การปรับปรุงและอัปเกรด อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร คือก้าวสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในการทำอาหาร เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นได้ทันท่วงที การใช้เครื่องมือที่ทันสมัยช่วยให้ควบคุมคุณภาพอาหารได้สม่ำเสมอ และลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนลง

Key Takeaways

  • การอัพเกรดคือการลงทุนเพื่อประสิทธิภาพ: การปรับปรุงและอัปเกรดอุปกรณ์ครัวร้านอาหารเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในการทำอาหาร รวมถึงช่วยควบคุมคุณภาพอาหารให้มีความสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถรับรองปริมาณออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นได้ 
  • การวัดผลการทำงานในครัว: ควรใช้ตัวชี้วัด (KPIs) เพื่อวัด Performance การทำงานในครัวอย่างแม่นยำ โดยค่าสถิติมาตรฐานที่ควรกำหนด เช่น เวลาเตรียมวัตถุดิบ (Time to Prep) อยู่ที่ 1 – 3 นาที และเวลาการเสิร์ฟทั้งหมด (Service Time) อยู่ที่ 10 – 15 นาที 
  • 10 อุปกรณ์สำคัญที่ต้องอัพเกรด: ควรพิจารณาอัพเกรดอุปกรณ์หลักเพื่อ “บูสต์” งานครัว เช่น เครื่องล้างจานขนาดเล็กประสิทธิภาพสูง , ระบบเรียกพนักงาน/คิวไร้สาย , หม้อหุงข้าว/หม้อทอดแก๊สเชิงพาณิชย์ , และตู้แช่เย็น/โชว์เค้กที่ได้มาตรฐานเกรดอาหาร 
  • ข้อควรคำนึงสำหรับผู้ประกอบการใหม่: ควรลงทุนในอุปกรณ์ทำความร้อน (เตา, เตาอบ) และอุปกรณ์ทำความเย็น (ตู้เย็น/ตู้แช่) เป็นอันดับแรก และต้องให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดและบำรุงรักษาเชิงป้องกันอย่างสม่ำเสมอ

Table of Contents

Boost! ครัวร้านอาหารกับ 10 อุปกรณ์ครัวร้านอาหารที่ต้องอัพเกรด  

ให้ร้านอาหารของคุณก้าวไปอีกขั้นกับการอัพเกรดอุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ที่มาพร้อมฟังก์ชันและนวัตกรรมใหม่ๆในการทำอาหาร บูสต์งานครัวของร้านอาหารคุณให้พุ่งทะยานไปอีกระดับ 

1.เครื่องล้างจานขนาดเล็ก OMEGA HDW-50 ประสิทธิภาพ 600 ใบ

เครื่องล้างจานขนาดเล็ก OMEGA HDW-50 ประสิทธิภาพ 600 ใบ

ในครัวที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ เมื่อจานสกปรกกองสูงขึ้นเรื่อย ๆ เครื่องล้างจาน Omega HDW-50 คือฮีโร่ผู้มาช่วยกอบกู้สถานการณ์ อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ชิ้นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีจากยุโรปที่สามารถล้างจานได้อย่างต่อเนื่องถึง 600 ใบต่อชั่วโมง ทำให้ปัญหาภาชนะไม่พอใช้หมดไป และเพิ่มความมั่นใจด้านสุขอนามัยในทุก ๆ จาน.

จุดเด่นสินค้า

  • ประสิทธิภาพสูง (600 ใบ/ชั่วโมง): สามารถล้างจานได้รวดเร็วและต่อเนื่องถึง 600 ใบต่อชั่วโมง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาภาชนะไม่พอใช้ได้ทันทีในช่วงเวลาเร่งด่วนของร้านอาหาร.
  • ควบคุมอุณหภูมิแม่นยำเพื่อสุขอนามัย: ชุดควบคุมแบบ Multi-Function สามารถควบคุมอุณหภูมิการล้างที่ 65 องศาเซลเซียส และการฆ่าเชื้อที่ 85 องศาเซลเซียส เพื่อให้จานสะอาดและถูกสุขอนามัยสูงสุด.
  • ประหยัดพลังงานและน้ำ: ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยจากยุโรป ทำให้เครื่องล้างจานนี้ช่วยประหยัดทั้งแรงคน, น้ำ, และค่าไฟฟ้า เมื่อเทียบกับการล้างด้วยมือ.
  • ทนทาน ใช้งานง่าย: ตัวเครื่องเหมาะสำหรับภาชนะทุกประเภท (แก้ว, จาน, ชาม) และถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ทนทานต่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์.

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. ลดภาระงานและค่าใช้จ่ายบุคลากร: ลดความจำเป็นในการจ้างพนักงานล้างจาน และลดค่าแรงในส่วนนี้1. ต้นทุนเริ่มต้นสูง: ราคาเครื่องค่อนข้างสูง (84,000 บาท) ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่มากพอสมควร
2. ความรวดเร็วในการบริการ: สามารถนำจานกลับมาใช้หมุนเวียนได้เร็ว ทำให้รองรับจำนวนลูกค้าได้มากขึ้น2. ต้องการพื้นที่ติดตั้งเฉพาะ: แม้จะเป็นขนาดเล็ก แต่ยังคงต้องใช้พื้นที่ในครัวสำหรับการติดตั้งระบบน้ำและไฟฟ้า 1 เฟส 20 แอมป์
3. ได้มาตรฐานสุขอนามัย: อุณหภูมิการล้างและฆ่าเชื้อที่สูง ช่วยให้มั่นใจว่าจานสะอาด ปลอดภัยตามมาตรฐานร้านอาหาร3. ต้องมีการบำรุงรักษา: เครื่องจักรที่ซับซ้อนย่อมต้องการการดูแลรักษาตามระยะเวลาเพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด
4. เหมาะกับธุรกิจขนาดกลาง: เหมาะสำหรับร้านอาหารที่มี 10-30 โต๊ะ ที่ต้องการล้างจานในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง4. การใช้พลังงานสูง (เมื่อเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป): แม้จะประหยัดกว่าการล้างมือ แต่ยังต้องใช้กำลังไฟฟ้าสูงเพื่อทำความร้อนให้ถึงอุณหภูมิที่กำหนด

2.RETEKESS รุ่น TD 105 (จอรับสัญญาณ 1 ) + TD 036 (ปุ่มกดเรียก * 10 ) กริ่ง กด เรียก พนักงาน ไร้สาย สำหรับ ร้านอาหาร คาเฟ่ สินค้ารับประกัน 1 ปี

RETEKESS รุ่น TD 105 (จอรับสัญญาณ 1 ) + TD 036 (ปุ่มกดเรียก * 10 ) กริ่ง กด เรียก พนักงาน ไร้สาย สำหรับ ร้านอาหาร คาเฟ่ สินค้ารับประกัน 1 ปี

ชุดระบบเรียกพนักงานไร้สาย Retekess TD-105/TD-036 เป็น อุปกรณ์เปิดร้านอาหารตามสั่ง หรือคาเฟ่ขนาดเล็ก-กลาง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการได้อย่างดีเยี่ยม ลูกค้าไม่ต้องตะโกนเรียก กดปุ่มแจ้งพนักงานได้ทันที ช่วยลดการใช้บุคลากรและทำให้การสั่งอาหาร/คิดเงินรวดเร็วขึ้น

จุดเด่นสินค้า

  • เพิ่มประสิทธิภาพการบริการ: ลูกค้าสามารถกดปุ่มเรียกพนักงาน สั่งอาหารเพิ่ม หรือขอเก็บเงินได้อย่างรวดเร็ว ทำให้พนักงานทำงานได้ตรงจุดมากขึ้น
  • ลดภาระค่าใช้จ่ายพนักงาน: ช่วยประหยัดบุคลากรและลดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานได้ในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีลูกค้าหนาแน่น
  • ติดตั้งและใช้งานง่ายแบบไร้สาย: ตัวปุ่มกดเชื่อมต่อสัญญาณกับจอรับโดยตรง ไม่ต้องใช้ Wi-Fi ติดตั้งง่ายและใช้งานได้ทันที
  • ทนทานต่อการใช้งานในร้านอาหาร: ปุ่มกด (TD-036) มีคุณสมบัติกันน้ำและกันฝุ่น ทำให้เหมาะสำหรับการติดตั้งบนโต๊ะอาหารที่มีโอกาสโดนน้ำหรือเศษอาหาร

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. จอรับสัญญาณแสดงตำแหน่งที่กดเรียกล่าสุดได้ 4 ตำแหน่งพร้อมกัน1. จอรับสัญญาณส่งเสียงแจ้งเตือนเป็นภาษาอังกฤษ (ตามข้อมูลสินค้า)
2. ชุดประกอบด้วยปุ่มกด 10 จุด ครอบคลุมร้านขนาดเล็กถึงกลางได้ดี2. อาจมีค่าบริการจัดส่งพิเศษ (ต้องตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติม)
3. ตัวจอรับสัญญาณรองรับการเพิ่มปุ่มกดได้มากถึง 999 อัน ทำให้สามารถขยายร้านในอนาคตได้3. เป็นระบบที่ต้องเสียบปลั๊กไฟเพื่อใช้งาน (จอรับสัญญาณ)
4. ปุ่มกดมี 4 ฟังก์ชันในปุ่มเดียว (ตามข้อมูลสินค้าบางส่วน) สามารถกำหนดหน้าที่ได้หลากหลาย4. อาจต้องใช้เวลาในการฝึกอบรมพนักงานให้คุ้นเคยกับการจัดการสัญญาณเรียกเข้า

3.RETEKESS เครื่องเรียกคิวแบบไร้สาย รุ่น TD162 สีดำ (10 ตัว/ชุด)

RETEKESS เครื่องเรียกคิวแบบไร้สาย รุ่น TD162 สีดำ (10 ตัว/ชุด)

หากถามว่า อุปกรณ์ร้านอาหารมีอะไรบ้าง ที่ช่วยแก้ปัญหาความแออัดและคิวยาวได้จริง ชุดเครื่องเรียกคิวไร้สาย Retekess TD-162 เป็นคำตอบ ด้วยเพจเจอร์ 10 ตัว ช่วยให้ลูกค้าสามารถเดินรอในบริเวณที่กำหนดได้ เมื่อคิวพร้อมก็เรียกแจ้งผ่านการสั่น/เสียง ทำให้การจัดการคิวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันสมัย

จุดเด่นสินค้า

  • จัดการคิวและลูกค้ารอคิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ: ลูกค้าไม่ต้องยืนรอหน้าร้านหรือคอยฟังเสียงเรียก ทำให้ประสบการณ์การรอคิวดีขึ้นอย่างมาก
  • ระยะการใช้งานไกลถึง 400 เมตร: สามารถใช้งานได้ในพื้นที่เปิดโล่งสูงสุด 400 เมตร ทำให้ร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
  • ความทนทานสูงและแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: วัสดุทำจาก ABS ที่มีความแข็งแรง ทนต่อรอยขีดข่วน และเพจเจอร์สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
  • รองรับการขยายจำนวนเครื่องสูงถึง 998 ตัว: ระบบรองรับเพจเจอร์จำนวนมาก ทำให้ธุรกิจสามารถขยายสาขาหรือรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้อย่างไร้ข้อจำกัด

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. ลดความแออัดหน้าร้านและเพิ่มความเป็นระเบียบเรียบร้อย1. ต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่เพจเจอร์เป็นประจำ (ใช้งานได้ประมาณ 20 ชม. ต่อครั้ง)
2. มีฟังก์ชันตั้งเวลาปิดเสียงแจ้งเตือนอัตโนมัติ (0-250 วินาที)2. เพจเจอร์แต่ละตัวมีขนาดค่อนข้างใหญ่ (80×11.5 มม.) ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับบางคน
3. วัสดุ ABS ทนทานต่อการสึกหรอและรอยขีดข่วน3. เป็นการลงทุนเริ่มแรกที่ค่อนข้างสูงกว่าการใช้กระดาษเรียกคิวแบบดั้งเดิม
4. อุปกรณ์ร้านอาหารมีอะไรบ้าง ที่ทันสมัย ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของร้านให้ดูเป็นมืออาชีพ4. ไม่มีข้อมูลการรับประกันสินค้าอย่างชัดเจน (มีเพียงระบุว่า “บริการหลังการขายที่ตอบโจทย์”)

4.เครื่องเตรียมอาหารมือถือ MINIMEX MHB1

เครื่องเตรียมอาหารมือถือ MINIMEX MHB1

เครื่องเตรียมอาหารมือถือ Minimex MHB1 เป็น อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ขนาดกะทัดรัดแต่ทรงพลัง ด้วยมอเตอร์ 1000 วัตต์ และใบมีดสเตนเลสคมกริบ ช่วยให้การบดสับ ผสม และตีวัตถุดิบเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับครัวมืออาชีพที่ต้องการความหลากหลายและประหยัดเวลาในการเตรียมอาหาร

จุดเด่นสินค้า

  • กำลังมอเตอร์สูง 1000 วัตต์: ให้พลังบดสับที่ทรงพลังและรวดเร็ว เหมาะสำหรับการใช้งานหนักในครัวร้านอาหารหรือคาเฟ่
  • ความเร็ว 12 ระดับ พร้อมปุ่ม Turbo: สามารถปรับความเร็วได้ตามความแข็งของวัตถุดิบและตามความละเอียดที่ต้องการ รวมถึงปุ่ม Turbo สำหรับเร่งความเร็วสูงสุดในงานที่ต้องใช้พลังพิเศษ
  • อุปกรณ์เสริมครบชุดสำหรับงานครัว: มาพร้อมกับโถผสม (Mixing Beaker), โถบดสับ (Chopper), และหัวตี (Balloon Whisk) ทำให้สามารถทำได้ทั้งงานบด, สับ, ตี, และผสมในเครื่องเดียว
  • ใช้งานง่ายและทำความสะอาดสะดวก: รูปแบบด้ามจับถูกออกแบบให้ถนัดมือ ควบคุมง่าย และมีใบมีดสเตนเลสที่ทำความสะอาดได้ไม่ยุ่งยาก

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. สามารถเตรียมวัตถุดิบได้หลากหลายประเภท (บด, สับ, ตี)1. เนื่องจากเป็นรุ่นมือถือ (Hand Blender) จึงเหมาะกับครัวขนาดเล็กหรือการเตรียมวัตถุดิบปริมาณน้อยถึงปานกลาง
2. ใบมีดสเตนเลสคุณภาพดี มีความคม ทนทานต่อการใช้งานบ่อยครั้ง2. ไม่ได้ระบุข้อมูลการรับประกันสินค้าอย่างชัดเจนในรายละเอียดสินค้า
3. ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่จัดเก็บใน อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร3. การใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้มอเตอร์ร้อน ต้องมีการพักเครื่องเป็นระยะ
4. ปรับความเร็วได้ละเอียดถึง 12 ระดับ ตอบโจทย์ความต้องการของเชฟ4. มีค่าบริการจัดส่งพิเศษในบางพื้นที่ (ต้องตรวจสอบก่อนสั่งซื้อ)

5.SGE เตาย่างสเต็ก ระบบแก๊ส รุ่น GDG-73

SGE เตาย่างสเต็ก ระบบแก๊ส รุ่น GDG-73

เตาปิ้งย่างสเต็กระบบแก๊ส SGE รุ่น GDG-73 เป็น อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ระดับมืออาชีพ เหมาะสำหรับการย่างเนื้อ สเต็ก และอาหารทะเล ด้วยการให้ความร้อนที่สม่ำเสมอและปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ ช่วยรังสรรค์เมนูย่างที่มีกลิ่นหอมและรสชาติดีเยี่ยมในปริมาณมาก

จุดเด่นสินค้า

  • ให้ความร้อนสูงและสม่ำเสมอ: ใช้ระบบแก๊สในการทำความร้อน ซึ่งให้ความร้อนได้รวดเร็วและควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับการย่างแบบมืออาชีพ
  • วัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานเชิงพาณิชย์: มักผลิตจากสเตนเลสสตีลคุณภาพสูง ทำให้ทนทานต่อการใช้งานหนัก ทำความสะอาดง่าย และถูกสุขอนามัยในครัวร้านอาหาร
  • เพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์: ตะแกรงย่างออกแบบมาให้สร้างลายย่างสวยงามบนสเต็กและอาหารอื่น ๆ พร้อมดึงรสชาติและกลิ่นหอมจากการย่างออกมาได้ดี
  • เหมาะสำหรับเมนูหลากหลาย: ไม่จำกัดเพียงแค่สเต็ก แต่ยังสามารถใช้ย่างเนื้อหมู เนื้อไก่ ผัก หรืออาหารทะเลได้หลากหลายเมนู ตอบโจทย์ครัวร้านอาหารที่เน้นเมนูย่าง

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. ควบคุมอุณหภูมิได้ง่ายและรวดเร็วด้วยระบบแก๊ส1. ต้องมีการติดตั้งท่อแก๊สและระบบระบายอากาศที่ได้มาตรฐานในครัว
2. พื้นที่การย่างขนาดใหญ่ รองรับการทำอาหารได้พร้อมกันจำนวนมาก2. อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ประเภทนี้ต้องการการทำความสะอาดตะแกรงย่างและถาดรองน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ
3. ประหยัดพลังงานเมื่อเทียบกับเตาไฟฟ้าขนาดใหญ่ในระยะยาว (สำหรับเตาแก๊ส)3. อาจจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในครัวมากกว่าเตาแบบตั้งโต๊ะขนาดเล็ก
4. เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของเมนูย่างให้ได้มาตรฐาน4. ไม่สามารถระบุคุณสมบัติเฉพาะรุ่น GDG-73 ได้ เนื่องจากเข้าถึงข้อมูลไม่ได้

6.ตู้แช่เย็น 2 ประตู(9.5คิว) ซิสเต็มฟอร์ม รุ่นSPC-150C

ตู้แช่เย็น 2 ประตู(9.5คิว) ซิสเต็มฟอร์ม รุ่นSPC-150C

เมื่อต้องเดิน ร้านขายอุปกรณ์ เปิดร้านอาหาร ตู้แช่เย็น System Form รุ่น SPC-150C เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ด้วยขนาด 9.5 คิว 2 ประตูแบบตั้งใต้เคาน์เตอร์ ผลิตจากสเตนเลส 304 เกรดอาหารทั้งตู้ ควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิทัล จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาคุณภาพวัตถุดิบและความสะอาดในครัวมืออาชีพ

จุดเด่นสินค้า

  • วัสดุคุณภาพสูง (สเตนเลส 304): ผลิตจากสเตนเลส 304 เกรดอาหาร ทำให้แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน ทำความสะอาดง่าย และถูกสุขอนามัยสำหรับการเก็บวัตถุดิบ
  • ดีไซน์ประหยัดพื้นที่ (Under Counter): ออกแบบมาสำหรับตั้งใต้เคาน์เตอร์หรือชั้นวาง ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในครัวที่มีจำกัด และทำให้การหยิบจับวัตถุดิบขณะทำอาหารเป็นไปอย่างรวดเร็ว
  • ควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิทัล: มีระบบ Digital Control พร้อมหน้าจอแสดงอุณหภูมิ ทำให้สามารถตั้งค่าและควบคุมความเย็นได้อย่างแม่นยำ (อุณหภูมิ $+2^\circ C$ ถึง $+8^\circ C$) เพื่อคงความสดใหม่ของวัตถุดิบ
  • คอมเพรสเซอร์ขนาด 1/3 แรงม้า: ใช้คอมเพรสเซอร์ที่มีกำลังเหมาะสมกับขนาดตู้ ทำให้ทำความเย็นได้ดีและรวดเร็ว รองรับการเปิด-ปิดตู้บ่อยครั้งในการใช้งานเชิงพาณิชย์

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. เหมาะสำหรับร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่ต้องการจัดเก็บวัตถุดิบในจุดที่หยิบง่าย1. เป็นสินค้า Pre-Order ต้องใช้เวลาผลิตประมาณ 30-45 วัน
2. รับประกันระบบทำความเย็น 1 ปี (โดยโรงงานซิสเต็มฟอร์ม)2. บริการจัดส่งจำกัดเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น
3. มีชั้นวางปรับระดับได้ 2 ชั้น ช่วยจัดระเบียบวัตถุดิบให้เป็นสัดส่วน3. ความจุ 9.5 คิว อาจไม่เพียงพอสำหรับร้านอาหารขนาดใหญ่มาก
4. วัสดุเกรดอาหาร สอดคล้องกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยของ ร้านขายอุปกรณ์ เปิดร้านอาหาร4. มีค่าบริการจัดส่งพิเศษนอกพื้นที่การจัดส่งปกติ (ต้องตรวจสอบเงื่อนไข)

7.ตู้แช่โชว์เค้กกระจกโค้ง (10.5 คิว) ซิสเต็มฟอร์ม รุ่นJIG

ตู้แช่โชว์เค้กกระจกโค้ง (10.5 คิว) ซิสเต็มฟอร์ม รุ่นJIG

ตู้แช่โชว์เค้กกระจกโค้ง System Form รุ่น JIG เป็น อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร หรือคาเฟ่ที่ผสมผสานฟังก์ชันการเก็บรักษาและการจัดแสดงได้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์โค้งมนสวยงาม พร้อมหลอดไฟ LED Warm White ช่วยดึงดูดสายตาลูกค้า ในขณะที่ระบบ Digital Control ควบคุมอุณหภูมิให้เค้กสดใหม่เสมอ

จุดเด่นสินค้า

  • ดึงดูดสายตาด้วยดีไซน์และแสงไฟ: ทรงโค้งสวยงามและหลอดไฟ LED Warm White ช่วยขับเน้นให้ขนมหวานและเค้กดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการจัดวางหน้าร้าน
  • ควบคุมความเย็นอย่างแม่นยำ: ใช้ระบบ Digital Control ในการควบคุมอุณหภูมิในช่วง+2C – +8C ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการคงความสดใหม่ของเค้ก
  • ใช้งานและเคลื่อนย้ายสะดวก: มีล้อเลื่อน 3 ล้อ ทำให้สะดวกในการทำความสะอาดพื้นที่ด้านล่างหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งการจัดวางในร้าน
  • รับประกันระบบทำความเย็น: มาพร้อมการรับประกัน 1 ปีเฉพาะระบบทำความเย็น ทำให้มั่นใจในความคุ้มค่าของการลงทุนใน อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ชิ้นนี้

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. ดีไซน์สวยงามและทันสมัย เพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีให้กับร้าน1. บริการจัดส่งจำกัดเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น
2. มีชั้นวางกระจก 3 ชั้นที่ปรับระดับได้ ทำให้จัดวางสินค้าได้หลากหลาย2. เป็นสินค้า Pre-Order ต้องใช้เวลาในการผลิตสินค้าประมาณ 30-45 วัน
3. ขนาด 10.5 คิว เหมาะสำหรับร้านกาแฟหรือเบเกอรี่ขนาดกลาง3. การทำความสะอาดกระจกโค้งอาจต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่ากระจกแบบเรียบ
4. อุณหภูมิที่เสถียรช่วยยืดอายุการจัดเก็บของสินค้าประเภทเบเกอรี่4. ใช้น้ำยาทำความเย็น R-22 (ตามข้อมูลสินค้า) ซึ่งอาจเป็นรุ่นที่ต้องพิจารณาหากต้องการสารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า

8.หม้อหุงข้าวแก๊ส ขนาด 10 ลิตร Rinnai RR-55A

หม้อหุงข้าวแก๊ส ขนาด 10 ลิตร Rinnai RR-55A

หม้อหุงข้าวแก๊ส Rinnai RR-55A เป็น อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ระดับอุตสาหกรรม ด้วยความจุสูงถึง 10 ลิตร สามารถหุงข้าวสำหรับเสิร์ฟได้มากถึง 55 คนต่อครั้ง ช่วยประหยัดต้นทุนและพลังงาน พร้อมระบบตัดแก๊สอัตโนมัติเมื่อข้าวสุก เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพข้าวที่สม่ำเสมอ

จุดเด่นสินค้า

  • ความจุขนาดใหญ่เพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์: สามารถหุงข้าวสารได้ 4-10 ลิตร หรือเสิร์ฟได้ถึง 55 ที่นั่งต่อครั้ง เหมาะสำหรับร้านอาหารขนาดใหญ่ โรงอาหาร หรือธุรกิจจัดเลี้ยง
  • ประหยัดพลังงานและต้นทุน: การใช้แก๊ส (LPG) ในการหุงข้าวทำให้ประหยัดกว่าหม้อหุงข้าวไฟฟ้ารุ่นใหญ่ และหุงได้รวดเร็ว ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
  • ระบบความปลอดภัยและการใช้งานง่าย: มีระบบตัดแก๊สอัตโนมัติทันทีเมื่อข้าวสุก พร้อมกลไกที่ออกแบบภายใต้หลักความปลอดภัย ใช้งานง่ายเพียงแค่กดปุ่ม
  • ได้ข้าวคุณภาพดีสม่ำเสมอ: หม้อหุงข้าวแก๊สให้ความร้อนสูงและทั่วถึง ทำให้ข้าวสุกเร็ว เม็ดสวย และมีกลิ่นหอมตามแบบฉบับการหุงด้วยแก๊ส ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร มืออาชีพเลือกใช้

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. หุงข้าวได้ในปริมาณมาก (สูงสุด 10 ลิตร) ในเวลาอันรวดเร็ว1. ต้องเชื่อมต่อกับท่อแก๊ส LPG ซึ่งต้องมีระบบติดตั้งที่ปลอดภัย
2. ประหยัดต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าในระยะยาว2. ขนาดใหญ่ (485 x 540 x 415 มม.) และน้ำหนักมาก (16.2 กก.) อาจกินพื้นที่ในครัว
3. มีระบบตัดแก๊สอัตโนมัติ ช่วยป้องกันการไหม้และประหยัดแก๊ส3. การใช้งานจำเป็นต้องมีการดูแลและตรวจสอบสภาพสายแก๊สอย่างสม่ำเสมอ
4. เป็น อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ที่ทนทานต่อการใช้งานหนัก4. ไม่ได้ระบุข้อมูลการรับประกันสินค้าอย่างชัดเจน (มีเพียงระบุว่า “รับประกันความพึงพอใจคืนเงินได้ภายใน 30 วัน”)

9.หม้อทอดเชิงพาณิชย์ (แก๊ส) 22 ลิตร Rinnai RFA-227G

หม้อทอดเชิงพาณิชย์ (แก๊ส) 22 ลิตร Rinnai RFA-227G

หม้อทอดแก๊ส Rinnai รุ่น RFA-227G เป็น อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ระดับมืออาชีพที่มีความจุสูงถึง 22 ลิตร มาพร้อมระบบควบคุมแบบดิจิทัลและการระบายน้ำมันอัตโนมัติ ช่วยให้การทอดอาหารปริมาณมากเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด

จุดเด่นสินค้า

  • ควบคุมแบบดิจิทัลเพื่อความแม่นยำ: สามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำในช่วง $+50^\circ C$ ถึง $+220^\circ C$ และตั้งเวลาการทอดได้ด้วยระบบดิจิทัลเพียงสัมผัสเดียว ทำให้ได้มาตรฐานอาหารที่สม่ำเสมอ
  • ระบบจัดการน้ำมันอัตโนมัติ: มีระบบระบายน้ำมันส่วนเกินออกไปทางด้านล่าง และฟังก์ชันกรองน้ำมันสำหรับนำกลับมาใช้ใหม่ ช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ำมันและลดต้นทุน
  • ความปลอดภัยสูงสุดสำหรับครัวเชิงพาณิชย์: มาพร้อมอุปกรณ์ตัดแก๊สอัตโนมัติ อุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับความร้อนส่วนเกิน (Overheat Safety Device) และอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า
  • ความจุ 22 ลิตร: รองรับการทอดอาหารปริมาณมากในแต่ละรอบ เหมาะสำหรับร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ร้านอาหารทอด หรือธุรกิจจัดเลี้ยงที่ต้องการความรวดเร็ว

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. ทำความร้อนได้เร็วและควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำสูงด้วยระบบแก๊ส1. มีราคาสูงกว่าหม้อทอดไฟฟ้าหรือแก๊สขนาดเล็กทั่วไปมาก
2. ฟังก์ชันกรองน้ำมันช่วยประหยัดต้นทุนและรักษาน้ำมันให้สะอาด2. ต้องมีการติดตั้งท่อแก๊สและระบบระบายอากาศที่เหมาะสม
3. มีระบบความปลอดภัยหลายชั้น เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก3. การบำรุงรักษาและการทำความสะอาดระบบระบายน้ำมันอาจซับซ้อนกว่าหม้อทอดธรรมดา
4. เป็น อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ที่ช่วยลดความผิดพลาดในการทอดด้วยการควบคุมอัตโนมัติ4. ไม่ได้ระบุข้อมูลการรับประกันสินค้าอย่างชัดเจน (มีเพียงระบุว่า “รับประกันความพึงพอใจคืนเงินได้ภายใน 30 วัน”)

10.ถ้วยตวงแก้วตวงพิมพ์สเกล 500ml อย่างหนา เอทเซล

ถ้วยตวงแก้วตวงพิมพ์สเกล 500ml อย่างหนา เอทเซล

แก้วตวงขนาด 500 มล. เป็น อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร หรือเครื่องมือสำหรับร้านกาแฟ/บาร์ ที่มีความสำคัญต่อการควบคุมมาตรฐานสูตรอาหารและเครื่องดื่ม การพิมพ์สเกลที่ชัดเจนช่วยให้การตวงส่วนผสมทำได้อย่างแม่นยำทุกครั้ง

จุดเด่นสินค้า

  • ความแม่นยำสูง: มีสเกลพิมพ์ที่ชัดเจน ช่วยให้การตวงของเหลวหรือส่วนผสมแห้งมีความแม่นยำตามมาตรฐานของสูตรอาหารหรือเครื่องดื่ม
  • ความทนทาน: มักผลิตจากแก้วหนา หรือวัสดุที่ทนทานต่ออุณหภูมิและการใช้งานหนักในสภาพแวดล้อมเชิงพาณิชย์
  • ปริมาณ 500 มล.: เป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับการตวงส่วนผสมหลักหรือการเตรียมส่วนผสมจำนวนปานกลาง
  • รักษามาตรฐานของรสชาติ: เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่วยควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้มีรสชาติและมาตรฐานที่สม่ำเสมอ

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
ความแม่นยำในการตวง: สเกลพิมพ์ชัดเจน ทำให้ควบคุมมาตรฐานสูตรได้สม่ำเสมอแตกหักง่าย: หากทำตกหรือกระแทก อาจแตกได้ (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับถ้วยตวงพลาสติก)
ทนทานต่อความร้อน/เย็น: สามารถใช้ตวงของเหลวที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำได้ดีหนักกว่า: มีน้ำหนักมากกว่าถ้วยตวงที่ทำจากพลาสติก
ทำความสะอาดง่าย: พื้นผิวแก้วไม่ซับกลิ่นหรือคราบสีติดง่ายสเกลอาจลบเลือน: หากเป็นสเกลที่พิมพ์ด้านนอก อาจหลุดลอกเมื่อใช้ไปนาน ๆ หรือล้างด้วยสารเคมีเข้มข้น

วัด Performance การทำงานในครัวอย่างแม่นยำด้วยตัวเลขสถิติ  

การกำหนด performance ในครัว จำเป็นต้องมี data รองรับเพื่อให้การทำงานไม่เครียดเกินไปจนคุณภาพเสีย แต่ก็ต้องไม่หย่อนยานเกินไปจนส่งออเดอร์ไม่ทันเวลา OFM สรุปมาให้แล้วกับตัวเลขสถิติในการทำงานกับอุปกรณ์ครัวร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพ 

ตัวชี้วัดตามช่วงเวลา (Time-Based KPIs)

  • Time to Prep (เวลาเตรียมวัตถุดิบ):
    • คำอธิบาย: เวลาที่ใช้ในการเตรียมวัตถุดิบและส่วนประกอบที่จำเป็นก่อนเริ่มปรุงอาหาร
    • ค่ามาตรฐาน: 1 – 3 นาที
  • Time to Cook (เวลาปรุงอาหาร):
    • คำอธิบาย: เวลาที่ใช้ในการปรุงอาหาร/ประกอบเมนูหลักหลังจากเตรียมวัตถุดิบเสร็จสิ้น
    • ค่ามาตรฐาน: 5 – 12 นาที
  • Service Time (เวลารวมในการเสิร์ฟ):
    • คำอธิบาย: เวลารวมทั้งหมดตั้งแต่รับออเดอร์จนถึงอาหารพร้อมเสิร์ฟที่จุดรับอาหาร (Serve Ready)
    • ค่ามาตรฐาน: 10 – 15 นาที

ตัวชี้วัดตามประเภทเมนู (Menu Category Standard)

ค่าเฉลี่ยเวลาตั้งแต่รับออเดอร์จนถึงเสิร์ฟจะแตกต่างกันตามความซับซ้อนของเมนู:

  • เมนูง่าย/พร้อมทาน (เช่น สลัด, ซุป, ของหวาน): 5 – 8 นาที
  • เมนูหลักทั่วไป (เช่น ผัด, ทอด, จานเดียว): 10 – 15 นาที
  • เมนูซับซ้อน/สเต็ก/พาสต้า (ปรุงตามความสุก): 15 – 20 นาที

ตัวชี้วัดด้านอัตราส่วน (Rate-Based KPI)

  • Order Fulfillment Rate (อัตราการเสร็จทันเวลา):
    • คำอธิบาย: เปอร์เซ็นต์ของออเดอร์ที่สามารถเสร็จและเสิร์ฟได้ภายในเวลามาตรฐานที่กำหนด (Target Time)
    • เป้าหมาย: > 90% (มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์)

FAQ สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารหน้าใหม่ 

การเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่สามารถจัดการได้ง่ายขึ้นด้วยการเตรียมพร้อมด้านข้อมูลและอุปกรณ์ครัวร้านอาหารที่ถูกต้อง เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารหน้าใหม่ เพื่อให้คุณก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างมั่นคงและเป็นระบบ. 

1. อุปกรณ์ครัวที่ควรลงทุนเป็นอันดับแรกคืออะไร?

ควรลงทุนใน อุปกรณ์ทำความร้อน (เตา, เตาอบ) และ อุปกรณ์ทำความเย็น (ตู้เย็น/ตู้แช่) ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานเชิงพาณิชย์เป็นอันดับแรก เพื่อให้มั่นใจในความสามารถในการปรุงและรักษาความสดของวัตถุดิบ.

2. การจัดวางอุปกรณ์ครัวในร้านอาหารมีหลักการอย่างไร?

ควรจัดวางตามหลักการทำงาน (workflow) ที่ต่อเนื่อง ตั้งแต่การรับวัตถุดิบ การเตรียม การปรุง ไปจนถึงการจัดเสิร์ฟ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและลดการชนกัน

การดูแลรักษาอุปกรณ์ครัวร้านอาหารทำอย่างไร?

การดูแลรักษาต้องทำอย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นที่การ ทำความสะอาดหลังการใช้งานทุกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณที่มีคราบน้ำมันหรือเศษอาหาร เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค

ควรมีการ บำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) เช่น การตรวจเช็คระบบแก๊สและไฟฟ้า การล้างคราบตะกรันในเครื่องล้างจาน และการสอบเทียบอุณหภูมิของตู้แช่ตามกำหนด.

ก้าวไปได้ไกลกว่าเดิม แค่อัพเกรดอุปกรณ์ครัวร้านอาหาร

ในโลกธุรกิจร้านอาหารที่การแข่งขันสูง การหยุดนิ่งเท่ากับถอยหลัง อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร เก่า ๆ อาจเป็นตัวฉุดรั้งให้รสชาติและเวลาในการเสิร์ฟไม่คงที่ ลองนึกภาพถึงเชฟที่ทำงานได้อย่างราบรื่น ออเดอร์ไหลลื่น และอาหารทุกจานออกจากครัวด้วยคุณภาพระดับมาสเตอร์เชฟ 

การเปลี่ยนไปใช้เครื่องมือและเครื่องจักรที่ทันสมัยและได้มาตรฐานจึงไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่าย แต่คือการลงทุนในอนาคตของร้าน คุณสามารถเลือกซื้อและอัปเกรด อุปกรณ์ครัวร้านอาหาร ระดับมืออาชีพได้อย่างครบวงจรจาก OFM (OfficeMate) เพื่อผลักดันให้ครัวของคุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

ดีลสุดพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่! 🔥

🛍️ ซื้อครบ 999.- ใส่โค้ด “NEW10” รับส่วนลด 10% (สูงสุด 1,000 บาท)

💥รับคะแนน The 1 X3 (1,000 บาท)

🎯 ยิ่งช้อป ยิ่งลด! อย่าพลาดดีลสุดคุ้มวันนี้!

📌 ช้อปเลย 👉  https://www.ofm.co.th

0 CommentsClose Comments

Leave a comment