แพลตฟอร์มออนไลน์ (platform online) เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัลที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโต การมีช่องทางขายของออนไลน์หลากหลายจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น แพลตฟอร์มเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายเข้าด้วยกัน
พร้อมระบบจัดการหลังบ้านที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการสต็อกสินค้า ระบบชำระเงิน หรือการจัดส่ง ใน;วันนี้ OFM จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 10 แพลตฟอร์มออนไลน์ ยอดนิยมที่จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2025
แพลตฟอร์มออนไลน์ คืออะไร ?
แพลตฟอร์มออนไลน์ คือพื้นที่ดิจิทัลที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงผู้ขายและผู้ซื้อสินค้าออนไลน์เข้าด้วยกัน ระบบเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การขายออนไลน์โดยเฉพาะ ช่วยให้การทำธุรกิจออนไลน์เป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้มากขึ้น
แนะนำ 10 แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมในไทย ปี 2025
แพลตฟอร์มออนไลน์ มีอะไรบ้าง? สำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางทำธุรกิจหรือขายของออนไลน์ วันนี้เราจะพาไปรู้จัก 10 แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมในไทยปี 2025 ที่คุณไม่ควรพลาด!
1. Marketplace ขนาดใหญ่
1.1 TikTok Shop แพลตฟอร์มออนไลน์มาแรงสำหรับคนรุ่นใหม่
TikTok Shop เชื่อมต่อกับบัญชี TikTok ของคุณได้โดยตรง เหมาะกับการขายผ่านวิดีโอ
ข้อดี:
- เชื่อมต่อบัญชี TikTok ที่มีอยู่แล้ว
- ระบบวิเคราะห์ยอดขายและพฤติกรรมลูกค้า
- เหมาะกับการทำ Content Marketing
1.2 Shopee แอปขายของออนไลน์ยอดนิยมอันดับ 1
Shopee เป็น e-commerce platform ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทย มีฐานลูกค้าแน่นและระบบที่ใช้งานง่าย
วิธีเริ่มต้นใช้งาน:
- สมัครผ่าน Shopee Seller Centre ฟรี
- ค่าธรรมเนียม 3-5% ตามหมวดหมู่สินค้า
- ระบบหลังบ้านครบครัน จัดการออเดอร์ แชทลูกค้า ติดตามสถานะสินค้า
- รองรับ COD และเชื่อมต่อบริษัทขนส่งหลากหลาย
1.3 Lazada ร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน
Lazada เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 10 ล้านคน เปิดร้านได้ง่ายภายใน 1 นาที
จุดเด่น:
- สมัครง่าย เพียงกรอกข้อมูลเบอร์โทร อีเมล
- ลงสินค้าขั้นต่ำ 1 ชนิด
- ค่าธรรมเนียม 3-5%
- ระบบหลังบ้านครบครัน รองรับการชำระเงินหลากหลาย
1.4 Kaidee ตลาดขายของออนไลน์ของไทย
Kaidee เป็นเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่เน้นสินค้าราคาดี มีทั้งสินค้าใหม่และมือสอง
เหมาะกับ:
- การขายสินค้ามือสอง
- อสังหาริมทรัพย์
- โพสต์ขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
2. Social Commerce ช่องทางออนไลน์บนโซเชียลมีเดีย
2.1 Instagram แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่
Instagram เหมาะกับการขายสินค้าที่เน้นความสวยงาม โดยเฉพาะแฟชั่น ความงาม
จุดเด่น:
- เหมาะกับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนทำงาน
- เน้นการสร้างคอนเทนต์ภาพและวิดีโอ
- มีระบบ Instagram Shopping
2.2 Facebook ช่องทางขายของออนไลน์บนโซเชียล
Facebook มีผู้ใช้งานมากที่สุดในไทย สามารถสร้าง Facebook Page หรือขายใน Facebook Marketplace
วิธีการขาย:
- สร้าง Facebook Page ธุรกิจ
- ใช้ภาพสินค้าที่สวยงาม ใส่รายละเอียดครบถ้วน
- ใช้ Facebook Ads เพื่อโปรโมท
- ระบบหลังบ้านรองรับการทำงานที่สะดวก
2.3 X (เดิมชื่อ Twitter) platform online สำหรับคอนเทนต์
X เหมาะกับการสร้างคอนเทนต์และการโต้ตอบกับลูกค้า
ฟีเจอร์เด่น:
- โพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจและติดแฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง
- โต้ตอบกับผู้ติดตามและลูกค้าได้โดยตรง
- มีฟีเจอร์สำหรับร้านค้าออนไลน์เพื่อแสดงสินค้าและรับออเดอร์
- ใช้ระบบวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อติดตามผลการขายและปรับปรุงกลยุทธ์ธุรกิจ
2.3 LINE Shopping ช่องทางการสั่งซื้อผ่าน LINE
LINE Shopping เชื่อมต่อกับ LINE OA สามารถจัดการร้านค้าได้ครบในที่เดียว
ข้อดี:
- เข้าถึงผู้ใช้งาน LINE กว่า 54 ล้านคน
- ค่าธรรมเนียมเพียง 3%
- เชื่อมต่อกับ LINE OA
3. Website Builder / E-commerce Platform สำหรับสร้างเว็บขายของออนไลน์ด้วยตนเอง
3.1 Shopify แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซครบวงจร
Shopify เป็น e-commerce platform ที่ให้บริการครบวงจร
จุดเด่น:
- เทมเพลตสวยงาม
- ระบบจัดการคำสั่งซื้อที่ปลอดภัย
- รองรับการเติบโตของธุรกิจ
3.2 WordPress เว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ปรับแต่งได้
WordPress พร้อม WooCommerce plugin ช่วยสร้างเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ที่สมบูรณ์
ข้อดี:
- ปรับแต่งได้ตามต้องการ
- Plugin มากมาย
- ควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มที่
สรุปข้อดีของแพลตฟอร์มออนไลน์ต่อธุรกิจ
เมื่อทราบกันไปแล้วว่าแพลตฟอร์มคืออะไร? โดยจะเห็นได้ว่าแพลตฟอร์มช่วยให้การทำธุรกิจยุคใหม่เป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม เพราะนอกจากทำให้ธุรกิจรายเล็กเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมากได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มมูลค่าแก่ธุรกิจอีกมากมาย ดังนี้
- ลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ช่วยประหยัดต้นทุนและเวลาในการสร้างร้านค้าออนไลน์ เพราะไม่ต้องสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์เอง หรือพัฒนาแอปขายของออนไลน์ ซึ่งต้องลงทุนเงินและเวลามาก
- เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวาง ช่องทางออนไลน์เหล่านี้มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยไม่ต้องเริ่มต้นสร้างฐานลูกค้าจากศูนย์
- ระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย online shopping platform ส่วนใหญ่มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายและปลอดภัย เช่น บัตรเครดิต โอนผ่านแอป ช่วยลดความเสี่ยงในการใช้เงินสด
- เพิ่มช่องทางหารายได้ ผู้ขายสามารถนำสินค้าประเภทต่างๆ มาขายในแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขาย หากสินค้าไหนขายไม่ดีก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย
- สร้างความน่าเชื่อถือ ร้านขายของออนไลน์ที่อยู่ในแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ผ่านระบบรีวิวและการยืนยันตัวตนของร้านค้า
เปรียบเทียบช่องทางการขายออนไลน์ แบบไหนที่ใช่สำหรับธุรกิจของคุณ?
แพลตฟอร์มออนไลน์มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ OFM จะพามาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของแต่ละแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ เพื่อให้คุณสามารถเลือกช่องทางออนไลน์ที่เหมาะสมกับธุรกิจหรือความต้องการของคุณได้อย่างง่ายดาย
ประเภทแพลตฟอร์ม | ข้อดี | ข้อเสีย/ข้อควรระวัง |
Marketplace | • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จำนวนมาก • สมัครขายได้ฟรี • มีระบบจัดการหลังบ้านพร้อมใช้ | • มีการแข่งขันสูง • มีค่าธรรมเนียมการขาย |
Social Media | • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจง • สร้างการมีส่วนร่วมได้ง่าย • มีเครื่องมือโฆษณาที่หลากหลาย • สามารถสร้างคอนเทนต์วิดีโอเพื่อปิดการขายได้ทันที | • มีการแข่งขันสูง • เนื้อหาต้องน่าสนใจและปรับให้เข้ากับแต่ละแพลตฟอร์ม • ลูกค้าโอนเงินไม่สะดวก (ต้องกรอกเลขบัญชี) • ปัญหาเรื่องสลิปปลอม • ลูกค้าโอนเงินล่าช้า |
เว็บไซต์ของตัวเอง | • สร้างความน่าเชื่อถือ • สร้างการรับรู้แบรนด์ • ควบคุมการขายและการตลาดได้เต็มที่ | • มีต้นทุนในการสร้างและดูแลเว็บไซต์ • ต้องมีความรู้หรือจ้างผู้เชี่ยวชาญ |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ (Online Platform)
สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มเติม เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยไว้ที่นี่แล้ว!
1. แพลตฟอร์มออนไลน์ คืออะไร?
แพลตฟอร์มออนไลน์ คือพื้นที่หรือสื่อกลางดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกัน มีระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการซื้อ-ขาย
2.ช่องทางออนไลน์ มีอะไรบ้าง
ช่องทางยอดนิยมสำหรับการขายของออนไลน์ ได้แก่ Marketplace (เช่น Shopee, Lazada), Social Media (เช่น Facebook, Instagram, X, LINE) และการสร้าง เว็บไซต์ของตัวเอง (เช่น WordPress)
3. 5 แอปขายของออนไลน์ยอดนิยม มีอะไรบ้าง?
แอปพลิเคชันขายของออนไลน์ยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ Shopee, Lazada, LINE My Shop, Facebook Marketplace, และ Kaidee
4. แพลตฟอร์มออนไลน์มีอะไรบ้าง?
แพลตฟอร์มแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น:
- แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย: Facebook, Instagram, X, และ LINE
- แพลตฟอร์ม e-commerce: Shopee, Lazada, TikTok Shop, LINE Shopping, และ Facebook Marketplace
5. ควรเริ่มต้นขายของออนไลน์จากแพลตฟอร์มไหนก่อน?
การเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือการเลือกแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือสนับสนุนที่เหมาะกับประเภทสินค้าของคุณ แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมและเหมาะกับการเริ่มต้นได้แก่ Lazada, Shopee, Facebook Marketplace, Instagram และ TikTok Shop
สร้างธุรกิจออนไลน์ให้โตแบบก้าวกระโดด! ด้วยอุปกรณ์แพ็คของครบชุดจาก OFM
การเลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เหมาะสมช่วยให้ธุรกิจเติบโตและยั่งยืน โดยควรพิจารณาจากประเภทสินค้า กลุ่มเป้าหมาย และงบประมาณ สำหรับมือใหม่ Marketplace อย่าง Shopee หรือ Lazada เป็นตัวเลือกที่ดี จากนั้นค่อยขยายไปยังช่องทางอื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
เมื่อเลือกแพลตฟอร์มได้แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าด้วยการแพ็คสินค้าอย่างมืออาชีพ ที่ OFM เรามีอุปกรณ์สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ครบครันสำหรับธุรกิจออนไลน์ของคุณ
ไม่ว่าจะเป็น เทป กาว เชือก หรือ กล่องพัสดุ คุณภาพดี ในราคาที่คุ้มค่า พร้อมจัดส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ เพื่อให้คุณสามารถแพ็คสินค้าได้ง่ายและรวดเร็ว พร้อมส่งให้ลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ