Site icon OFM Blog

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นตัวจบงานดูดฝุ่นตัวจริง

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี

hich-vacuum-robot-brand-is-best

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นในท้องตลาดปัจจจุบันมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวดังจากยุโรป แบรนด์สุดฮิตจากจีน หรือแม้แต่แบรนด์จากประเทศไทย มาดูกันว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดีที่เป็นตัวจบงานดูดฝุ่นที่บ้านให้คุณ

Key Takeaways

Table of Contents

Toggle

สุดยอด 10 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ที่ควรซื้อติดบ้าน

ไม่ต้องเปรียบเทียบให้วุ่นวาย OFM สรุปมาให้แล้วกับ 10 สุดยอด หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ที่ควรสอยไปไว้ที่บ้าน เพราะคุ้มทั้งราคาและประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าครบสุดๆ 

1.หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ เสียวหมี่ E10 EU สีขาว

กำลังตัดสินใจอยู่ใช่ไหมว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ที่คุ้มค่าและช่วยประหยัดเวลาทำความสะอาด? ขอแนะนำ Xiaomi Smart Robot Vacuum E10 EU ที่มาพร้อมแรงดูดทรงพลัง 4000 Pa และฟังก์ชันดูดและถู 2-in-1

ใช้งานง่ายด้วยระบบนำทาง Gyroscope ที่ช่วยให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง พร้อมแบตเตอรี่ที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดกลางได้สบาย ให้บ้านคุณสะอาดหมดจดได้โดยที่คุณไม่ต้องเหนื่อย

จุดเด่นสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
แรงดูดสูง ถึง 4000 Pa เหมาะกับการทำความสะอาดเชิงลึกถังเก็บขนาดเล็ก (ฝุ่น 400 มล./น้ำ 200 มล.) อาจต้องเททิ้ง/เติมน้ำบ่อยครั้ง
ฟังก์ชันครบ ดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในตัวแบตเตอรี่ (2600 mAh) อาจไม่เพียงพอสำหรับบ้านที่มีขนาดใหญ่มาก
ราคาเข้าถึงง่าย เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นพรีเมียมระบบนำทาง Gyroscope อาจมีความแม่นยำน้อยกว่าระบบ LDS/LiDAR ในการสร้างแผนที่
ปีนสิ่งกีดขวางได้ สูงสุด 15 มม. ช่วยให้ทำงานได้ราบรื่นขาดฟังก์ชันขั้นสูง เช่น ระบบจดจำและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางแบบ AI

2.XIAOMI หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ รุ่น 5 แรงดูด 20000Pa ระบบนำทางเลเซอร์ Dual Mopping ความจุแบตเตอรี่ 5200mAh

หมดปัญหาเรื่องการเปรียบเทียบว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี? ให้ โรบอทดูดฝุ่น Xiaomi รุ่น 5 เป็นผู้ช่วยมือโปร ด้วยพลังดูดมหาศาลถึง 20000 Pa! มาพร้อมระบบนำทางเลเซอร์ (LDS) ที่แม่นยำ และฟังก์ชัน Dual Moppin สุดล้ำ ให้การทำความสะอาดทั้งดูดและถูนั้นลึกถึงใจ

จุดเด่นสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
การนำทางแม่นยำ ระบบเลเซอร์ (LDS) สร้างแผนที่ได้ละเอียดและทำงานเป็นระเบียบราคาสูง เป็นรุ่นที่มีเทคโนโลยีนำทางและการถูขั้นสูง ทำให้มีราคาสูงกว่ารุ่นเริ่มต้น
พลังทำความสะอาดสูง ทั้งแรงดูดที่ระบุว่า 20000 Pa และระบบถูแบบ Dual Moppinความสูงตัวเครื่อง รุ่นที่มีเซนเซอร์ LDS (ป้อมนูนด้านบน) อาจเข้าใต้เฟอร์นิเจอร์เตี้ย ๆ ได้ยาก
จัดการพื้นที่ได้หลากหลาย รองรับฟังก์ชันการตั้งค่าแผนที่ขั้นสูง เช่น Virtual Walls และ No-Go Zonesการดูแลรักษา ระบบถูพื้นแบบพิเศษอาจต้องมีการดูแลรักษาผ้าถูหรือชิ้นส่วนที่ซับซ้อนกว่ารุ่นทั่วไป
เหมาะสำหรับบ้านขนาดใหญ่ สามารถทำความสะอาดและจดจำแผนที่พื้นที่กว้างได้เป็นอย่างดีค่าแรงดูดสูงผิดปกติ (20000 Pa) อาจเป็นค่าทางทฤษฎี ผลลัพธ์จริงอาจแตกต่างไปจากความคาดหวัง

3.IROBOT หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและถูพื้น รุ่น Roomba Combo i5

ไม่ต้องลังเลอีกต่อไปว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี! ให้ โรบอทดูดฝุ่น iRobot Roomba Combo i5 หุ่นยนต์ 2-in-1 ที่ดูดฝุ่นและถูพื้นได้ เพียงแค่สลับถังเก็บฝุ่นกับถังเก็บน้ำ ก็เปลี่ยนโหมดการทำความสะอาดได้ทันทีขับเคลื่อนด้วย iRobot OS และระบบนำทาง iAdapt 2.0 ที่ชาญฉลาด ทำงานได้อย่างเป็นระเบียบ และกลับไปชาร์จเพื่อทำงานต่อได้อัตโนมัติ

จุดเด่นสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญ iRobot มีความน่าเชื่อถือสูงในด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ดูดฝุ่นต้องเปลี่ยนถังเอง ไม่สามารถดูดและถูพื้นพร้อมกันได้ ต้องสลับถังเมื่อต้องการเปลี่ยนโหมด
ประสิทธิภาพการเก็บขนสัตว์ แปรงยางคู่เป็นเลิศในการเก็บเส้นผมและขนสัตว์โดยไม่พันกับแปรงราคาสูง จัดอยู่ในกลุ่มหุ่นยนต์ราคาสูงเมื่อเทียบกับรุ่นที่มีฟังก์ชันคล้ายกันในตลาด
การทำงานที่เป็นระบบ ระบบนำทาง iAdapt 2.0 ช่วยให้เดินทำความสะอาดอย่างมีระเบียบและครอบคลุมความแม่นยำแผนที่ ระบบนำทางที่ใช้กล้อง/เซนเซอร์ อาจสร้างแผนที่ได้ไม่ละเอียดเท่าระบบ LiDAR ในรุ่นคู่แข่ง
ทำงานต่อเนื่อง ฟังก์ชัน Recharge & Resume ทำให้สามารถทำความสะอาดพื้นที่ขนาดใหญ่ได้เสร็จสมบูรณ์ระยะเวลาทำงานจำกัด ทำงานต่อเนื่องสูงสุดประมาณ 75 นาที ซึ่งอาจต้องมีการชาร์จซ้ำสำหรับพื้นที่ที่ใหญ่มาก

4.IROBOT หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและถูพื้น รุ่น Roomba Plus 405 Combo พร้อมแท่นชาร์จ AutoWash

หมดกังวลเรื่องการทำความสะอาดด้วย หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba Plus 405 Combo นี่คือหุ่นยนต์แบบ 2-in-1 ที่รวมการดูดฝุ่นและถูพื้นไว้ด้วยกัน และมาพร้อมแท่น Clean Base® ที่สามารถเทฝุ่นออกจากตัวเครื่องได้เองโดยอัตโนมัติแท่น AutoWash ยังช่วยดูแลความสะอาดของอุปกรณ์ถูพื้นอีกด้วย 

จุดเด่นสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
ความเป็นอัตโนมัติสูงสุด แท่นชาร์จดูแลทั้งการเทฝุ่นและการจัดการระบบถูพื้น ลดการดูแลของมนุษย์ได้มากราคาสูง เป็นรุ่นพรีเมียมที่มีเทคโนโลยีครบวงจร ทำให้มีราคาสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นทั่วไป
ลดการสัมผัสสิ่งสกปรก ไม่ต้องเทฝุ่นบ่อย (นานถึง 60 วัน) และลดการสัมผัสผ้าถูที่เปียกหรือสกปรกต้องซื้อถุงเก็บฝุ่นเพิ่ม มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องสำหรับถุงเก็บฝุ่นที่ใช้กับแท่น Clean Base
การจัดการแผนที่เป็นเลิศ ระบบ iRobot OS ช่วยให้การสร้างแผนที่และการตั้งค่าทำความสะอาดโซนต่าง ๆ มีประสิทธิภาพสูงขนาดใหญ่ แท่นชาร์จที่มีฟังก์ชันครบวงจรมักมีขนาดใหญ่ และอาจต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้ง
ทำความสะอาดแบบ 2-in-1 ได้ทั้งดูดและถูในอุปกรณ์เดียว แม้จะต้องสลับถังก็ตามยังต้องสลับถังด้วยมือ (Inferred) การเปลี่ยนโหมดจากดูดเป็นถูยังต้องทำการเปลี่ยนถังเก็บเอง

5.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ขัดถูพื้นซักผ้าถูเองได้ ดรีมม D10 Plus สีขาว

หมดปัญหางานบ้านซ้ำซากด้วย เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติ Dreame D10 Plus หุ่นยนต์รุ่นนี้ใช้ระบบนำทางด้วยเลเซอร์ LiDAR ที่แม่นยำ และมีแรงดูดทรงพลัง 4000 Pa เพื่อการดูดฝุ่นและถูพื้นอย่างสะอาดและเป็นระบบมาพร้อมแท่นเก็บฝุ่นอัจฉริยะ ให้คุณลืมการเทฝุ่นไปได้นานถึง 45 วัน

จุดเด่นสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
สะดวกสบายสูงสุด มีแท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ ช่วยลดภาระในการบำรุงรักษาของผู้ใช้ได้มากค่าใช้จ่ายอุปกรณ์สิ้นเปลือง ต้องซื้อถุงเก็บฝุ่นสำหรับแท่นชาร์จมาเปลี่ยนเป็นระยะ
การนำทางประสิทธิภาพสูง เทคโนโลยี LiDAR ช่วยให้หุ่นยนต์สร้างแผนที่และวางแผนทำความสะอาดได้รวดเร็วการถูพื้นแบบธรรมดา ระบบถูพื้นเป็นแบบแผ่นถูลากพื้น ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการขจัดคราบฝังแน่น
แรงดูดที่ทรงพลัง แรงดูด 4000 Pa สูงกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วไปในระดับราคาใกล้เคียงแท่นชาร์จขนาดใหญ่ แท่นชาร์จอัตโนมัติมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ต้องใช้พื้นที่ในการจัดวาง
เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ระบบดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพและการทำงานอัตโนมัติเหมาะกับบ้านที่มีขนสัตว์มากการบำรุงรักษาถังน้ำ (แม้จะเทฝุ่นเอง) แต่ถังน้ำสำหรับถูพื้นยังต้องเติมและทำความสะอาดด้วยมือ

6.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น AUTOBOT Mini Lite กวาด ดูด ถู ในเครื่องเดียว รับประกัน 1 ปี

หากคุณกำลังตัดสินใจอยู่ว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี สำหรับคอนโดหรือห้องขนาดเล็ก Autobot Mini Lite คือตัวเลือกที่ “จิ๋วแต่แจ๋ว” และคุ้มค่าที่สุด!รองรับฟังก์ชัน 3-in-1 (กวาด-ดูด-ถู) ในเครื่องเดียว ด้วยขนาดกะทัดรัดเพียง 7.6 ซม. ที่สามารถเข้าถึงใต้เฟอร์นิเจอร์ได้อย่างง่ายดาย

จุดเด่นสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
ราคาต่ำที่สุด เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีราคาถูกที่สุด ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายการนำทางแบบสุ่ม ใช้ระบบ Motion Patterns (Random) ในการทำความสะอาด ทำให้ไม่เป็นระบบและอาจเดินซ้ำซ้อน
รูปทรงเพรียวบาง ขนาดเล็กกะทัดรัดเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์เตี้ยแบตเตอรี่/ถังฝุ่นเล็ก ความจุถังเก็บฝุ่น 200 ml และแบตเตอรี่ 800 mAh มีขนาดเล็ก ต้องทิ้งฝุ่นและชาร์จบ่อย
อะไหล่ราคาไม่แพง ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและเปลี่ยนอะไหล่ต่าง ๆ ค่อนข้างต่ำขาดฟีเจอร์อัจฉริยะ ไม่รองรับการสร้างแผนที่, เขตห้ามเข้า, หรือควบคุมผ่านแอปพลิเคชันขั้นสูง
เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก ทำความสะอาดคอนโดหรือห้องขนาด 30 ตร.ม. ได้อย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิภาพการดูดฝุ่น แรงดูดไม่สูงเท่ารุ่นราคาสูง จึงอาจไม่เหมาะกับพรมหรือฝุ่นปริมาณมาก

7.ASAKI หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ รุ่น HMEL-VAC-003-PK สีชมพู

หากคุณต้องการ โรบอทดูดฝุ่น ราคาประหยัดและเน้นความคุ้มค่า Asaki หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ รุ่น Hmel-VAC-003-PK คือทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้เริ่มต้นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่นนี้มาพร้อมฟังก์ชันดูดฝุ่นและถูพื้นแบบแห้ง ดีไซน์บางเฉียบเพียง 7 ซม. และมีน้ำหนักเบามากเพียง 560 กรัม

จุดเด่นสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
ราคาประหยัดที่สุด เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้มีงบประมาณจำกัด หรือใช้ในพื้นที่เล็ก ๆพลังดูดต่ำ มีพลังดูดเพียง 800 PA ซึ่งไม่เหมาะกับการดูดฝุ่นในพรม หรือเศษขยะชิ้นใหญ่
เสียงเงียบ ด้วยพลังดูดที่ไม่สูงมาก ทำให้หุ่นยนต์มีเสียงรบกวนในการทำงานต่ำมาก (55 dB)ระบบนำทางแบบสุ่ม ใช้การเคลื่อนที่แบบสุ่ม (Random) ทำให้การทำความสะอาดไม่เป็นระบบและไม่ทั่วถึงเท่ารุ่น Mapping
เบาและกะทัดรัด เหมาะสำหรับการทำความสะอาดห้องขนาดเล็ก และสะดวกต่อการยก/เคลื่อนย้ายขาดฟีเจอร์อัจฉริยะ ไม่มี Wi-Fi, ไม่มีแอปฯ, ไม่มีการสร้างแผนที่ หรือตั้งเวลาทำงานอัตโนมัติ
ถังเก็บขยะขนาดใหญ่ แม้ตัวเครื่องเล็ก แต่มีกล่องเก็บขยะขนาด 460 มล. ซึ่งถือว่าใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดเครื่องรองรับการถูแบบแห้งเท่านั้น ไม่สามารถถูพื้นเปียก หรือมีถังเก็บน้ำสำหรับการถูเปียกได้

8.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ขัดถูพื้นซักผ้าถูเองได้ ดรีมม L10 Pro สีขาว

Dreame L10 Pro คือ เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ ระดับพรีเมียม ที่สร้างมาเพื่อบ้านขนาดใหญ่ ด้วยพลังดูดสูงสุด 4000 Pa และระบบนำทางด้วยเลเซอร์ LiDAR นอกจากนั้นยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง 3D ที่ชาญฉลาด ทำให้ไม่ชนสิ่งของเล็ก ๆ และทำความสะอาดได้ต่อเนื่อง

จุดเด่นสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
แรงดูดสูงมาก แรงดูด 4000 Pa ทำให้จัดการฝุ่นและขนสัตว์บนพรมได้อย่างมีประสิทธิภาพราคาสูง เป็นหุ่นยนต์ระดับพรีเมียมที่มีราคาสูงกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วไป
ฉลาดในการนำทาง เทคโนโลยี LiDAR และ 3D Obstacle Detection ทำให้เดินได้รวดเร็วและไม่ติดขัดการถูพื้นเป็นแบบธรรมดา (Inferred) การถูยังเป็นการลากแผ่นม็อบแบบทั่วไป อาจไม่เหมาะกับการขจัดคราบฝังแน่น
เหมาะกับบ้านขนาดใหญ่ สามารถทำงานต่อเนื่องและจัดการแผนที่บ้านหลายชั้นได้เป็นอย่างดีไม่มีระบบเทฝุ่นอัตโนมัติ (Inferred) รุ่น L10 Pro ส่วนใหญ่ไม่มีแท่นชาร์จแบบ Auto-Empty ผู้ใช้ยังต้องเทฝุ่นเอง
ฟังก์ชันซักผ้าถูเอง (ตามที่ร้านค้าอ้าง) หากมีฟังก์ชันนี้จริง จะช่วยลดภาระในการดูแลผ้าม็อบหลังการใช้งานได้มากความสูงตัวเครื่อง ตัวเครื่องค่อนข้างสูงกว่ารุ่นบางพิเศษ เนื่องจากมีระบบเซนเซอร์ LiDAR อยู่ด้านบน

9.ASAKI หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ รุ่น AK-RV9100 สีดำ

หากกำลังพิจารณาว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี สำหรับการเริ่มต้นในราคาที่สบายกระเป๋า Asaki AK-RV9100 คือคำตอบสำหรับคุณ! เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ ราคาประหยัดรุ่นนี้รองรับฟังก์ชัน 3-in-1 (กวาด, ดูดฝุ่น, ถูแห้ง) พร้อมดีไซน์บางเฉียบ 7 ซม. ที่สามารถเข้าใต้เฟอร์นิเจอร์ได้

จุดเด่นสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
ราคาถูกมาก (Sub-1000 Baht) เป็นหนึ่งในหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ราคาคุ้มค่าที่สุดพลังดูดต่ำ แรงดูด 800 PA เหมาะกับการเก็บฝุ่นเบา ๆ เท่านั้น ไม่เหมาะกับพรมหรือเศษขยะชิ้นใหญ่
ใช้งานได้ต่อเนื่อง แบตเตอรี่ขนาด 1800 mAh รองรับการทำงานได้นานถึง 90 นาทีต่อการชาร์จระบบนำทางแบบสุ่ม ใช้การเคลื่อนที่แบบ Random Motion ซึ่งทำให้การทำความสะอาดไม่เป็นระบบและไม่ทั่วถึงเท่ารุ่น Mapping
เสียงเงียบ ความดังเพียง 55 dB ทำให้ไม่รบกวนการทำงานหรือพักผ่อนในบ้านขาดฟีเจอร์อัจฉริยะ ไม่มีการเชื่อมต่อ Wi-Fi, ควบคุมผ่านแอปฯ, การสร้างแผนที่, หรือการชาร์จไฟกลับแท่นชาร์จเอง
ถังเก็บขยะขนาดใหญ่ (460 มล.) ขนาดถังเก็บฝุ่นค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับตัวเครื่องการถูพื้นแบบแห้งเท่านั้น ไม่มีการควบคุมระดับน้ำหรือถังเก็บน้ำสำหรับการถูเปียก

10.หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ เสียวหมี่ E10 EU สีขาว

กำลังตัดสินใจอยู่ใช่ไหมว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ที่คุ้มค่าและช่วยประหยัดเวลาทำความสะอาด? ขอแนะนำ Xiaomi Smart Robot Vacuum E10 EU ที่มาพร้อมแรงดูดทรงพลัง 4000 Pa และฟังก์ชันดูดและถู 2-in-1

ใช้งานง่ายด้วยระบบนำทาง Gyroscope ที่ช่วยให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง พร้อมแบตเตอรี่ที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดกลางได้สบาย ให้บ้านคุณสะอาดหมดจดได้โดยที่คุณไม่ต้องเหนื่อย

จุดเด่นสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
แรงดูดสูง ถึง 4000 Pa เหมาะกับการทำความสะอาดเชิงลึกถังเก็บขนาดเล็ก (ฝุ่น 400 มล./น้ำ 200 มล.) อาจต้องเททิ้ง/เติมน้ำบ่อยครั้ง
ฟังก์ชันครบ ดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในตัวแบตเตอรี่ (2600 mAh) อาจไม่เพียงพอสำหรับบ้านที่มีขนาดใหญ่มาก
ราคาเข้าถึงง่าย เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นพรีเมียมระบบนำทาง Gyroscope อาจมีความแม่นยำน้อยกว่าระบบ LDS/LiDAR ในการสร้างแผนที่
ปีนสิ่งกีดขวางได้ สูงสุด 15 มม. ช่วยให้ทำงานได้ราบรื่นขาดฟังก์ชันขั้นสูง เช่น ระบบจดจำและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางแบบ AI

ส่องวิธีเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ที่กูรูงานบ้านไม่เคยบอก 

กำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอยู่ใช่ไหม? เราสรุปมาให้แล้ว! วิธีเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ที่กูรูเรื่องงานบ้านไม่เคยบอก ให้คุณได้ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ตรงกับขนาดและไลฟ์สไตล์ในบ้านคุณ

  1. ระบบนำทาง (Navigation):
    • Laser (LDS) แม่นยำที่สุด สร้างแผนที่ละเอียด เหมาะกับบ้านที่มีสิ่งกีดขวางเยอะ
    • Camera (vSLAM) ใช้กล้องในการนำทาง
  2. ประสิทธิภาพการทำความสะอาด:
    • แรงดูด: ควรเลือกกำลังดูดที่เหมาะสม (บ้านทั่วไป 10-15 kPa) แต่ถ้ามีพรมหรือสัตว์เลี้ยงควรเลือกรุ่นที่แรงดูดสูง
    • ระบบแปรง: แปรงคู่จะเก็บฝุ่นได้ดีกว่าแปรงเดี่ยว
  3. การใช้งาน:
    • แบตเตอรี่: ต้องเพียงพอต่อการทำความสะอาดทั้งพื้นที่ใน 1 ครั้ง
    • กล่องเก็บฝุ่น: พิจารณาความจุ รุ่นที่มีระบบ Self-Empty (ดูดฝุ่นเข้าแท่นเก็บเอง) จะสะดวกมาก
    • ขนาดตัวหุ่น: ควรเล็กพอที่จะเข้าใต้เฟอร์นิเจอร์ได้
    • ระดับเสียง: ควรเลือกที่เสียงเบาถ้าไม่ต้องการรบกวน
  4. ฟังก์ชันเสริม: เช่น ฟังก์ชันถูพื้น (Mopping), ควบคุมผ่านแอป, ตั้งเขตห้ามเข้า (No-go Zone)

บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง/พรม ควรเน้น แรงดูดสูง และ แปรงดี ส่วนบ้านใหญ่/มีเฟอร์นิเจอร์เยอะ เน้นระบบ Laser Navigation และกล่องเก็บฝุ่นใหญ่

คำถามที่คนถามบ่อยมากกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี 

ก่อนซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น นอกจากคำถามหุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดีแล้ว ยังมีคำถามคาใจอีกมากมายที่ถูกถามในอินเตอร์เนต OFM รวมมาให้แล้วกับ 3 คำถามยอดฮิตที่คนถามเยอะเกี่ยวกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น 

1. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ราคาไม่แพง

ถ้าต้องการรุ่นคุ้มค่าในงบประหยัด แบรนด์อย่าง Xiaomi, Eufy และ Haier เป็นตัวเลือกยอดนิยม เพราะมีแรงดูดดี ฟังก์ชันพื้นฐานครบ และใช้งานง่ายโดยไม่ต้องลงทุนสูง

2. ควรเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นไหนดี สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง?

ควรเลือกรุ่นที่มีแรงดูดสูง ไส้กรอง HEPA และแปรงป้องกันขนพัน เช่น Dreame, Roborock หรือ iRobot เพื่อจัดการขนสัตว์ได้ดีและลดฝุ่นแพ้ง่ายในบ้าน

3. หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถขึ้นลงพื้นต่างระดับหรือพรมได้หรือไม่?

หุ่นยนต์ส่วนใหญ่สามารถปีนขอบพื้นหรือพรมได้ประมาณ 1.5–2 ซม. และจะเพิ่มพลังดูดอัตโนมัติเมื่อขึ้นพรม แต่หากพื้นต่างระดับสูงกว่านี้ควรใช้รางเชื่อมหรือเลือกโมเดลที่รองรับการไต่พื้นที่สูงเป็นพิเศษ.

บ้านสะอาดแบบไม่เปลืองแรงกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น

ในแต่ละวันเรามีเวลาเพียง 24 ชั่วโมง การบริหารเวลาจึงสำคัญมาก! เพื่อให้คุณมีเวลาไปทำสิ่งสำคัญอื่น ๆ การใช้ตัวช่วยทุ่นแรงในเรื่องงานบ้านจึงเป็นทางออกที่ดี หุ่นยนต์ดูดฝุ่น คือผู้ช่วยที่สมบูรณ์แบบในการจัดการงานทำความสะอาดพื้น

OFM เข้าใจดีว่าการเลือกซื้อเป็นเรื่องยาก จึงได้รวบรวม 10 สุดยอดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยประหยัดเวลาและแรงของคุณ ให้คุณได้เลือกซื้อรุ่นที่เหมาะกับบ้านที่สุด เพื่อเอาเวลาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช้อปเลยวันนี้ พร้อมโปรโมชั่นมากมายที่ OFM.co.th

ดีลสุดพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่! 🔥

🛍️ ซื้อครบ 999.- ใส่โค้ด “NEW10” รับส่วนลด 10% (สูงสุด 1,000 บาท)

💥รับคะแนน The 1 X3 (1,000 บาท)

🎯 ยิ่งช้อป ยิ่งลด! อย่าพลาดดีลสุดคุ้มวันนี้!

📌 ช้อปเลย 👉  https://www.ofm.co.th

Exit mobile version