คู่มือเข้าใจชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับคืออะไร? รู้ให้ชัดก่อนใช้งานจริง ปลอดภัยไม่เสี่ยง 

การทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี ฝุ่นละออง หรือเชื้อโรค ไม่ใช่แค่ “ใส่อะไรก็ได้” แต่ต้องเลือกให้ถูกระดับ เพราะ PPE Level แต่ละแบบถูกออกแบบมาเพื่อความเสี่ยงที่ต่างกัน 

หากเลือกผิด อาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้ บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามมาตรฐาน

Key Takeaways

• ชุดป้องกันสารเคมีไม่ได้มีแบบเดียว แต่แบ่งออกเป็น 4 ระดับ (A–D) ตามระดับความเสี่ยงของงาน การเลือกให้ถูกระดับคือหัวใจของความปลอดภัย
• ยิ่งระดับสูง ไม่ได้แปลว่าเหมาะกับทุกงาน ระดับ A ป้องกันสูงสุดแต่เคลื่อนไหวลำบาก ขณะที่ระดับ C และ D เหมาะกับงานทั่วไปมากกว่า
• ต้องประเมินชนิดของสารเคมีและสภาพแวดล้อมก่อนเลือกใช้ เช่น เป็นแก๊ส ไอระเหย ของเหลว หรือฝุ่น รวมถึงเป็นพื้นที่ปิดหรือเปิด
• ชุดป้องกันสารเคมีต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ PPE อื่นเสมอ เช่น หน้ากากกรองอากาศ ถุงมือ หรือรองเท้านิรภัย เพื่อให้การป้องกันสมบูรณ์
• เลือกอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและแหล่งจัดซื้อที่เชื่อถือได้ ช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความมั่นใจ และสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยขององค์กร

ทำความเข้าใจพื้นฐานของชุดป้องกันสารเคมีคืออะไร

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า PPE หรือสงสัยว่า ชุด PPE คืออะไร จริง ๆ PPE หรือ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล คืออุปกรณ์ที่ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันร่างกายจากอันตรายในการทำงาน เช่น สารเคมี ฝุ่น เชื้อโรค เสียงดัง หรือการกระแทก

ในกรณีของงานเคมี ชุดป้องกันสารเคมี หรือ ชุดกันสารเคมี ถือเป็นอุปกรณ์หลัก ที่ช่วยป้องกันผิวหนังและเสื้อผ้าจากการสัมผัสโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นของเหลว ละออง หรือผงสารเคมี โดยมักใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ป้องกันสารเคมี อื่น ๆ เช่น หน้ากากกรองอากาศ ถุงมือ หรือแว่นตานิรภัย

ทำไมชุดป้องกันสารเคมีต้องแบ่งเป็นหลายระดับ

หลายคนอาจสงสัยว่า ชุดป้องกันสารเคมีมีกี่ระดับ ? คำตอบคือ มี 4 ระดับหลัก ตาม PPE Level เพื่อให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงของงาน ตั้งแต่งานที่อันตรายสูงมาก ไปจนถึงงานทั่วไปที่มีความเสี่ยงต่ำ การเข้าใจโครงสร้างนี้ จะช่วยให้เลือกใช้งานได้ถูกต้องตาม มาตรฐานชุดป้องกันสารเคมี อย่างแท้จริง

เจาะลึกชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้

การทำงานท่ามกลางสารเคมี ฝุ่น หรือเชื้อโรค จะเลือกอุปกรณ์ป้องกันแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เพราะความเสี่ยงแต่ละงานต่างกัน การเข้าใจมาตรฐานชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับ (Level A-D) จึงเป็นเรื่องสำคัญก่อนเริ่มงานจริง 

บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกความต่างของแต่ละระดับ ตั้งแต่ชุดคลุมพื้นฐานไปจนถึงชุดป้องกันสารเคมีขั้นสูงสุด เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดตามลักษณะงาน

1. ชุดป้องกันสารเคมี ระดับ A (Level A)  การป้องกันสูงสุดในงานสารเคมีอันตราย

ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A คือระดับการป้องกันที่สูงที่สุดในระบบ PPE Level ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ปฏิบัติงานจากสารเคมีอันตรายขั้นรุนแรง ทั้งในรูปแบบแก๊ส ไอระเหย และของเหลว โดยให้การป้องกันครบทุกส่วน ตั้งแต่ระบบทางเดินหายใจ ดวงตา ไปจนถึงผิวหนังทั้งร่างกาย

อุปกรณ์ที่ใช้ใน ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A  จะเป็นชุดแบบปิดสนิท อากาศไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ และต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ช่วยหายใจเฉพาะทาง จึงเหมาะกับสถานการณ์ฉุกเฉินหรือพื้นที่ที่ไม่สามารถระบุชนิดของสารเคมีได้แน่ชัด อุปกรณ์ PPE ที่ใช้ในระดับ A ได้แก่

• ชุดป้องกันไอสารเคมี (Vapor Protective Suit) แบบแคปซูล ตามมาตรฐาน NFPA 1991
• เครื่องช่วยหายใจชนิด SCBA (Self-Contained Breathing Apparatus) พร้อมถังอากาศและหน้ากากเต็มหน้า
• ถุงมือนิรภัยกันสารเคมีแบบสองชั้น (ชั้นใน + ชั้นนอก)
• รองเท้าบู้ทเซฟตี้ป้องกันสารเคมีและของเหลว
• หมวกนิรภัย สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากวัตถุหล่น
• วิทยุสื่อสาร Two-Way Radio เพื่อการสื่อสารระหว่างปฏิบัติงาน

ชุดระดับนี้มักใช้ในเหตุการณ์รั่วไหลของสารพิษ การกู้ภัยด้านสารเคมี หรือพื้นที่อับอากาศที่มีความเสี่ยงสูงมาก

2. ชุดป้องกันสารเคมี ระดับ B (Level B)  ป้องกันสารเคมีของเหลว พร้อมระบบหายใจขั้นสูง

ชุดป้องกันสารเคมีระดับ B ให้การป้องกันรองลงมาจากระดับ A โดยยังคงเน้นการป้องกันระบบทางเดินหายใจในระดับสูง แต่ลดระดับการป้องกันผิวหนังลงเล็กน้อย เหมาะสำหรับงานที่ทราบชนิดของสารเคมีแล้ว และสารนั้นเป็นของเหลว ไม่ใช่ไอระเหยรุนแรง

อุปกรณ์ในชุดป้องกันสารเคมี Level B จะยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ SCBA แต่ชุดจะไม่ปิดสนิทเท่าระดับ A ทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น อุปกรณ์ PPE ที่ใช้ในระดับ B ได้แก่

• ชุดป้องกันสารเคมีของเหลว (Liquid Splash-Protective Suit) ตามมาตรฐาน NFPA 1992
• เครื่องช่วยหายใจชนิด SCBA (Self-Contained Breathing Apparatus) พร้อมถังอากาศและหน้ากากเต็มหน้า
• ถุงมือนิรภัยกันสารเคมีแบบสองชั้น (ชั้นใน + ชั้นนอก)
• รองเท้าบู้ทเซฟตี้ป้องกันสารเคมีและของเหลว
• หมวกนิรภัย 
• วิทยุสื่อสาร Two-Way Radio เพื่อการสื่อสารระหว่างปฏิบัติงาน

ระดับนี้เหมาะกับงานอุตสาหกรรมเฉพาะทาง งานควบคุมการรั่วไหลของสารเคมีเหลว และพื้นที่ที่มีการควบคุมความเสี่ยงไว้แล้ว

3. ชุดป้องกันสารเคมี ระดับ C (Level C)  ระดับที่ใช้งานมากที่สุดในโรงงานและการแพทย์

หากถามว่า ชุดป้องกันสารเคมีมีอะไรบ้างที่พบได้บ่อยที่สุด คำตอบมักจะเป็น ชุดป้องกันสารเคมี Level C
ระดับนี้เหมาะกับงานที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงต่ำ และเป็นระดับที่พบได้มากในโรงงานอุตสาหกรรม งานแพทย์ ห้องแล็บ และงานพ่นสี

จุดเด่นของระดับ C คือความสมดุลระหว่าง “ความปลอดภัย” และ “ความคล่องตัว” โดยไม่จำเป็นต้องใช้ระบบอากาศอิสระ แต่ใช้หน้ากากกรองอากาศแทน อุปกรณ์ PPE ที่ใช้ในระดับ C ได้แก่

• ชุด PPE ป้องกันสารเคมีแบบเต็มตัว ตามมาตรฐาน NFPA 1993
• หน้ากากกรองอากาศแบบเต็มหน้า (Full-Facepiece Respirator) และไส้กรองอากาศ
• ถุงมือและรองเท้าบู้ทที่ทนสารเคมี
• หมวกนิรภัย
• วิทยุสื่อสาร

ชุดป้องกันสารเคมี Level C เหมาะกับสารเคมีที่ทราบชนิดแล้ว และไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังโดยตรง แต่ยังต้องป้องกันการกระเซ็นหรือการสัมผัสซ้ำ

4. ชุดป้องกันสารเคมี ระดับ D (Level D) – การป้องกันพื้นฐานสำหรับงานทั่วไป

ชุดป้องกันสารเคมี ระดับ D เป็นระดับที่ให้การป้องกันต่ำที่สุดในบรรดาชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับ
เหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ฝุ่น สิ่งสกปรก หรือสารเคมีที่ไม่เป็นอันตรายรุนแรง โดยเน้นความคล่องตัวและความสะดวกในการสวมใส่ อุปกรณ์ที่ใช้ในระดับ D ได้แก่

• ชุด PPE แบบชุดหมี
• รองเท้านิรภัยและถุงมือกันสารเคมี
• แว่นตานิรภัย หรือแว่นครอบตา (Safety Glasses)
• หน้ากากหรือเครื่องช่วยหายใจ SCBA เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
• Face Shield สำหรับป้องกันใบหน้า

ชุดป้องกันสารเคมีระดับ D เหมาะกับงานทั่วไป ไม่แนะนำให้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสารเคมี เพราะระดับการป้องกันไม่เพียงพอ

10 ไอเทมชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับ พร้อมอุปกรณ์ PPE ครบเซต ปกป้องครบ เคลื่อนไหวคล่อง

งานที่ต้องเผชิญสารเคมี ฝุ่น หรือเชื้อโรค ไม่ควรเสี่ยงด้วยอุปกรณ์ไม่ครบชุด รวม 10 ไอเทมชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับ พร้อมอุปกรณ์ PPE ครบเซต ที่ช่วยปกป้องร่างกายอย่างรอบด้าน พร้อมดีไซน์ที่สวมใส่สบาย เคลื่อนไหวคล่อง ใช้งานได้จริงทุกหน้างาน

1.ชุดป้องกันสารเคมี ชาเก้ SK604 สีขาว ไซส์ M Type5/6 ชุดPPE ใช้ในโรงพยาบาลได้ EN14126 ผ่านอย. ป้องกันละอองน้ำ ละอองสารเคมี สารคัดหลั่ง ป้องกันเชื้อโรคได้

SCHAKE SK604 เป็นชุดป้องกันสารเคมี ระดับ C (PPE Level C) เหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงจากฝุ่น ละอองสารเคมีชนิดอ่อน และสารคัดหลั่ง ออกแบบมาเพื่อใช้งานในโรงพยาบาลและภาคอุตสาหกรรม โดยสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ป้องกันระบบกรองอากาศได้ตามมาตรฐานสากล

จุดเด่นสินค้า

• มาตรฐานความปลอดภัยสากล ผ่าน TYPE 5B, TYPE 6B, EN14126, CE0624 และ อย. ใช้งานได้อย่างมั่นใจ
• ป้องกันสารเคมีและเชื้อโรค กันฝุ่น ละอองน้ำ ละอองสารเคมี และสารคัดหลั่งจากร่างกาย
• วัสดุคุณภาพสูง ผลิตจาก Polypropylene เคลือบไมโครฟอรัสฟิล์ม แข็งแรงแต่สวมใส่สบาย
• ออกแบบป้องกันการซึม ซิปหน้าพร้อมแถบกาวซีล ช่วยลดความเสี่ยงของของเหลวซึมผ่าน
• สวมใส่ได้นาน ไม่อับชื้น ระบายอากาศได้ดี ต้านไฟฟ้าสถิต เหมาะกับงานต่อเนื่องหลายชั่วโมง

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
ป้องกันฝุ่น ละอองน้ำ ละอองสารเคมีชนิดอ่อน และสารคัดหลั่งได้ดี ตามมาตรฐาน Type 5B / 6B	ไม่เหมาะสำหรับสารเคมีรุนแรงหรือสารพิษเข้มข้น
ผ่านมาตรฐาน EN14126 และ ISO16604 สามารถใช้ในงานทางการแพทย์และโรงพยาบาลได้	ไม่สามารถป้องกันไอระเหยหรือก๊าซอันตรายได้โดยตรง
ผลิตจาก Polypropylene เคลือบไมโครฟอรัสฟิล์ม แข็งแรงแต่สวมใส่สบาย	ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ PPE อื่น เช่น หน้ากากกรองอากาศ เพื่อการป้องกันที่สมบูรณ์
ซิปหน้าพร้อมแถบกาวซีล ช่วยลดการซึมของของเหลวเข้าสู่ร่างกาย	ไม่ใช่ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A หรือ B
ระบายอากาศดี ต้านไฟฟ้าสถิต เหมาะกับการสวมใส่เป็นเวลานาน	เป็นชุดใช้เฉพาะงาน ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานซ้ำหลายครั้ง

2.ชุดป้องกันสารเคมี XL ขาว ไมโครเท็กซ์ Careplus

Careplus Micortex รุ่นนี้จัดอยู่ใน ชุดป้องกันสารเคมีระดับ B (PPE Level B) เนื่องจากผ่านมาตรฐาน EN14126 Type 3 ซึ่งสามารถป้องกันของเหลวและละอองที่มีแรงดันได้ในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงจากสารเคมี ฝุ่นละอองขนาดเล็ก มลพิษทางอากาศ และเชื้อโรค โดยต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจที่เหมาะสม

จุดเด่นสินค้า

• มาตรฐานการป้องกันเชื้อโรค ผ่าน EN 14126 รองรับงานที่ต้องควบคุมการปนเปื้อน
• ป้องกันสารเคมีและฝุ่นละเอียด ลดความเสี่ยงจากละอองสีและมลพิษทางอากาศ
• รองรับการเคลื่อนไหว ชุดยืดหยุ่น สวมใส่สบาย ไม่อึดอัดระหว่างทำงาน
• เหมาะกับงานความเสี่ยงสูงกว่าทั่วไป ด้วยมาตรฐาน Type 3 สำหรับของเหลวแรงดัน
• สีขาว มองเห็นคราบชัดเจน เหมาะกับงานที่ต้องการความสะอาดและการควบคุมคุณภาพ

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
ป้องกันสารเคมีและของเหลวได้ดีกว่าชุด Type 5/6	ไม่ใช่ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A
ผ่านมาตรฐาน EN14126 Type 3 ใช้งานด้านการควบคุมเชื้อโรคได้	ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ช่วยหายใจที่เหมาะสม
ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กและมลพิษทางอากาศ	ไม่เหมาะกับสารเคมีรุนแรงหรือไอพิษเข้มข้น
สวมใส่สบาย ยืดหยุ่น รองรับการเคลื่อนไหว	เป็นชุดสำหรับงานเฉพาะ ไม่เหมาะกับการใช้งานซ้ำ
เหมาะกับงานอุตสาหกรรมและงานควบคุมความสะอาด	ต้องเลือกขนาดให้พอดีเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

3.ชุดป้องกันสารเคมี L ขาว ไมโครเท็กซ์ Careplus

Careplus Micortex รุ่นนี้จัดอยู่ใน ชุดป้องกันสารเคมีระดับ B (PPE Level B) เนื่องจากผ่านมาตรฐาน EN14126 Type 3 ซึ่งสามารถป้องกันของเหลวและละอองที่มีแรงดันได้ในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงจากสารเคมี ฝุ่นละอองขนาดเล็ก มลพิษทางอากาศ และเชื้อโรค โดยต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจที่เหมาะสม

จุดเด่นสินค้า

• มาตรฐานการป้องกันเชื้อโรค ผ่าน EN 14126 รองรับงานที่ต้องควบคุมการปนเปื้อน
• ป้องกันสารเคมีและฝุ่นละเอียด ลดความเสี่ยงจากละอองสีและมลพิษทางอากาศ
• รองรับการเคลื่อนไหว ชุดยืดหยุ่น สวมใส่สบาย ไม่อึดอัดระหว่างทำงาน
• เหมาะกับงานความเสี่ยงสูงกว่าทั่วไป ด้วยมาตรฐาน Type 3 สำหรับของเหลวแรงดัน
• สีขาว มองเห็นคราบชัดเจน เหมาะกับงานที่ต้องการความสะอาดและการควบคุมคุณภาพ

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
ป้องกันสารเคมีและของเหลวได้ดีกว่าชุด Type 5/6	ไม่ใช่ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A
ผ่านมาตรฐาน EN14126 Type 3 ใช้งานด้านการควบคุมเชื้อโรคได้	ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ช่วยหายใจที่เหมาะสม
ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กและมลพิษทางอากาศ	ไม่เหมาะกับสารเคมีรุนแรงหรือไอพิษเข้มข้น
สวมใส่สบาย ยืดหยุ่น รองรับการเคลื่อนไหว	เป็นชุดสำหรับงานเฉพาะ ไม่เหมาะกับการใช้งานซ้ำ
เหมาะกับงานอุตสาหกรรมและงานควบคุมความสะอาด	ต้องเลือกขนาดให้พอดีเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

4.ชุดป้องกันสารเคมี M 4545 3M

จุดเด่นสินค้า

• มาตรฐานความปลอดภัยยุโรป ผ่าน CE Type 5 / Type 6 ใช้งานได้ตามมาตรฐานสากล
• ป้องกันฝุ่นและสารเคมีเหลว เหมาะสำหรับฝุ่นอันตรายและการกระเซ็นของสารเคมี
• วัสดุคุณภาพสูง ผลิตจากเส้นใยโพรโพลีนไม่ถักทอ เคลือบโพลีเอทิลีน ต้านไฟฟ้าสถิต
• สวมใส่กระชับ เคลื่อนไหวคล่องตัว ออกแบบเป้ากางเกงขยาย เพิ่มความทนทานในการใช้งาน

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
ป้องกันฝุ่นอันตราย (Type 5) และการกระเซ็นของสารเคมีเหลว (Type 6)	ไม่เหมาะกับสารเคมีรุนแรงหรือสารพิษเข้มข้น
น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย เหมาะกับการทำงานต่อเนื่อง	ไม่สามารถป้องกันไอระเหยหรือก๊าซอันตรายได้
ต้านไฟฟ้าสถิต ลดความเสี่ยงในงานอุตสาหกรรม	ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ PPE อื่นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ออกแบบให้กระชับ ยืดหยุ่น ขยับตัวสะดวก	ไม่ใช่ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A หรือ B
มีหลายขนาดให้เลือก รองรับสรีระผู้ใช้งาน	เป็นชุดสำหรับงานเฉพาะ ไม่เหมาะกับการใช้งานซ้ำระยะยาว

5.ชุดป้องกันสารเคมี L เทา 3M 50425

ชุดป้องกันสารเคมี 3M รุ่น 50425 จัดอยู่ใน ชุดป้องกันสารเคมีระดับ D (PPE Level D)

เหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง เช่น ฝุ่นละออง สิ่งสกปรก การพ่นสี และการกระเด็นของสารเคมีทั่วไป โดยเน้นความสบาย ความคล่องตัว และการใช้งานต่อเนื่องในสภาพแวดล้อมการทำงานจริง

จุดเด่นสินค้า

• วัสดุน้ำหนักเบา ระบายอากาศดี ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ สามารถซักล้างและนำกลับมาใช้งานซ้ำได้
• ออกแบบเพื่อการทำงานจริง มีแผ่นรองเข่า เหมาะกับงานที่ต้องนั่งคุกเข่าหรือทำงานเป็นเวลานาน
• สวมใส่สบาย กระชับตัว มีสายรัดยืดหยุ่นบริเวณเอว และโครงสร้างที่ช่วยให้เคลื่อนไหวคล่องตัว
• ปกป้องร่างกายและเสื้อผ้า จากฝุ่น สิ่งสกปรก ละอองสี และตัวทำละลายทั่วไป
• ฟังก์ชันครบสำหรับหน้างาน ซิปสองทาง แถบตีนตุ๊กแก ช่องกระเป๋าหลายตำแหน่ง และปลายขากว้างใส่กับรองเท้าบูทได้ง่าย

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
สวมใส่สบาย ระบายอากาศดี เหมาะกับการทำงานต่อเนื่อง	ไม่เหมาะกับสารเคมีรุนแรงหรือสารพิษเข้มข้น
ซักล้างและนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ช่วยลดต้นทุนระยะยาว	ไม่ใช่ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A, B หรือ C
ป้องกันฝุ่น ละอองสี และสารเคมีทั่วไปได้ดี	ไม่สามารถป้องกันละอองสารเคมีละเอียดหรือเชื้อโรค
มีแผ่นรองเข่าและฟังก์ชันเสริมสำหรับงานอุตสาหกรรม	ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ PPE อื่นหากมีความเสี่ยงเพิ่ม
ออกแบบให้คล่องตัว เหมาะกับงานพ่นสีและงานซ่อมบำรุง	เน้นการป้องกันเชิงกายภาพ ไม่ใช่การป้องกันขั้นสูง

6.ชุดป้องกันสารเคมี

ชุดป้องกันสารเคมี รุ่นนี้จัดอยู่ใน ชุดป้องกันสารเคมีระดับ D (PPE Level D) เหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงพื้นฐาน เช่น ฝุ่นละออง สี ผงเคมี และการกระเด็นของของเหลวเล็กน้อย โดยเน้นการปกป้องร่างกายและความสบายในการสวมใส่เป็นหลัก

จุดเด่นสินค้า

• ป้องกันสารเคมีทั่วไป ช่วยลดการสัมผัสฝุ่น สี และผงเคมีในงานประจำวัน
• ป้องกันการซึมของของเหลว เหมาะกับงานที่มีการกระเด็นของสารในระดับเบา
• วัสดุโพลีคุณภาพ น้ำหนักเบา สวมใส่ไม่อึดอัด
• ระบายอากาศได้ดี ลดความร้อนสะสม เหมาะกับการทำงานต่อเนื่อง
• ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะกับงานโรงงาน งานพ่นสี งานทำความสะอาด และงานซ่อมบำรุง

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
ป้องกันฝุ่น สี และผงเคมีได้ในระดับพื้นฐาน	ไม่เหมาะกับสารเคมีรุนแรงหรือสารพิษเข้มข้น
น้ำหนักเบา ระบายอากาศดี สวมใส่สบาย	ไม่สามารถป้องกันไอระเหยหรือก๊าซอันตรายโดยตรง
ป้องกันการซึมของของเหลวเล็กน้อย	ไม่ใช่ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A, B หรือ C
เหมาะกับงานทั่วไปในโรงงานและไซต์งาน	ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ PPE อื่นหากความเสี่ยงสูงขึ้น
ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับงานระยะสั้นถึงปานกลาง	เน้นการป้องกันเชิงกายภาพ ไม่ใช่การป้องกันขั้นสูง

7.ชุดป้องกันฝุ่นและสารเคมี L แพงโกลิน SUIT4000-L

ชุดป้องกันสารเคมี Pangolin รุ่น SUIT4000 จัดอยู่ใน ชุดป้องกันสารเคมีระดับ C (PPE Level C) เนื่องจากเป็นชุด Type 3B / 4B / 5B / 6B ที่สามารถป้องกันของเหลว ละอองสารเคมี ฝุ่น และมลภาวะทางชีวภาพได้ โดยเหมาะสำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจแบบกรองอากาศในพื้นที่ที่ไม่ขาดออกซิเจน

จุดเด่นสินค้า

• ป้องกันสารเคมีได้หลากหลาย ผ่านมาตรฐาน ASTM F1670 รองรับสารเคมี เช่น Sulfuric Acid, Formaldehyde และ Ethylene Glycol
• มาตรฐานป้องกันชีวภาพสูง ผ่าน EN14126 ป้องกันเลือด เชื้อโรค และการปนเปื้อนทางชีวภาพ
• ป้องกันฝุ่นรอบทิศทาง ตามมาตรฐาน EN1073-2 เหมาะกับงานควบคุมฝุ่นละเอียด
• โครงสร้างป้องกันการซึมขั้นสูง แถบฟิล์มปิดซิปและรอยตะเข็บ ช่วยลดการไหลผ่านของของเหลว
• ต้านไฟฟ้าสถิต ตามมาตรฐาน EN1149-5 เพิ่มความปลอดภัยในงานอุตสาหกรรม

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
ป้องกันสารเคมีได้ทั้งแบบหยด ละออง และของเหลวที่ไม่มีแรงดัน	ไม่เหมาะกับสารเคมีรุนแรงระดับสูงที่ต้องใช้ชุด Level A
ผ่านหลายมาตรฐานสากล (Type 3B–6B) ใช้งานได้ครอบคลุม	ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจที่เหมาะสม
ป้องกันเชื้อโรคและมลภาวะทางชีวภาพได้ดี	ไม่สามารถป้องกันไอระเหยหรือก๊าซพิษได้โดยลำพัง
เนื้อผ้าเคลือบฟิล์ม ระบายอากาศได้ ลดความอับชื้น	เป็นชุดใช้เฉพาะงาน ไม่เหมาะกับการใช้งานซ้ำระยะยาว

8.ชุดกันสารเคมี XXL ขาว YAMADA 445

YAMADA รุ่น 445 จัดอยู่ใน ชุดป้องกันสารเคมีระดับ C (PPE Level C) จากคุณสมบัติวัสดุ Non-woven Microporous 60 gsm เหมาะสำหรับงานพ่นสี งานทาสีเข้มข้น และงานบำรุงรักษาทางอุตสาหกรรม ที่ต้องป้องกันฝุ่น ละอองสี และสารเคมีในระดับอ่อนถึงปานกลาง

จุดเด่นสินค้า

• เหมาะกับงานพ่นสีเข้มข้น ป้องกันละอองสีและสารเคมีที่กระเด็นระหว่างทำงาน
• วัสดุ Microporous คุณภาพ ผลิตจาก Non-woven 60 gsm ช่วยป้องกันการซึมของของเหลว
• น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ลดความอึดอัด เหมาะกับการทำงานต่อเนื่อง
• ใช้งานในอุตสาหกรรมได้หลากหลาย เหมาะสำหรับงานผลิต ซ่อมบำรุง และงานโรงงาน
• ขนาด XXL รองรับสรีระใหญ่ เพิ่มความคล่องตัวและความสบายขณะทำงาน

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
ป้องกันฝุ่น ละอองสี และสารเคมีระดับอ่อนได้ดี	ไม่เหมาะกับสารเคมีรุนแรงหรือสารพิษเข้มข้น
วัสดุ Microporous ช่วยลดการซึมของของเหลว	ไม่สามารถป้องกันไอระเหยหรือก๊าซพิษได้
น้ำหนักเบา เหมาะกับการสวมใส่ระยะยาว	ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ PPE อื่นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
เหมาะกับงานพ่นสีและงานอุตสาหกรรมทั่วไป	ไม่ใช่ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A หรือ B
ขนาดใหญ่ ใส่สบาย ไม่รั้งการเคลื่อนไหว	เป็นชุดใช้เฉพาะงาน ไม่เหมาะกับการใช้งานซ้ำหลายครั้ง

9.YAMADA ชุดกันสารเคมีทางการแพทย์ รุ่น 465 สีขาว ขนาด L

ชุดป้องกันสารเคมี YAMADA รุ่น 465 จัดอยู่ใน ชุดป้องกันสารเคมีระดับ C (PPE Level C)

เนื่องจากออกแบบมาเพื่อป้องกันอันตรายทางชีวภาพ สารติดเชื้อ และการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี รวมถึงงานพ่นสีเข้มข้นและงานอุตสาหกรรม โดยเหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจแบบกรองอากาศในพื้นที่ที่ไม่ขาดออกซิเจน

จุดเด่นสินค้า

• ป้องกันอันตรายทางชีวภาพ เหมาะสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโรคและสารติดเชื้อทางการแพทย์
• รองรับงานปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ใช้ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการการควบคุมการปนเปื้อน
• ใช้งานได้หลากหลายอุตสาหกรรม เหมาะกับงานทาสี พ่นสีเข้มข้น งานผลิต และงานบำรุงรักษา
• วัสดุป้องกันสารเคมีอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสสารอันตราย
• ออกแบบเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน สวมใส่กระชับ ช่วยปกป้องร่างกายได้รอบด้าน

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
ป้องกันอันตรายทางชีวภาพและสารติดเชื้อได้ดี	ไม่เหมาะกับสารเคมีรุนแรงหรือก๊าซพิษเข้มข้น
รองรับงานปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี	ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ PPE อื่นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
เหมาะกับทั้งงานการแพทย์และงานอุตสาหกรรม	ไม่ใช่ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A หรือ B
ใช้งานได้กับงานพ่นสีและงานผลิต	ไม่สามารถป้องกันไอระเหยอันตรายได้โดยลำพัง
ช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีโดยตรง	เป็นชุดใช้เฉพาะงาน ไม่เหมาะกับการใช้งานซ้ำระยะยาว

10.T-SAFE ชุดป้องกันฝุ่นและสารเคมี EXTRA สีขาว ไซส์ L/XL

ชุดป้องกันสารเคมี T-SAFE รุ่น EXTRA จัดอยู่ใน ชุดป้องกันสารเคมีระดับ C (PPE Level C) จากมาตรฐาน CE Cat III Type 5B / Type 6B และ EN14126 เหมาะสำหรับงานที่ต้องป้องกันฝุ่น ละอองสารเคมี สารคัดหลั่ง และเชื้อโรค โดยใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจแบบกรองอากาศได้ในพื้นที่ที่ไม่ขาดออกซิเจน

จุดเด่นสินค้า

• มาตรฐานสากลระดับสูง ผ่าน CE120 Cat III, Type 5B/6B, EN14126, EN1149 และ EN13034
• ป้องกันครอบคลุมหลายความเสี่ยง กันฝุ่น ละอองสารเคมี สารคัดหลั่ง และไวรัส
• วัสดุคุณภาพ ผลิตจาก Polypropylene + Polyethylene Film แข็งแรง น้ำหนักเบา
• ต้านไฟฟ้าสถิต เพิ่มความปลอดภัยสำหรับงานอิเล็กทรอนิกส์และโรงงาน
• เหมาะกับงานหลากหลาย พ่นทราย พ่นสี พ่นยาฆ่าแมลง ห้องแล็บ งานก่อสร้าง และงานอุตสาหกรรม

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
ป้องกันฝุ่น ละอองสารเคมี และสารคัดหลั่งได้ดีตาม Type 5B/6B	ไม่เหมาะกับสารเคมีรุนแรงหรือก๊าซพิษเข้มข้น
ผ่าน EN14126 ป้องกันเชื้อโรคและไวรัสได้	ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ PPE อื่นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ต้านไฟฟ้าสถิต เหมาะกับงานอิเล็กทรอนิกส์	ไม่ใช่ชุดป้องกันสารเคมีระดับ A หรือ B
น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้	ไม่เหมาะกับบริเวณที่มีความร้อนสูงหรือเปลวไฟ
ใช้งานได้หลากหลายอุตสาหกรรม	เป็นชุดใช้เฉพาะงาน ไม่เหมาะกับการใช้งานซ้ำระยะยาว

3 คำถามก่อนเลือกใช้ชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับ ต้องรู้อะไรบ้าง?

การเลือก ชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ราคา หรือความหนาของชุดเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจระดับการป้องกัน ลักษณะงาน และวิธีใช้งานที่ถูกต้อง ส่วนคำถามด้านล่างนี้คือประเด็นสำคัญที่ผู้ใช้งานมักสงสัยก่อนตัดสินใจเลือกซื้อหรือใช้งานจริง

1. ชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับมีอะไรบ้าง?

ชุดป้องกันสารเคมีแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับ A, B, C และ D โดยแต่ละระดับถูกออกแบบมาให้เหมาะกับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การป้องกันสารเคมีรุนแรงและไอพิษ (ระดับ A) ไปจนถึงการป้องกันฝุ่นและสารเคมีทั่วไป (ระดับ D) การเลือกใช้ให้ถูกระดับช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานได้อย่างมาก

2. ต้องพิจารณาอะไรบ้างในการเลือกชุดป้องกันสารเคมี?

ควรพิจารณาจากชนิดของสารเคมีที่ต้องเผชิญ (ของเหลว แก๊ส ไอระเหย หรือฝุ่น) ระดับความอันตรายของสาร สภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น พื้นที่ปิดหรือเปิด รวมถึงอุปกรณ์ PPE อื่นที่ต้องใช้ร่วมกัน เช่น หน้ากากกรองอากาศ ถุงมือ หรือรองเท้านิรภัย เพื่อให้การป้องกันครบถ้วนตามมาตรฐานความปลอดภัย

3. ชุดป้องกันสารเคมีสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือไม่?

ขึ้นอยู่กับประเภทและวัสดุของชุดป้องกันสารเคมี ชุดแบบใช้แล้วทิ้ง (Disposable) ไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ เนื่องจากอาจมีสารเคมีตกค้างหรือโครงสร้างเสื่อมสภาพ ส่วนชุดที่ออกแบบมาให้ใช้ซ้ำได้ ต้องผ่านการทำความสะอาดและตรวจสอบตามคำแนะนำของผู้ผลิตทุกครั้ง เพื่อให้ยังคงประสิทธิภาพในการป้องกัน

เลือกชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับให้ถูกต้อง คือหัวใจของความปลอดภัย

ชุดป้องกันสารเคมี 4 ระดับถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกัน จึงไม่มีชุดไหนดีที่สุดแบบครอบคลุมทุกงาน แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกใช้ได้ “เหมาะสมกับความเสี่ยง” หรือไม่ 

การรู้ว่า อุปกรณ์ PPE มีอะไรบ้าง  และรู้วิธีเลือกใช้ให้ตรงกับชนิดสารเคมีที่เจอ จะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้อย่างเห็นผล พร้อมทั้งช่วยให้การทำงานมีความปลอดภัยสูงสุดและเป็นไปตามมาตรฐานสากลอย่างถูกต้อง

เลือกซื้ออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและเหมาะกับลักษณะงานจริง ที่ OFM.co.thมีทั้ง ชุดป้องกันสารเคมี และ อุปกรณ์โรงงาน ให้เลือกครบ 

ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับมืออาชีพ ครอบคลุมแบรนด์ชั้นนำ พร้อมข้อมูลสินค้าและมาตรฐานชัดเจน ช่วยให้องค์กรและผู้ใช้งานสามารถเลือกอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับ PPE Level และมาตรฐานความปลอดภัยที่ต้องการได้ง่ายขึ้นในที่เดียว

ดีลสุดพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่! 🔥

🛍️ ซื้อครบ 999.- ใส่โค้ด “NEW10” รับส่วนลด 10% (สูงสุด 1,000 บาท)

💥รับคะแนน The 1 X3 (1,000 บาท)

🎯 ยิ่งช้อป ยิ่งลด! อย่าพลาดดีลสุดคุ้มวันนี้!

📌 ช้อปเลย 👉  https://www.ofm.co.th