ทุกคนยังจำความรู้สึกสมัยเด็กๆ ได้ไหม เชื่อว่าหลายคนคงเคยรู้สึกตื่นเต้นกับการเปลี่ยนจากการใช้ดินสอมาเป็นปากกาตอนสมัยประถม การเปลี่ยนมาใช้ปากกาถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับวัยเด็กในตอนนั้น เพราะเหมือนการก้าวเป็นผู้ใหญ่อีกขั้น (จริงๆ ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ฮ่าๆๆ) แต่การเติบโตในครั้งนั้น ก็นำมาซึ่งความลำบาก เนื่องจากปากกาถึงจะดูคูล ดูโตขึ้น แต่เวลาเขียนผิดก็รู้สึกเพลียที่ต้องคอยหาน้ำยาลบคำผิด ลบแล้วก็ต้องรอให้แห้ง หรือแม้ปัจจุบันจะมีเทปกาวลบคำผิดแล้วก็ตาม ทำให้หน้ากระดาษที่จดบันทึกเป็นรอยอยู่ดี

วันนี้ออฟฟิศเมทจะชวนมารู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง ด้วยการทำความรู้จักกับปากกาลบได้ หลายคนที่รู้จักปากกาลบได้อยู่แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่ามันทำงานยังไง มีที่มาจากไหน ก็อ่านบทความนี้ได้ ส่วนใครที่ไม่เคยรู้จักปากกาลบได้มาก่อน ไม่รู้เลยว่ามีเทคโนโลยีปากกาที่ลบได้แล้วจริงๆ ยิ่งต้องทำความรู้จัก อ่านจบแล้วจะรีบเปลี่ยนปากกากันเลยทีเดียว

ที่มาของปากกาลบได้

ปากกาลบได้มีต้นกำเนิดมาจากแบรนด์เครื่องเขียนที่ชื่อว่า Paper Mate ในปีค.ศ.1979 ซึ่งปากกาลบได้ของแบรนด์ Paper Mate รู้จักในชื่อรุ่นว่า EraserMate ในขณะนั้นปากกาลบได้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับวงการเครื่องเขียน และได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานปากกาอย่างรวดเร็ว เพราะสามารถเขียน และลบได้ในแท่งเดียว รวมถึงการผลิตปากกาลบได้ออกมาได้สำเร็จ กลายเป็นการสั่นสะเทือนวงการอุตสาหกรรมดินสอเลยทีเดียว แต่ก็ใช้เวลาเป็นสิบปีในการพัฒนาปากกาลบได้ ในยุคแรกๆ ในขณะใช้งานปากกาลบได้ ผู้ใช้จะต้องออกแรงกดปากกาเพื่อให้หมึกไหลออกมาได้

รูปแบบปากกาลบได้ที่ทาง Paper Mate ผลิตออกมาในตอนนั้น เป็นปากกาลูกลื่นชนิดเปลี่ยนไส้ปากกาได้ เปลี่ยนยางลบได้ และยางลบบนหัวปากกาจะเป็นสีเดียวกันกับหมึกในแท่ง เพื่อช่วยให้หยิบใช้ง่ายขึ้น แต่เนื่องจากปากกาลบได้ของ Paper Mate ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทาง Paper Mate ผลิตปากกาลบได้แบบใช้แล้วทิ้งออกมาในที่สุด ซึ่งมีหน้าตาเหมือนรุ่น Write Bros Stick Pen แต่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของหัวปากกากว้างกว่า และยางลบบริเวณหัวปากกามีสีดำ

เทคโนโลยีปากกาลบได้

เทคโนโลยีอะไร ทำไมหมึกปากกาถึงลบได้

ความลับเบื้องหลังวิทยาศาสตร์ของปากกาลบได้ คือหลักการอุณหภูมิที่สูงขึ้น หรือความร้อนนั่นเอง โดยหมึกที่ถูกใช้ในปากกาลบได้เรียกว่า Metamo Ink ซึ่งเม็ดสีของเนื้อหมึกปากกาลบได้ มีสารประกอบอยู่ทั้งสิ้น 3 ชนิด ใช้อักษรเรียกแทนสารประกอบคือ สาร A คือ สีหมึก สาร B คือ สารที่ทำให้สีหมึกปรากฏ และสาร C คือ สารที่ทำให้สีเปลี่ยนไปเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ

หลักการทำงานคือ เมื่อเราเขียนอะไรก็ตามลงบนกระดาษด้วยปากกาลบได้ สาร A และ B จะทำงาน ทำให้ปรากฏขึ้นมาเป็นตัวอักษร เมื่อเราใช้ส่วนของยางลบที่อยู่ตรงปลายปากกาถูหมึกปากกาบริเวณที่ต้องการลบ การถู การเสียดสีไปมาทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้นเปลี่ยนไป เกิดเป็นความร้อนขึ้น กระบวนการนี้สาร C จะทำงานโดยการเข้าไปแยกสาร A และ B ออกจากกัน ทำให้หมึกบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นโปร่งแสง นั่นแสดงว่าหมึกไม่ได้หายไปไหน เพียงแค่เปลี่ยนสีเป็นโปร่งแสง เมื่ออุณหภูมิลดลงถึงจุดหนึ่ง ก็จะทำให้สาร A และ B กลับมารวมตัวอีกครั้ง สีของหมึกก็จะกลับมาปรากฏอีกครั้งหนึ่งนั่นเอง

ข้อดีและข้อเสียของปากกาลบได้

อยากที่บอกไปว่าปากกาลบได้ เคยเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจสำหรับเทคโนโลยีของเครื่องเขียน ข้อดีของปากกาชนิดนี้ตามชื่อเลยนั้นคือ เป็นปากกาที่สามารถลบได้เมื่อเขียนผิด เหมาะสำหรับการจดบันทึกหรือเขียนลงบนเอกสารที่มีการลบแก้ไขได้ อย่างการจดหรือมาร์กสิ่งที่ต้องทำลงบนปฏิทิน

นอกจากข้อดีแล้ว ปากกาลบได้ยังมีข้อเสียและข้อควรระวังเช่นกัน เนื่องจากคุณสมบัติที่สามารถลบออกได้ ทำให้ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้เซ็นเอกสาร เขียนลงบนเอกสารสำคัญหรือข้อความที่ต้องการให้อยู่ถาวร

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเกร็ดความรู้เกี่ยวกับปากกาลบได้ ทั้งต้นกำเนิดของปากกาลบได้ ทำไมถึงเป็นปากกาลบได้ และเหมาะสำหรับใช้งานที่ไหน ปากกาลบได้ถือเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้การจดบันทึกและแก้ไขเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น ใครที่สนใจอยากมีปากกาลบได้เป็นของตัวเอง สามารถสั่งซื้อได้ที่ออฟฟิศเมทเลยคะ สีสัน ดีไซต์หลายหลายจนอยากได้มากกว่าหนึ่งแท่ง

ที่มา: fmsblog.azurewebsites.net/ nanavdo.com