การเลือกอุปกรณ์ Wearable ที่เหมาะสมเป็นมากกว่าการเลือกเครื่องประดับ แต่คือการลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยดูแลสุขภาพและเพิ่มความสะดวกในชีวิตประจำวัน ดังนั้นควรเลือกที่ตอบโจทย์กิจกรรมและไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด

Key Takeaways

  • อุปกรณ์ wearable ได้พัฒนาไปไกลกว่าการเป็นอุปกรณ์นับก้าว โดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยด้านสุขภาพส่วนตัวที่ซับซ้อน สามารถติดตามข้อมูลสำคัญ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ คุณภาพการนอนหลับ และแจ้งเตือนความผิดปกติของร่างกายได้
  • ในการเลือกซื้ออุปกรณ์ Wearable ที่เหมาะสม ควรเน้น 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ความแม่นยำของเซนเซอร์, อัลกอริทึมการวิเคราะห์เฉพาะบุคคล ที่สามารถเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้, ความสามารถในการเชื่อมต่อข้อมูล, คุณสมบัติการใช้งานจริง (เช่น แบตเตอรี่/กันน้ำ) และค่าใช้จ่ายบริการพรีเมียม
  • ความแตกต่างระหว่างนาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) กับสายรัดข้อมือฟิตเนส (Fitness Tracker) คือ Smartwatch เน้นฟังก์ชันที่หลากหลายและระบบปฏิบัติการที่รองรับแอปฯ ในขณะที่ Fitness Tracker เน้นการติดตามสุขภาพและน้ำหนักเบา
  • อุปกรณ์ Smart wearable ยอดนิยม ได้แก่ Samsung Galaxy Watch8 (มี BIA), OPPO Watch X2 (มี Dual OS, ECG) และหูฟังตัดเสียงรบกวน Sony WF-1000XM5 ซึ่งตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวัน 

Table of Contents

อุปกรณ์ wearable เป็นมากกว่าอุปกรณ์นับก้าว

ในปัจจุบัน อุปกรณ์ wearable ได้พัฒนาไปไกลกว่าการเป็นแค่อุปกรณ์นับก้าว โดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยด้านสุขภาพส่วนตัวที่ซับซ้อน สามารถติดตามข้อมูลสำคัญ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ คุณภาพการนอนหลับ และระดับความเครียด 

แก็ทเจ็ดเหล่านี้ยังสามารถช่วย แจ้งเตือนความผิดปกติ ของร่างกายได้ทันท่วงที ทำให้ผู้ใช้งานสามารถดูแลและจัดการสุขภาพเชิงรุกได้ดียิ่งขึ้น

ทริค 5 ข้อ สำหรับเลือกอุปกรณ์ wearable ที่ควรรู้  

การเลือกซื้อ อุปกรณ์ Wearable ควรพิจารณาอย่างรอบด้านเพื่อให้ได้เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และให้ข้อมูลสุขภาพที่น่าเชื่อถือที่สุด

1. ความแม่นยำของเซนเซอร์ 

ควรตรวจสอบคุณภาพของเซนเซอร์วัดค่าสำคัญ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ (HR) และระดับออกซิเจนในเลือด เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสุขภาพที่ได้รับนั้นมีความถูกต้องเที่ยงตรง ไม่ใช่แค่การประมาณค่า

2. อัลกอริทึมการวิเคราะห์เฉพาะบุคคล

เลือกอุปกรณ์ที่ใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก โดยสามารถเรียนรู้พฤติกรรมส่วนตัว (Baseline) ของผู้ใช้ เพื่อให้คำแนะนำและแจ้งเตือนความผิดปกติได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

3. ระบบนิเวศข้อมูลและการเชื่อมต่อ

พิจารณาความสามารถในการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสุขภาพอื่น ๆ (เช่น Apple Health, Google Fit) และอุปกรณ์อื่นที่คุณใช้อยู่ เพื่อให้การจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพเป็นไปอย่างครบวงจร

4. ปัจจัยด้านการใช้งานจริง

ตรวจสอบคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับกิจกรรมของคุณ เช่น การกันน้ำ กันฝุ่น อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ที่ยาวนาน และความสะดวกสบายในการสวมใส่ตลอดทั้งวันและขณะนอนหลับ

5. ค่าใช้จ่ายและโมเดลการสมัครสมาชิก

 นอกเหนือจากราคาอุปกรณ์แล้ว ให้คำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับบริการพรีเมียม (Subscription Model) หรือฟังก์ชันการวิเคราะห์เชิงลึกที่อาจต้องจ่ายรายเดือนหรือรายปี

ความแตกต่างระหว่างการวัดค่าทั่วไป กับ การวิเคราะห์ส่วนบุคคล จาก อุปกรณ์ wearable 

อุปกรณ์ Wearable ในปัจจุบันได้ก้าวข้ามจากการให้ข้อมูลเฉลี่ยไปสู่การวิเคราะห์เชิงลึก การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการวัดค่าทั่วไปและการวิเคราะห์ส่วนบุคคลจึงสำคัญยิ่งต่อการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล

หัวข้อการเปรียบเทียบการวัดค่าทั่วไป (General Metrics)การวิเคราะห์ส่วนบุคคล (Personalized Analysis)
วัตถุประสงค์หลักรายงานข้อมูลพื้นฐานและเฉลี่ยจากประชากรทั่วไปให้คำแนะนำเชิงรุกและการตีความผลที่สอดคล้องกับผู้ใช้
ข้อมูลที่ใช้ข้อมูลดิบ (Raw Data) เช่น จำนวนก้าว, ระยะทาง, อัตราการเต้นของหัวใจปัจจุบันข้อมูลดิบ + ข้อมูลบริบทส่วนตัว (อายุ, น้ำหนัก, ประวัติสุขภาพ, รูปแบบการนอนหลับย้อนหลัง)
ตัวอย่างผลลัพธ์วันนี้คุณเดินได้ 8,000 ก้าว หรือ อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักคือ 65 bpmอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักคุณสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 10% ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความเครียดหรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ
ความแม่นยำ/ประโยชน์แม่นยำในแง่ปริมาณ แต่มีข้อจำกัดในการตีความทางการแพทย์มีความแม่นยำในการตีความสูง และนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้จริง
การให้คำแนะนำคำแนะนำแบบมาตรฐาน (เช่น ดื่มน้ำให้มากขึ้น)คำแนะนำที่ปรับให้เข้ากับเป้าหมายสุขภาพและพฤติกรรมของผู้ใช้ (Adaptive Coaching)

4 อุปกรณ์ wearable สุดฮิตในปี 2026 

ถ้าจะเข้าวงการ wearable ทั้งที ก็ต้องเลือกชิ้นที่ตอบโจทย์ที่สุด OFM รวมมาให้แล้วกับ 4 สุดยอดอุปกรณ์ wearable สุดฮิตแห่งปี 2026

1.SAMSUNG สมาร์ทวอซ Galaxy Watch8 40mm สีดำ

SAMSUNG สมาร์ทวอซ Galaxy Watch8 40mm สีดำ

ถ้าหากถามว่า Smart wearable มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ?  Samsung Galaxy Watch8 40mm สีดำคือ Smart wearable ตัวฮิต ที่ให้คุณติดตามสุขภาพ ฟิตเนส และเชื่อมต่อได้ตลอดเวลา ตัวช่วยอัจฉริยะบนข้อมือที่ทำให้ชีวิตสะดวกและมีสไตล์

จุดเด่นสินค้า

  • ดีไซน์เพรียวบางและน้ำหนักเบา: สวมใส่สบายตลอดวันพร้อมหน้าจอที่ชัดเจน
  • การติดตามสุขภาพที่ครอบคลุม: วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ตรวจจับการนอนหลับ, และการวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย (BIA)
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: รองรับการใช้งานต่อเนื่องและชาร์จเร็ว
  • รองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส: เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายประจำวัน

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
ฟีเจอร์สุขภาพครบครัน: รวมถึงการวัด BIA ที่เป็นเอกลักษณ์ราคาค่อนข้างสูง: เมื่อเทียบกับนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ในระดับเดียวกัน
ระบบปฏิบัติการ Wear OS: เข้าถึงแอปพลิเคชัน Google และ Android ได้หลากหลายความเข้ากันได้ที่ดีที่สุดกับ Android/Samsung: การใช้งานฟังก์ชันบางอย่างอาจจำกัดเมื่อใช้กับ iOS
กันน้ำและทนทาน: สามารถใส่ว่ายน้ำและทนต่อกิจกรรมประจำวันได้การใช้งานแบตเตอรี่ในโหมด GPS: อาจหมดเร็วกว่าที่คาดไว้เมื่อใช้ติดตามกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน
การเชื่อมต่อและแจ้งเตือน: รับสาย, ตอบข้อความ, และดูการแจ้งเตือนได้ทันทีขนาด 40mm อาจเล็กเกินไป: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่

2.OPPO นาฬิกาอัจฉริยะ รุ่น Watch X2 46mm สีฟ้า

OPPO นาฬิกาอัจฉริยะ รุ่น Watch X2 46mm สีฟ้า

OPPO Watch X2 46mm สีฟ้า ตัวจบคำถาม Smart Wearable คือ อะไร อุปกรณ์อัจฉริยะที่มาพร้อมระบบ Dual OS และชิป Snapdragon W5 Gen 1 สำหรับการทำงานที่รวดเร็ว

ช่วยให้คุณติดตามสุขภาพ (ECG, วัดความแข็งหลอดเลือด) และกิจกรรมกีฬาอย่างแม่นยำ พร้อมดีไซน์ไทเทเนียมระดับพรีเมียมที่หรูหราและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 16 วัน

จุดเด่นสินค้า

  • ดีไซน์และวัสดุระดับพรีเมียม: ตัวเรือนไทเทเนียมอัลลอยด์และกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ ทนทานตามมาตรฐาน MIL-STD-810H
  • Dual Chipset และ Dual OS: ใช้ชิป Snapdragon W5 Gen 1 และ BES 2700 ทำงานบน Wear OS 5.0 และ RTOS เพื่อประสิทธิภาพสูงและการประหยัดพลังงาน
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: ใช้งานสูงสุด 5 วันในโหมดสมาร์ท และ 16 วันในโหมดประหยัดพลังงาน พร้อมรองรับชาร์จเร็ว
  • ฟีเจอร์สุขภาพครบครัน: รองรับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG), การตรวจวัดความแข็งของหลอดเลือดแดง, และฟังก์ชัน 60S Health Check-in

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
วัสดุพรีเมียม: ตัวเรือนไทเทเนียมและกระจกแซฟไฟร์ทำให้ทนทานและดูหรูหราขนาด 46mm: อาจมีขนาดใหญ่และหนักสำหรับผู้ใช้ที่มีข้อมือเล็ก
อายุแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยม: ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 16 วัน ด้วยสถาปัตยกรรม Dual OSความเข้ากันได้: ฟังก์ชันบางอย่างทำงานได้ดีที่สุดกับสมาร์ทโฟน Android/OPPO
การติดตามสุขภาพขั้นสูง: มีฟีเจอร์ ECG และการวัดความแข็งของหลอดเลือดแดงที่ไม่ค่อยพบในรุ่นอื่นราคาเริ่มต้นค่อนข้างสูง: เนื่องจากใช้วัสดุระดับไฮเอนด์และเทคโนโลยี Dual Chipset
GPS Dual-frequency (L1+L5): ให้ความแม่นยำสูงในการติดตามเส้นทางการออกกำลังกายกลางแจ้งซอฟต์แวร์ Dual OS: แม้จะมีข้อดีเรื่องแบตเตอรี่ แต่การสลับโหมดอาจทำให้เกิดความสับสนเล็กน้อยในการใช้งาน

3.SAMSUNG สมาร์ทวอซ Galaxy Watch8 40mm สีเงิน

SAMSUNG สมาร์ทวอซ Galaxy Watch8 40mm สีเงิน

Samsung Galaxy Watch8 40mm สีเงินมอบ Smart wearable ประโยชน์ ด้านสุขภาพที่ครบถ้วน, การวัดองค์ประกอบร่างกาย (BIA) ที่แม่นยำ, และการแจ้งเตือนที่ช่วยให้ชีวิตคุณเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพตลอดวัน เป็นอุปกรณ์คู่ใจที่ทำให้การดูแลตัวเองง่ายขึ้นบนข้อมือของคุณ

จุดเด่นสินค้า

  • ดีไซน์เพรียวบางและสีเงินหรูหรา: ขนาด 40 มม. สวมใส่สบายตลอดวันพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูมีสไตล์
  • การติดตามสุขภาพที่ครอบคลุม: วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ตรวจจับการนอนหลับ, และการวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย (BIA)
  • ระบบปฏิบัติการ Wear OS: เข้าถึงแอปพลิเคชันและบริการของ Google ที่หลากหลายได้จากข้อมือ
  • ฟังก์ชันการเชื่อมต่อและการชำระเงิน: รับสาย, ตอบข้อความ, และรองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (NFC)

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
ฟีเจอร์สุขภาพครบครัน: รวมถึงการวัด BIA ที่เป็นเอกลักษณ์ราคาค่อนข้างสูง: เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์ในระดับเดียวกัน
ระบบปฏิบัติการ Wear OS: เข้าถึงแอปพลิเคชัน Google และ Android ได้หลากหลายความเข้ากันได้ที่ดีที่สุดกับ Samsung/Android: การใช้งานฟังก์ชันบางอย่างอาจจำกัดเมื่อใช้กับ iOS
ดีไซน์เล็กและเบา (40mm): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนาฬิกาที่ไม่เทอะทะการใช้งานแบตเตอรี่: อาจไม่ยาวนานเท่าคู่แข่งบางรุ่นในโหมดสมาร์ทวอทช์เต็มรูปแบบ
กันน้ำและทนทาน: สามารถใส่ว่ายน้ำและทนต่อกิจกรรมประจำวันได้ขนาด 40mm อาจเล็กเกินไป: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่

4.หูฟังไร้สาย Wireless Noise Cancelling Headphones หูฟังตัดเสียงรบกวน Sony WF-1000XM5

หูฟังไร้สาย Wireless Noise Cancelling Headphones หูฟังตัดเสียงรบกวน Sony WF-1000XM5

Sony WF-1000X คือ อุปกรณ์ wearable แบบ Truly Wireless ระดับพรีเมียมที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Digital Noise Cancelling ทำให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่โดยปราศจากเสียงรบกวน พร้อมโหมด Smart Listening ที่ปรับเสียงรอบข้างตามกิจกรรมของคุณได้อย่างชาญฉลาด

จุดเด่นสินค้า

  • ระบบตัดเสียงรบกวน Digital Noise Cancelling: สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประสบการณ์การฟังเพลงที่ต่อเนื่อง
  • Smart Listening โดย Adaptive Sound Control: ปรับระดับเสียงและโหมด Ambient Sound ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม (เดินทาง, เดิน, ยืนรอ) โดยอัตโนมัติ
  • ดีไซน์แบบ Truly Wireless: อิสระในการเคลื่อนไหวอย่างแท้จริงโดยไม่มีสายเชื่อมต่อ และมีขนาดเล็กกระชับพอดีหู
  • คุณภาพเสียงที่ชัดเจนและสมดุล: ถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้ดี ให้เสียงกลางที่อิ่ม และมีเบสที่มีมวลกำลังดีตามแบบฉบับ Sony

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่ใช้งานได้ดี: โดดเด่นในการตัดเสียงรบกวนสำหรับการเดินทางและในชีวิตประจำวันอายุแบตเตอรี่ต่อการชาร์จ 1 ครั้งค่อนข้างสั้น: ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 3 ชม. เมื่อเปิด NC
มี Ambient Sound Mode/Smart Listening: ช่วยให้รับรู้เสียงรอบข้างได้โดยอัตโนมัติขาดฟีเจอร์รุ่นใหม่: ไม่มี DSEE HX หรือ Personal NC Optimizer (เทียบกับรุ่นที่ใหม่กว่า)
คุณภาพเสียงที่ดี: ให้เสียงที่สมดุล รายละเอียดชัดเจน และฟังได้หลากหลายแนวเพลงการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.1: อาจมีความเสถียรน้อยกว่ารุ่นใหม่ที่ใช้เวอร์ชันสูงกว่า
เคสชาร์จแบบพกพา: ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รวมได้สูงสุด 9 ชั่วโมงไม่มีระบบควบคุมระดับเสียงบนตัวหูฟัง: ต้องควบคุมผ่านโทรศัพท์เท่านั้น

5.GARMIN สมาร์ทวอทช์ รุ่น Forerunner 165 GPS ตัวเรือนสี Black/Slate Gray สายสี Black/Slate Gray ขนาด 43 มม.

GARMIN สมาร์ทวอทช์ รุ่น Forerunner 165 GPS ตัวเรือนสี Black/Slate Gray สายสี Black/Slate Gray ขนาด 43 มม.

Garmin Forerunner 165 GPS คือ อุปกรณ์ wearable สมาร์ทวอทช์สำหรับการวิ่ง ที่มาพร้อมหน้าจอ AMOLED คมชัด, GPS ในตัว, และอายุแบตเตอรี่ยาวนานสูงสุด 11 วัน เพื่อยกระดับการฝึกซ้อมของคุณ

จุดเด่นสินค้า

  • หน้าจอ AMOLED สดใส: มาพร้อมหน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว ที่ให้ภาพสว่างและคมชัดสูง
  • แบตเตอรี่ทนทาน: ใช้งานได้สูงสุดถึง 11 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์ และสูงสุด 19 ชั่วโมงในโหมด GPS
  • GPS และเมตริกการวิ่ง: มี GPS ในตัวที่แม่นยำสำหรับวัดเพซ ระยะทาง และความเร็ว พร้อมฟีเจอร์ Running Power และ Running Dynamics
  • ตัวช่วยฝึกซ้อมอัจฉริยะ: รับคำแนะนำการออกกำลังกายประจำวัน (Daily Suggested Workouts) และแผนการฝึกจาก Garmin Coach

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
หน้าจอ AMOLED สว่าง สดใส และอ่านง่าย แม้ในที่แสงจ้าไม่ใช่รุ่น Music จึงไม่สามารถเก็บเพลงไว้ในตัวนาฬิกาได้ (ต้องพกโทรศัพท์)
ราคาเข้าถึงง่าย เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟีเจอร์และหน้าจอ AMOLED ที่ได้รับขาดเมตริกการฝึกซ้อมเชิงลึก เช่น Training Status และ Training Readiness ที่มีในรุ่นราคาสูงกว่า
น้ำหนักเบา เพียง 39 กรัม สวมใส่สบายตลอดวันและขณะออกกำลังกายวัสดุตัวเรือน เป็นโพลิเมอร์เสริมใยแก้ว ซึ่งมีความทนทานน้อยกว่าไทเทเนียมหรือสแตนเลสในรุ่นพรีเมียม
ฟีเจอร์สุขภาพครบถ้วน เช่น Morning Report, Pulse Ox, และการติดตามคุณภาพการนอนหลับอาจมีค่าจัดส่งพิเศษ หรือใช้เวลาจัดส่งนานกว่าหากสินค้าไม่ได้ถูกจัดจำหน่ายโดย OfficeMate โดยตรง (อ้างอิงจากรายละเอียดในลิงก์)

6.นาฬิกาสมาร์ทวอช TicWatch Pro OLED 1.4นิ้ว สีเงิน

นาฬิกาสมาร์ทวอช TicWatch Pro OLED 1.4นิ้ว สีเงิน

TicWatch Pro คือ Wearable Technology ระดับพรีเมียมบนระบบปฏิบัติการ Wear OS by Google ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีหน้าจอสองชั้น (AMOLED + FSTN) เพื่อมอบอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานสูงสุด 30 วัน พร้อมฟังก์ชันสุขภาพและ GPS ในตัวอย่างครบถ้วน

จุดเด่นสินค้า

  • เทคโนโลยีหน้าจอสองชั้น (Dual Layer Display): ใช้หน้าจอ AMOLED สำหรับโหมด Smart (2-5 วัน) และหน้าจอ FSTN ที่ประหยัดพลังงานสำหรับโหมด Essential (สูงสุด 30 วัน) เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
  • ระบบปฏิบัติการ Wear OS: เข้าถึงแอปพลิเคชันหลากหลายบน Google Play Store, ใช้ Google Assistant และ Google Maps ได้อย่างสะดวก
  • ดีไซน์พรีเมียม: ตัวเรือนมาพร้อมขอบสแตนเลสสตีล (Stainless Steel Bezel) และสายนาฬิกาแบบไฮบริด (หนังและซิลิโคน) ที่ทนทานและสวยงาม
  • ฟีเจอร์ครบครัน: มี GPS ในตัวสำหรับการติดตามเส้นทาง, NFC สำหรับ Google Pay, และเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมมาตรฐานกันน้ำ IP67/IP68

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
แบตเตอรี่อึดมากเป็นพิเศษ ด้วยโหมด Essential ที่ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานถึง 30 วันตัวเครื่องค่อนข้างหนาและใหญ่ เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีข้อมือเล็ก
ระบบปฏิบัติการ Wear OS รองรับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก Play Store และใช้งานบริการของ Google ได้อย่างเต็มที่ชิปเซ็ตที่อาจล้าสมัย รุ่นดั้งเดิมใช้ชิป Snapdragon Wear 2100 ซึ่งอาจมีการตอบสนองที่ช้ากว่ารุ่นใหม่ๆ
มี NFC สามารถใช้ฟังก์ชันการจ่ายเงินแบบไร้สัมผัสผ่าน Google Pay ได้ทันทีอายุแบตเตอรี่ในโหมด Smart ค่อนข้างสั้น (ประมาณ 2 วัน) เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์ที่ไม่มีจอคู่
วัสดุตัวเรือนคุณภาพดี ใช้ขอบสแตนเลสสตีลทำให้ดูหรูหราและมีความทนทานต่อการใช้งานมาตรฐานกันน้ำ IP67 ในบางรุ่นเก่าอาจไม่เหมาะสำหรับการว่ายน้ำอย่างจริงจัง (แม้รุ่น 4G LTE จะรองรับ IP68)

7.GARMIN นาฬิกา รุ่น Fenix 8 43mm AMOLED WATCH-GM-000046 สีSapphire, Carbon Gray Titanium / Black-Pebble Gray Band

GARMIN นาฬิกา รุ่น Fenix 8 43mm AMOLED WATCH-GM-000046 สีSapphire, Carbon Gray Titanium / Black-Pebble Gray Band

Garmin Fenix 8 43mm AMOLED คือคำตอบของคำถามที่ว่า Wearable Device คือ อะไร ด้วยการเป็นสุดยอดสมาร์ทวอทช์มัลติสปอร์ตระดับพรีเมียม ที่ผสานความทนทานตามมาตรฐานกองทัพ เข้ากับหน้าจอ AMOLED สว่างสดใส และฟีเจอร์การฝึกซ้อมระดับสูง

จุดเด่นสินค้า

  • หน้าจอ AMOLED คุณภาพสูง: มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ที่สว่างและคมชัดเป็นพิเศษ ขนาด 1.3 นิ้ว (สำหรับรุ่น 43 มม.) พร้อมตัวเลือกเลนส์ Sapphire Crystal เพื่อความทนทานต่อรอยขีดข่วน
  • ความทนทานระดับทหาร: สร้างขึ้นเพื่อความทนทานสูงสุด ด้วยขอบตัวเรือนไทเทเนียมที่แข็งแกร่ง ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานกองทัพสหรัฐฯ และมีระดับการกันน้ำ 10 ATM
  • ระบบ GPS และแผนที่ขั้นสูง: มี GPS หลายย่านความถี่ (Multi-band GPS) ที่แม่นยำสูง และแผนที่ TopoActive พร้อมสำหรับการนำทางในทุกการผจญภัย
  • ฟีเจอร์ Smartwatch และความปลอดภัย: เพิ่มลำโพงและไมโครโฟนในตัวสำหรับการโทรและการสั่งการด้วยเสียง พร้อมไฟฉาย LED สว่างในตัวเพื่อความปลอดภัยในที่มืด

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
หน้าจอที่ยอดเยี่ยม (AMOLED) ให้สีสันสดใสและความคมชัดสูง มองเห็นได้ง่ายในทุกสภาพแสงราคาสูงมาก เป็นหนึ่งในสมาร์ทวอทช์ที่ราคาสูงที่สุดในตลาด Garmin
ครบเครื่องเรื่องผจญภัย มีฟีเจอร์การฝึกซ้อมและการติดตามกีฬากลางแจ้งที่ละเอียดและครอบคลุมที่สุดอายุแบตเตอรี่ลดลง เมื่อเทียบกับรุ่น Fenix ที่ใช้จอ MIP (Memory-in-Pixel) (แม้จะยังยาวนานเมื่อเทียบกับคู่แข่งจอ AMOLED)
วัสดุพรีเมียมและทนทาน ตัวเรือนไทเทเนียมและเลนส์แซฟไฟร์มอบความหรูหราและความแข็งแกร่งทนทานฟังก์ชัน Smartwatch จำกัด ฟังก์ชันการตอบกลับข้อความหรือแอปเสริมยังคงจำกัดกว่าระบบ Wear OS หรือ Apple Watch
มีลำโพงและไมโครโฟนในตัว ช่วยให้สามารถรับ/โทรออก และใช้คำสั่งเสียงได้โดยตรงจากนาฬิการุ่น 43mm AMOLED บางรุ่นไม่มี Solar Charging ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นที่ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ในรุ่นอื่นๆ

8.GARMIN นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ รุ่น Lily 2 สี Metallic Lilac ขนาด 35 mm.

GARMIN นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ รุ่น Lily 2 สี Metallic Lilac ขนาด 35 mm.

Garmin Lily 2 สมาร์ทวอทช์ดีไซน์หรู ขนาดกะทัดรัด 35 มม. โดดเด่นด้วยหน้าจอสัมผัสลวดลายสวยงามและตัวเรือนอะลูมิเนียมที่ทนทาน

มาพร้อมคุณสมบัติการติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายที่ครบครัน เพื่อช่วยให้คุณดูดีและใช้ชีวิตได้อย่างมีสมดุล มีน้ำหนักเบาเพียง 24.4 กรัม พร้อมสายซิลิโคนแบบถอดง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนาฬิกาแฟชั่นที่มีฟังก์ชันอัจฉริยะ

จุดเด่นสินค้า

  • ดีไซน์หรูหราและขนาดเล็ก: โดดเด่นด้วยหน้าจอสัมผัสซ่อนลายบนหน้าปัด และตัวเรือนขนาด 35 มม. ที่ออกแบบมาเพื่อข้อมือผู้หญิงโดยเฉพาะ
  • วัสดุคุณภาพสูง: ใช้เลนส์ Corning® Gorilla® Glass 3 ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน และตัวเรือนอะลูมิเนียม Anodized ที่แข็งแรง แต่น้ำหนักเบา
  • ฟีเจอร์สุขภาพครบครัน: ครอบคลุมการติดตามกิจกรรมออกกำลังกายและสุขภาพที่จำเป็น เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ และการติดตามการนอนหลับ
  • น้ำหนักเบาและสวมใส่สบาย: ตัวเรือนมีน้ำหนักเพียง 24.4 กรัม ทำให้สวมใส่ได้สบายตลอดวัน และมีสายนาฬิกาแบบถอดง่ายเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. ดีไซน์สวยงามและขนาดกะทัดรัด (35 มม.) ทำให้ดูเหมือนเครื่องประดับมากกว่าสมาร์ทวอทช์1. หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Grayscale (16 ระดับ) ไม่ใช่หน้าจอสีเต็มรูปแบบ
2. เลนส์ Corning® Gorilla® Glass 3 และตัวเรือนอะลูมิเนียมช่วยเพิ่มความทนทาน2. ใช้ที่ชาร์จแบบคลิปที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Garmin ซึ่งต้องพกพาอุปกรณ์เฉพาะในการชาร์จ
3. มีฟังก์ชันการติดตามสุขภาพและกิจกรรมที่จำเป็นครบถ้วนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป3. (อนุมานจากรุ่น) โดยทั่วไปจะใช้ GPS จากโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อ ไม่ได้มี GPS ในตัวสำหรับติดตามกิจกรรมกลางแจ้ง
4. น้ำหนักเบามาก (24.4 กรัม) ทำให้สวมใส่สบาย ไม่รู้สึกเป็นภาระต่อข้อมือ4. หน้าจอขนาดเล็ก (25.4 x 21.3 มม.) อาจแสดงรายละเอียดข้อมูลได้จำกัดเมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์ขนาดใหญ่

9.SAMSUNG สมาร์ทวอทช์ รุ่น GALAXY WATCH7 (BLUETOOTH) สี GREEN ขนาด 40MM

SAMSUNG สมาร์ทวอทช์ รุ่น GALAXY WATCH7 (BLUETOOTH) สี GREEN ขนาด 40MM

Samsung Galaxy Watch7 คือสมาร์ทวอทช์ขนาด 40 มม. ดีไซน์บางเบา มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED คมชัด และหน่วยประมวลผลที่ทรงพลังที่สุด

โดดเด่นด้วยการนำ Galaxy AI มาใช้ในการให้ข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพที่แม่นยำและการโค้ชการนอนหลับเฉพาะบุคคล รองรับ GPS ในตัว ระบบปฏิบัติการ Wear OS และกันน้ำ 5 ATM เป็นนาฬิกาที่ครบครันสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและการเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่น

จุดเด่นสินค้า

  • Galaxy AI ด้านสุขภาพ: ใช้เทคโนโลยี Galaxy AI มอบข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพและการแนะนำการนอนหลับตามความต้องการเฉพาะบุคคล
  • ประสิทธิภาพสูง: มาพร้อมหน่วยประมวลผล Penta-Core ที่ทรงพลังที่สุด ให้ความเร็วในการทำงานที่สูงและรองรับการใช้งานหลายแอปได้อย่างราบรื่น
  • หน้าจอคุณภาพสูง: หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว ให้ภาพที่มีความคมชัดสูง สีสันสดใส และรองรับการแสดงผล 16 ล้านสี
  • ระบบนำทางในตัว: รองรับระบบ GPS, Glonass, Beidou, และ Galileo ช่วยในการค้นหาเส้นทางและติดตามตำแหน่งได้อย่างแม่นยำแม้ขณะออกกำลังกาย

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. ใช้ Galaxy AI ยกระดับการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพให้แม่นยำและเป็นส่วนตัวมากขึ้น1. ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 40 ชั่วโมง (เมื่อปิด AOD) อาจต้องชาร์จบ่อยกว่าสมาร์ทวอทช์บางรุ่น
2. หน่วยประมวลผล Penta-Core และ Wear OS ทำให้การใช้งานแอปพลิเคชันและการสลับฟังก์ชันรวดเร็ว2. (โดยทั่วไป) ฟีเจอร์สมาร์ทวอทช์ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy
3. มี GPS ในตัว ทำให้สามารถบันทึกและติดตามกิจกรรมกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องพึ่งโทรศัพท์3. ไม่เหมาะสำหรับการดำน้ำลึกหรือกิจกรรมทางน้ำที่มีแรงดันสูง (กันน้ำระดับ 5 ATM สำหรับการว่ายน้ำตื้น)
4. พื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในขนาดใหญ่ (32GB) เพียงพอสำหรับเก็บเพลง รูปภาพ และแอปพลิเคชันเสริม4. (อนุมานจากข้อมูลทั่วไป) ตัวเลือกสี/ขนาด 40mm อาจมีราคาสูงเมื่อเทียบกับฟีเจอร์พื้นฐานของคู่แข่งในตลาด

10.XIAOMI YOUPIN สมาร์ทวอทช์ REDMI WATCH 5 ACTIVE

XIAOMI YOUPIN สมาร์ทวอทช์ REDMI WATCH 5 ACTIVE

Xiaomi Youpin Redmi Watch 5 Active เป็นสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดที่มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 2 นิ้วที่สว่างคมชัด โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 18 วัน

รองรับการโทรผ่าน Bluetooth และโหมดกีฬามากกว่า 140 รูปแบบ ตัวเครื่องมีการตรวจวัดสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง และกันน้ำ/กันฝุ่นในระดับ IPX8 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟังก์ชันครบครันในราคาที่คุ้มค่า

จุดเด่นสินค้า

  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน: แบตเตอรี่ความจุ 470mAh ใช้งานได้นานถึง 18 วันสำหรับการใช้งานทั่วไป และ 12 วันสำหรับการใช้งานหนัก
  • รองรับการโทรผ่าน Bluetooth: มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว พร้อมระบบ 3-Mic ENC ช่วยให้สามารถรับและโทรออกได้โดยตรงจากนาฬิกา
  • หน้าจอขนาดใหญ่และสว่าง: หน้าจอ LCD ขนาด 2 นิ้ว ความละเอียด 320×385 พิกเซล และความสว่างสูงสุด 500 นิต ทำให้มองเห็นได้ชัดเจน
  • โหมดกีฬาและสุขภาพครบครัน: รองรับโหมดกีฬามากกว่า 140 แบบ และมีการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ออกซิเจนในเลือด (SpO2), การนอนหลับ และความเครียดตลอด 24 ชั่วโมง

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
1. แบตเตอรี่อึดมาก ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 18 วัน ไม่ต้องชาร์จบ่อย1. หน้าจอเป็นชนิด LCD (เทียบกับ AMOLED ในรุ่นราคาแพงกว่า) ซึ่งสีและความดำอาจไม่คมชัดเท่า
2. ราคาเข้าถึงง่ายและคุ้มค่ามาก เมื่อเทียบกับฟังก์ชันที่ได้รับ (เช่น การโทร, โหมดกีฬา 140+)2. (อนุมานจากข้อมูล) ไม่ได้ระบุว่ามี GPS ในตัว อาจต้องพึ่ง GPS จากโทรศัพท์มือถือในการติดตามเส้นทาง
3. มีฟังก์ชันการโทรผ่าน Bluetooth และมีลำโพง/ไมโครโฟนในตัว3. กันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX8 ซึ่งเป็นการป้องกันน้ำและฝุ่นที่ดี แต่ไม่ใช่ 5 ATM เหมือนสมาร์ทวอทช์สำหรับว่ายน้ำโดยเฉพาะ
4. รองรับการใช้งานร่วมกับทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS4. (อนุมาน) ระบบปฏิบัติการไม่รองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันเสริมจากบุคคลที่สามที่หลากหลายเหมือน Wear OS

FAQ คำถามที่เจอบ่อยก่อนซื้อ อุปกรณ์ wearable 

นอกจากคำถาม Wearable แปลว่า อะไร , Wearable Device คืออะไร แล้ว ก่อนซื้ออุปกรณ์ wearable สักชิ้น เราควรตอบคำถาม 3 ข้อนี้ให้ได้ก่อน 

1. สมาร์ทวอทช์กับสายรัดข้อมือฟิตเนสต่างกันอย่างไร?

สมาร์ทวอทช์ (Smartwatch) เน้นฟังก์ชันที่หลากหลายและมีดีไซน์คล้ายนาฬิกาทั่วไป พร้อมระบบปฏิบัติการที่รองรับแอปพลิเคชันและการเชื่อมต่อขั้นสูง ในขณะที่สายรัดข้อมือฟิตเนส (Fitness Tracker) จะมีขนาดเล็กกว่า น้ำหนักเบากว่า และเน้นฟังก์ชันหลักด้านการติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นหลัก

2. อุปกรณ์ wearable ปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนตัวหรือไม่?

โดยพื้นฐานแล้วบริษัทเทคโนโลยีส่วนใหญ่มีการลงทุนเพื่อสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสุขภาพ แต่ความปลอดภัยของ อุปกรณ์ wearable จะขึ้นอยู่กับนโยบายความเป็นส่วนตัวของแบรนด์และการตั้งค่าของผู้ใช้ หากผู้ใช้ไม่ระมัดระวังในการแบ่งปันข้อมูลก็อาจมีความเสี่ยงได้

3. อุปกรณ์ wearable มีประเภทอะไรบ้าง?

Wearable Technology คือ เทคโนโลยีที่สามารถสวมใส่บนร่างกายได้ โดยหลักๆ มีหลายประเภท เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatches), สายรัดข้อมือ (Wristbands), หูฟังอัจฉริยะ (Earwear), แว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses), และเสื้อผ้าอัจฉริยะ (Smart Clothing) เป็นต้น

รู้จักสุขภาพตัวเองให้มากขึ้นกับอุปกรณ์ wearable 

เทคโนโลยี Wearable คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณเข้าใจร่างกายตนเองได้ในระดับที่ละเอียดขึ้น อุปกรณ์เหล่านี้ (เช่น สมาร์ทวอทช์และสายรัดข้อมือ) ทำหน้าที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, คุณภาพการนอนหลับ, ระดับความเครียด, และปริมาณกิจกรรมในแต่ละวัน

ข้อมูลที่ถูกบันทึกอย่างต่อเนื่องนี้จะช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือแม้แต่การจัดการตารางพักผ่อน OFM มีอุปกรณ์ Wearable และไอที & แก็ทเจ็ดคุณภาพหลากหลายรุ่นให้เลือก เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นดูแลสุขภาพของตัวเองและทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ดีลสุดพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่! 🔥

🛍️ ซื้อครบ 999.- ใส่โค้ด “NEW10” รับส่วนลด 10% (สูงสุด 1,000 บาท)

💥รับคะแนน The 1 X3 (1,000 บาท)

🎯 ยิ่งช้อป ยิ่งลด! อย่าพลาดดีลสุดคุ้มวันนี้!

📌 ช้อปเลย 👉  https://www.ofm.co.th

0 CommentsClose Comments

Leave a comment