน้ากรอบ ก็ต้องใช้ไฟบนเสริมด้วย หรือถ้าต้องการแค่ละลายน้ำตาลบนหน้าขนม ก็ใช้เพียงไฟบน เป็นต้น การเลือกเตาอบจึงควรเลือกที่สามารถปรับอุณหภูมิของไฟบน และไฟล่างแยกกันได้ จะทำได้หลากหลายเมนูยิ่งขึ้น
วันนี้ได้เรียนรู้เรื่องเตาอบและหลักการเลือกซื้อกันไปแล้ว ครั้งหน้าออฟฟิศเมทจะมาแนะนำแบรนด์เตาอบยอดนิยมที่น่าใช้ รอติดตามกันได้เลยที่ www.officemate.co.th/blog/
สำหรับใครที่สนใจอยากได้เตาอบ เอาไปใช้งานที่บ้าน ที่หอพัก หรือใช้ในธุรกิจ เข้ามาเลือกซื้อเตาอบจากแบรนด์ชั้นนำ คุณภาพดี มีประกันสินค้า พร้อมค่าจัดส่งฟรี! ได้เลยที่เว็บไซต์ OfficeMate
ขอบคุณข้อมูลจาก