![](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/เปิดตัวiphone13_cover.jpg)
สรุปงาน Apple Event ‘California Streaming’ เปิดตัวโปรดัคส์ใหม่ มีอะไรเพิ่มเติ่มหรืออัปเกรดมาจากเดิมบ้าง OfficeMate สรุปมาให้แล้ว ไปดูกันเลย!!
iPhone 13
พระเอกของงานอย่าง iPhone 13 เปิดตัวมาทั้งหมด 4 รุ่น คือ iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro max
- iPhone 13 และ iPhone 13 mini
![iPhone 13 และ iPhone 13 mini](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/Apple_iphone13_hero_geo_09142021_inline.jpg.large_.jpg)
iPhone 13 และ iPhone 13 mini ดีไซน์ทรงเหลี่ยมเพรียวบาง มีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีชมพู, สีน้ำเงิน, สีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์ และ RED รองรับการใช้งาน 5G จอภาพเสริม Ceramic Shield แข็งแกร่งและทนทาน กันน้ำในระดับ IP68 ว่ากันว่าเป็นเจเนอเรชั่นใหม่ของสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลก นวัตกรรมที่อัปเกรดมาจากเดิม คือ ระบบกล้องคู่วางในแนวทะแยง มาพร้อมขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น มีระบบกันสั่นแบบ OIS รับแสงได้มากขึ้น 47% ช่วยลดนอยซ์ ทำให้การถ่ายภาพ/ถ่ายวิดีโอในที่มืดหรือที่ที่แสงน้อยเป็นไปได้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีโหมดภาพยนตร์ รองรับความละเอียด 4K สูงสุดที่ 60 fps (fps ยิ่งมาก วิดีโอจะยิ่งลื่นไหล) พร้อมการปรับโฟกัสอัตโนมัติ ให้การถ่ายวิดีโอของคุณลื่นไหล เหมาะสุดๆ สำหรับยุคแห่งการทำคอนเทนต์ เสริมด้วยจอภาพ Super Retina XDR เพิ่มความสว่าง ช่วยให้คอนเทนต์ของคุณสดใสและมีชีวิตชีวาขึ้น
![iPhone 13 Night mode](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/Apple_iphone13_camera-nightmode-wide-01_09142021.jpg)
นอกจากนั้น iPhone 13 และ iPhone 13 mini ยังมาพร้อมชิป A15 Bionic ช่วยให้การทำงานต่างๆ บน iPhone เร็วขึ้นกว่าเดิม และประหยัดพลังงานกว่าเดิม แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานขึ้นเมื่อเทียบกับ iPhone 12 พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลใหญ่สะใจ เริ่มต้นที่ 128 GB
iPhone 13 และ iPhone 13 mini พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ วันที่ 8 ตุลาคม 2564 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม iPhone 13 และ iPhone 13 mini
- iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
![iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/iphone13pro_promax.jpg)
iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มาตรฐานใหม่ของ iPhone มากับ 4 สีสันหรูหราสวยงาม ได้แก่ สีกราไฟต์, สีทอง, สีเงิน และสีเซียร์ร่าบลู (สีใหม่) หน้าจอเสริม Ceramic Shield แข็งแกร่งและทนทาน รองรับการใช้งาน 5G อัปเกรดความโปรด้วยระบบกล้อง 3 เลนส์ ประกอบไปด้วยกล้องอัตราไวด์แบบใหม่ มีโหมดออโต้โฟกัส และรองรับการถ่ายภาพมาโคร, กล้องไวด์ใหม่ และกล้องเทเลโฟโต้ที่ซูมได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า รูรับแสงขนาดใหญ่ ชัตเตอร์ไวขึ้น นอยซ์ลดลง ให้รายละเอียดภาพชัดขึ้น ถ่ายภาพสวยทุกสภาพแสง ทั้งยังมีระบบกันสั่น ช่วยให้ภาพดูคมชัด วิดีโอดูนิ่ง แม้ผู้ถ่ายจะกำลังเคลื่อนไหวอยู่ก็ตาม
![iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/iphone13pro_1.jpg)
![iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/ภาพถ่ายมาโคร_iphone13pro.jpg)
iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มากับชิป A15 Bionic ชิปที่เร็วที่สุดที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน มาพร้อม GPU แบบ 5-core สามารถรองรับการประมวลผลหนักๆ และกราฟิกระดับสูงได้ ตอบสนองฉับไว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การใช้งาน iPhone เหมาะทั้งการทำคอนเทนต์และเล่นเกม แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น ใช้งานได้นานตลอดวัน และนานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone
iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ วันที่ 8 ตุลาคม 2564 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง iPhone 13 และ iPhone 12
- ความจุ : iPhone 12 เริ่มที่ 64GB/128GB/256GB ส่วน iPhone 13 เริ่มที่ 128GB/256GB/512GB
- ราคาเริ่มต้น : iPhone 12 เริ่มต้นที่ 25,900 บาท ส่วน iPhone 13 เริ่มต้นที่ 29,900 บาท
- กล้อง : iPhone 12 มากับกล้องไวด์ บันทึกวิดีโอความคมชัดระดับ 4K สูงสุด 30 fps ส่วน iPhone 13 มากับกล้องอัตราไวด์ พร้อมโหมดภาพยนตร์ ความคมชัดระดับ 4K สูงสุดที่ 60 fps (fps มาก จะช่วยให้การถ่ายภาพและการแสดงภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลขึ้น)
- ชิป : iPhone 12 มากับชิป A14 Bionic ส่วน iPhone 13 มากับชิป A15 Bionic
- แบตเตอรี่ : iPhone 12 เล่นวิดีโอได้นานสุด 17 ชั่วโมง ส่วน iPhone 13 เล่นวิดีโอได้นานสุด 19 ชั่วโมง
iPad Gen 9 และ iPad mini
![iPad Gen 9 และ iPad mini](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/thenewipad.jpg)
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการเปิดตัวโปรดัคส์ใหม่ iPad Gen 9 และ iPad mini มาพร้อมชิปอันทรงพลังและความสามารถที่เหนือชั้นขึ้นกว่าเดิม!
- iPad Gen 9
![iPad Gen 9](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/ipadgen9_1.jpg)
![iPad Gen 9](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/ipadgen9_2-1.jpg)
iPad Gen 9 มากับชิป A13 Bionic เร็วขึ้น 3 เท่า แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้นตลอดวัน รองรับการใช้งานกับ Apple Pencil รุ่น 1 และ Smart Keyboard กล้องหน้าแบบอัลตร้าไวด์ พร้อมด้วยฟังก์ชัน ‘จัดให้อยู่ตรงกลาง’ กล้องแพนตามได้ขณะที่ผู้ใช้งานกำลังเคลื่อนไหว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การวิดีโอคอล (FaceTime) เหมาะสมกับยุคสมัยแห่งการทำงานทางไกล จอภาพ Retina แสดงผลแบบ True tone มีเซ็นเซอร์วัดแสง ช่วยปรับสีภาพบนหน้าจอให้เหมาะสมกับอุณหภูมิสีภายในห้อง ภาพดูเป็นธรรมชาติและสบายตามากยิ่งขึ้น ความจุเริ่มต้นที่ 64GB สูงสุด 256GB มากกว่า iPad รุ่นเก่า 2 เท่า ตอบโจทย์การเรียน การทำงาน และความบันเทิงได้มากขึ้น
- iPad mini
![iPad mini](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/ipadmini_1.jpg)
iPad mini จิ๋วแต่แจ๋ว ดีไซน์ใหม่ขนาดกะทัดรัด มากับจอภาพขนาด 8.3 นิ้ว พกพาสะดวกขึ้น พร้อมชิป A15 Bionic อันทรงพลัง เพิ่มความเร็วให้การทำงานได้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 80% พอร์ต USB-C เชื่อมต่อถ่ายโอนได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 10 เท่า และรุ่น Cellular ที่รองรับ 5G ให้คุณทำงานหรือเรียนออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา กล้องหน้าสุดล้ำ พร้อมคุณสมบัติ ‘จัดให้อยู่ตรงกลาง’ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การวิดีโอคอล (FaceTime)
![iPad mini](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/ipadmini_2.jpg)
iPad mini มากับ CPU แบบ 6-core และ GPU แบบ 5-core เหมาะกับการประมวลผลที่ใช้พลังงานมากและกราฟิกระดับสูง ใช้งานได้กับ Apple Pencil รุ่น 2 ไม่ว่าจะจดโน้ต จดเลคเชอร์ ทำงานประจำวัน หรือสร้างสรรค์งานศิลปะก็ราบรื่น
นอกจากนั้น iPad Gen 9 และ iPad mini ยังมาพร้อม iPadOS 15 อัปเกรดความสามารถ มัสติทาสก์ได้ลื่นไหล ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ iPad ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ iPad 9, iPad mini
Apple Watch Series 7
ปิดท้ายกันที่การเปิดตัว Apple Watch ใหม่ Series 7 ปรับดีไซน์ให้สวยขึ้น ทนทานมากขึ้น และ watchOS 8 มากความสามารถ
![Apple Watch Series 7](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/Apple_watch7_1.jpg)
Apple Watch Series 7 มากับจอ Retina แบบคริสตัล แข็งแกร่งและทนทานที่สุดเท่าที่เคยมีมา กันฝุ่นในระดับ IP6X และกันน้ำที่ระดับ WR50 ขอบจอเล็กลง ช่วยขยายมุมมองให้กว้างขึ้น หน้าจอติดตลอดเวลา ความสว่างเพิ่มขึ้น 70% ขนาดตัวอักษรใหญ่ขึ้นอีก 2 ขนาด คีย์บอร์ดแบบใหม่ ป้อนข้อความสะดวกกว่า ให้คุณใช้งาน Apple Watch ได้ง่ายขึ้น พร้อมหน้าปัดนาฬิกาแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใครอีก 2 แบบ คือ Contour และ Modular Duo แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 18 ชั่วโมง และพอร์ต USB-C ชาร์จเร็วขึ้น 33%
![Apple Watch Series 7](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/Apple_watch7_2.jpg)
Apple Watch Series 7 ยังคงมาพร้อมเครื่องมือช่วยดูแลสุขภาพ เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, แอปวัดระดับออกซิเจนในเลือด, แอปสำหรับการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ เช่น ไทชิและพิลาทิส พร้อมอัปเกรดการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการล้ม พร้อมบริการโทรฉุกเฉินทันที, การหยุดพักและทำต่อ และการวัดแคลอรี่ขณะเคลื่อนไหวได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
![Apple Watch Series 7](https://www.ofm.co.th/blog/wp-content/uploads/2021/09/Apple_watch7_3.jpg)
Apple Watch Series 7 มาพร้อมสายนาฬิกาโทนสีใหม่ และสามารถใช้งานกับสาย Apple Watch รุ่นก่อนหน้าได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม Apple Watch Series 7
การเปิดตัวครั้งนี้ Apple ปรับเปลี่ยนทั้งดีไซน์และอัปเกรดความสามารถใหม่ๆ ให้อุปกรณ์ของ Apple สามารถตอบโจทย์การใช้งานในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ได้มากยิ่งขึ้น ใครอ่านแล้วใจเริ่มสั่น อดใจรอกันอีกนิด ภายในปลายเดือนนี้เดี๋ยวได้ใช้กันแน่นอน!
ติดตามข่าวสารและบทความอื่นๆ ได้ที่ www.officemate.co.th/blog หรือช้อปสินค้าคุณภาพดี หลากหลายรายการในราคาโปรโมชั่นสุดคุ้ม พร้อมบริการส่งฟรีเมื่อช้อปครบ 499 บาท คลิกเลย OfficeMate