การลดหย่อนภาษี 2568 เป็นสิทธิประโยชน์สำคัญที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยกรมสรรพากรได้กำหนดรายการลดหย่อนภาษี 2568 เพื่อให้ผู้เสียภาษีได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ วันนี้ OFM จะพามาดูรายการลดหย่อนภาษี 2568 บุคคลธรรมดาว่ามีอะไรบ้าง พร้อมวิธีคำนวณและตัวอย่างการใช้งานจริงกัน
ใครต้องเสียภาษีบ้าง?
สำหรับคนที่มียอดเงินรายได้ต่อปีตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไป ทั้งจากเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส และรายได้จากธุรกิจส่วนตัว จำเป็นต้องยื่นแบบเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91
ซึ่งในปี 2568 นี้มีหลายมาตรการลดหย่อนภาษี 2568 ที่น่าสนใจ เพื่อช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น เช่น กองทุนรวม, หรือเบี้ยประกันต่างๆ หากคุณยื่นภาษีอย่างถูกต้องก็จะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่
รายการลดหย่อนภาษี 2568 แบบครบถ้วน

ลดหย่อนภาษี 2568 มีรายการที่ครอบคลุมทั้งค่าใช้จ่ายส่วนตัวและการลงทุนระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว
ค่าลดหย่อนส่วนตัว
- ลดหย่อนได้ 60,000 บาทต่อปี สำหรับผู้มีเงินได้ทุกคน
ลดหย่อนคู่สมรส
- คู่สมรสไม่มีรายได้ : ลดหย่อนได้ 60,000 บาท
- คู่สมรสมีรายได้ : เมื่อคู่สมรสมีรายได้ คุณจะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในส่วนของคู่สมรส ได้ แต่หากคุณเลือกยื่นภาษีรวมกัน คู่สมรสแต่ละคนจะยังได้รับ ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท รวมกันเป็น 120,000 บาท
ลดหย่อนบุตร (ปรับปรุงล่าสุดปี 2568)
เงื่อนไขลดหย่อนภาษี 2568 อายุไม่เกิน 20 ปี หรือ 20-25 ปีแต่กำลังศึกษา
- บุตรคนแรก: 30,000-60,000 บาท (ขึ้นอยู่กับประเภท)
- บุตรคนที่ 2 ขึ้นไปเกิดตั้งแต่ปี 2561: ลดหย่อนลูกคนละ 60,000 บาท
- บุตรบุญธรรม: คนละ 30,000 บาท สูงสุด 3 คน
ลดหย่อนพ่อแม่
เพื่อลดหย่อนภาษีค่าเลี้ยงดูบิดามารดา ท่านต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี โดยสามารถนำมาลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท
อื่น ๆ
- ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร: สูงสุด 60,000 บาท
- ค่าเลี้ยงดูคนพิการ: คนละ 60,000 บาท
2. ค่าลดหย่อนประกัน เงินออม และการลงทุนปี 2568
สำหรับการวางแผนลดหย่อนภาษี 2568 ในด้านการลงทุน มีหลายตัวเลือกที่น่าสนใจ
ประกันและเงินออม
- เงินประกันสังคม: สูงสุด 9,000 บาท
- ลดหย่อนประกันชีวิต: สูงสุด 100,000 บาท (ตนเอง) 10,000 บาท (คู่สมรสไม่มีรายได้)
- เบี้ยประกันสุขภาพ: สูงสุด 25,000 บาท, พ่อแม่ 15,000 บาท
- ประกันชีวิตแบบบำนาญ: 15% ของเงินได้ สูงสุด 200,000 บาท
กองทุนเพื่อการเกษียณ (ปรับปรุงปี 2568)
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: 15% ของเงินได้ สูงสุด 500,000 บาท
- กองทุน RMF: 30% ของเงินได้ สูงสุด 500,000 บาท
- กองทุน SSF: 30% ของเงินได้ สูงสุด 200,000 บาท
- กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.): 30% ของเงินได้ สูงสุด 500,000 บาท
- กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.): สูงสุด 30,000 บาทในปี 2568
การลงทุนอื่น ๆ
- Thai ESG Fund: 30% ของเงินได้ สูงสุด 300,000 บาท
- Social Enterprise: สูงสุด 100,000 บาท
วิธีคำนวณภาษีและวางแผนลดหย่อนให้คุ้มค่าที่สุด

หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับลดหย่อนภาษี 2568 ว่าค่าลดหย่อนจะหักกับภาษีโดยตรง แต่ที่จริงแล้วค่าลดหย่อนภาษีจะหักจากเงินได้ก่อน จากนั้นจึงคำนวณภาษี
ขั้นตอนการคำนวณภาษี
ขั้นที่ 1: คำนวณรายได้สุทธิ
เงินได้สุทธิ = เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อนทั้งหมด
ขั้นที่ 2: คำนวณภาษี ใช้อัตราภาษีแบบขั้นบันได:
- 0-150,000 บาท: ยกเว้นภาษี (0%)
- 150,001-300,000 บาท: 5%
- 300,001-500,000 บาท: 10%
- 500,001-750,000 บาท: 15%
- 750,001-1,000,000 บาท: 20%
- 1,000,001-2,000,000 บาท: 25%
- 2,000,001-5,000,000 บาท: 30%
- 5,000,001 บาทขึ้นไป: 35%
ตัวอย่างการคำนวณลดหย่อนภาษี 2568
รายได้ 480,000 บาท ค่าใช้จ่าย 100,000 บาท ค่าลดหย่อน 70,000 บาท
เงินได้สุทธิ = 480,000 – 100,000 – 70,000 = 310,000 บาท
คำนวณภาษีปี 2568:
– 150,000 บาทแรก: 0 บาท (ยกเว้น)
– 160,000 บาทถัดไป (150,001-310,000): 160,000 × 5% = 8,000 บาท
รวมภาษีที่ต้องจ่ายในปี 2568: 8,000 บาท
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและคำนวณภาษีได้ง่าย ๆ ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร คลิกเลย!: https://www.rd.go.th/63765.html
เอกสารลดหย่อนภาษี 2568 ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

ในปี 2568 การเตรียมตัวเพื่อยื่นภาษีจะง่ายขึ้นหากคุณรู้ว่าต้องมีเอกสารอะไรบ้าง โดยคุณสามารถรวบรวมเอกสารต่างๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการ ลดหย่อนภาษี 2568 ได้เลย
- หนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ)
- หลักฐานค่าลดหย่อนปี 2568 เช่น ใบเสร็จเบี้ยประกัน
- เอกสารประกอบ หักค่าลดหย่อนบุตร บิดามารดา สำหรับปีภาษี 2568
ยื่นภาษีได้ที่ไหนบ้าง?
การวางแผนเพื่อลดหย่อนภาษีปี 2568 เป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรเริ่มดำเนินการตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งคุณสามารถเลือกช่องทางยื่นภาษีที่สะดวกที่สุดได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์
- ยื่นด้วยตัวเองที่กรมสรรพากร หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา
- ลดหย่อนภาษี 2568 ออนไลน์ ผ่าน E-Filing https://efiling.rd.go.th/rd-cms/
- แอปพลิเคชัน RD Smart Tax สำหรับลดหย่อนภาษี 2568
กรณียกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ปรับปรุงปี 2568)
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2568 มีการปรับปรุงใหม่! มาดูกันว่าคุณจะใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ได้อย่างไรบ้าง?
ผู้พิการและผู้สูงอายุ (ปรับปรุงปี 2568)
- คนพิการอายุไม่เกิน 65 ปี: ยกเว้นภาษีส่วนที่ไม่เกิน 190,000 บาท
- ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปในปี 2568: ยกเว้นภาษีส่วนที่ไม่เกิน 190,000 บาท
เครดิตภาษีเงินปันผล
สำหรับผู้ถือหุ้น สามารถใช้ยกเว้นภาษีตามสัดส่วนเงินปันผล
Q&A รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี 2568
เพื่อให้คุณเข้าใจเรื่องการลดหย่อนภาษีปี 2568 ได้ง่ายขึ้น OFM ได้รวบรวมข้อมูลที่หลายคนสงสัยมาให้แล้ว
1. ลดหย่อนภาษี พ่อแม่ อายุ 60 นับอย่างไร?
การลดหย่อนภาษีบิดามารดา จะต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไปในปีภาษีนั้น เช่น ในปีภาษี 2568 (นับตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2568) พ่อแม่ต้องมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันเกิดในปีภาษีถัดไป
2. คู่สมรสมีรายได้ ลดหย่อนภาษีได้หรือไม่?
ถ้าจดทะเบียนสมรสและต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ คู่สมรสสามารถนำเงินที่จ่ายเบี้ยประกันชีวิตของตัวเองมาใช้สิทธิลดหย่อนได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่มีเงินได้ ผู้ที่มีเงินได้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสได้
3. พ่อแม่ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
ปัจจุบันการลดหย่อนภาษีบิดามารดาอยู่ที่คนละ 30,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าบิดามารดาต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
4. บุตรมีเงินได้ ลดหย่อนภาษีได้ไหม?
การลดหย่อนภาษีบุตร จะต้องเป็นบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและไม่มีเงินได้ในปีภาษีนั้น หรือหากบรรลุนิติภาวะแล้วแต่กำลังศึกษาอยู่ ก็จะใช้สิทธิได้
5. ลดหย่อนภาษีบุตรได้ถึงอายุเท่าไหร่?
การลดหย่อนภาษีบุตรสามารถใช้สิทธิได้จนถึงบุตรมีอายุไม่เกิน 20 ปี หากกำลังศึกษาอยู่สามารถใช้สิทธิได้จนถึงอายุไม่เกิน 25 ปี
วางแผนภาษี 2568 ให้คุ้มค่ากับ OfficeMate
การวางแผนลดหย่อนภาษี 2568 ที่ดีจะช่วยประหยัดภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมเตรียมเอกสารให้พร้อมและศึกษา ตารางลดหย่อนภาษี 2568 ให้เข้าใจก่อนยื่นภาษี เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีได้อย่างเต็มที่
หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาอุปกรณ์และเครื่องใช้สำนักงานครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือเฟอร์นิเจอร์สำนักงานสำหรับการทำงานแบบไฮบริด การซื้อสินค้าเหล่านี้สามารถนำมาเป็น ค่าใช้จ่ายของบริษัท ได้ ช่วยลดกำไรสุทธิและประหยัดภาษี OFM พร้อมเป็นผู้ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและคุ้มค่าที่สุด
ดีลสุดพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่! 🔥
🛍️ ซื้อครบ 999.- ใส่โค้ด “NEW10” รับส่วนลด 10% (สูงสุด 1,000 บาท)
💥รับคะแนน The 1 X3 (1,000 บาท)
🎯 ยิ่งช้อป ยิ่งลด! อย่าพลาดดีลสุดคุ้มวันนี้!
📌 ช้อปเลย 👉 https://www.ofm.co.th