Site icon OFM blog

7 เคล็ดลับประหยัดค่าไฟ ลดรายจ่ายช่วง Work from home

ช่วงที่ผ่านมาหลายคนต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน ยิ่งช่วงนี้ค่าครองชีพก็ดันขึ้น ทั้งค่าอาหาร ค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง ส่งผลให้รายจ่ายแต่ละเดือนพุ่งปรี๊ด ดังนั้น ใครที่ยังทำงานที่บ้านกันอยู่ วันนี้ OfficeMate มาช่วยลดรายจ่าย ด้วย 7 เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยประหยัดค่าไฟที่บ้าน ไปดูกันเลย!

7 เคล็ดลับประหยัดค่าไฟ ลดรายจ่ายช่วง Work from home

  1. ขยับมุมทำงานไปใกล้หน้าต่าง

เคล็ดลับข้อที่หนึ่งทำได้ง่ายๆ เพียงย้ายโต๊ะทำงานไปไว้ในที่ที่มีแสงธรรมชาติส่องถึง เช่น ริมหน้าต่าง ริมระเบียง หรือในสวน เปิดม่านให้กว้างๆ แล้วให้แสงจากธรรมชาติเป็นตัวช่วยเพิ่มความสว่างในห้อง จะได้ไม่ต้องเปิดไฟทั้งวันนั่นเอง

สำหรับใครที่ไม่มีระเบียง หรือไม่สามารถเปลี่ยนมุมทำงานได้ แนะนำให้เปิดไฟเฉพาะจุดที่นั่งทำงานอยู่เท่านั้น เช่น หากนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะเป็นหลัก ก็เปิดเพียงโคมไฟแทนการเปิดไฟทั้งบ้าน จะช่วยประหยัดค่าไฟได้เยอะเลยล่ะค่ะ     

  1. เปิดระเบียงระบายอากาศ

ใครมีระเบียงก็เปิดประตูระเบียงให้กว้าง แต่ถ้าไม่มีระเบียงอาจใช้วิธีเปิดประตู หรือเปิดหน้าต่างแทน เพราะนอกจากจะได้แสงธรรมชาติแล้ว ยังได้ระบายอากาศในห้องด้วยลมเย็นๆ อีกด้วย หากวันไหนที่อากาศร้อนเกินไป อาจใช้พัดลมเข้าช่วยก็ได้ รับรองว่าเคล็ดลับนี้ช่วยลดค่าไฟได้มากกว่าการเปิดแอร์ทั้งวันแน่นอน 

  1. เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED

หลอดไฟในห้อง รวมถึงหลอดไฟในโคมไฟ แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้หลอด LED แทนหลอดไส้ และหลอดฟลูออเรสเซนต์ เพราะหลอดไฟ LED ใช้พลังงานน้อยกว่า ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าถึง 80% นอกจากนั้นยังให้แสงสว่างมากกว่าอีกด้วย 

  1. จัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบ

ช่วงทำงานที่บ้าน หลายคนก็หันมาทำอาหารกินเองกันมากขึ้น ผลคือวัตถุดิบหลัก วัตถุดิบลับ น้ำซอส เครื่องปรุง และของที่ต้องมีทั้งหลายอัดแน่นอยู่เต็มตู้ ซึ่งทำให้เปลืองไฟมหาศาล เนื่องจากตู้เย็นทำงานหนักเกินไป ทั้งยังทำให้อาหารและวัตถุดิบบูดเน่าไวขึ้น เพราะความเย็นเข้าไม่ถึง ดังนั้น แทนที่จะตุนของกินเอาไว้จนเต็ม เปลี่ยนมาจัดตู้เย็นให้โล่งขึ้น ของหมดอายุ ผักที่ใกล้เน่าก็คัดทิ้งไป ไม่นำของร้อนเข้าไปแช่ ละลายน้ำแข็งเป็นประจำ ไม่เปิดตู้เย็นบ่อย และตุนแต่พอเหมาะ กินให้หมดแล้วค่อยเติมใหม่ จะช่วยให้ตู้เย็นทำความเย็นได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และกินไฟน้อยลง

  1. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน รวมถึงสายชาร์จสมาร์ทโฟนและแก็ดเจ็ตที่ไม่ได้ชาร์จอยู่ แนะนำให้ถอดออกให้หมด เพราะถึงจะปิดสวิตช์ แต่ไม่ถอดปลั๊ก กระแสไฟฟ้าก็ยังคงไหลเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นอยู่ดี ทางที่ดีปิดสวิตช์ และถอดปลั๊กออกให้หมด จะได้ไม่กินไฟโดยใช่เหตุ หรือถ้าจะให้สะดวกขึ้นอีกหน่อย อาจเปลี่ยนมาใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์เปิด-ปิดแยกแต่ละเต้ารับก็ได้เช่นกัน

  1. ปิดทีวีแล้วโฟกัสกับงาน

ทำงานไปฟังเสียงทีวีไป ช่วยให้เพลินและคลายเครียดได้ แต่ถ้าใครไม่อยากเครียดกับค่าไฟตอนสิ้นเดือน ก็แนะนำให้ปิดทีวีแล้วหันมาโฟกัสกับงานเพียงอย่างเดียวจะดีกว่า นอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟได้แล้ว ยังช่วยให้งานเสร็จไวขึ้นเพราะไม่มีสิ่งกวนสมาธิให้วอกแวกอีกด้วย สำหรับใครที่ชอบมีเพื่อนแก้เหงา แนะนำให้เปิดเพลงหรือดูรายการย้อนหลังบนยูทูปแทนจะได้ไม่ต้องเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายเครื่องให้เปลืองไฟ

  1. ลดแสงหน้าจอ และปรับโน๊ตบุ๊คเป็น Sleep Mode 

หากคุณใช้โน๊ตบุ๊คทำงานเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กชาร์จแบตเอาไว้ทั้งวัน แเพียงลดความสว่างของหน้าจอลง หรือเปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน ส่วนตอนพักกลางวันไปทานข้าว พักงีบ พักไปเล่นกับสัตว์เลี้ยง อย่าลืมสลับโน๊ตบุ๊คให้เป็น Sleep Mode จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คได้ ซึ่งอาจจะใช้งานต่อได้ยาวๆ 3-4 ชั่วโมง (ถ้าแบตไม่เสื่อม) ช่วยประหยัดไฟบ้านได้ดีเลยล่ะค่ะ

ใครยังทำงานที่บ้านอยู่ก็อย่าลืมเอาเคล็ดลับประหยัดไฟ 7 ข้อนี้ไปลองทำตามกันดูนะคะ ต่อให้ Work from home ยาวๆ ไปอีกซักกี่เดือน ก็ไม่ต้องปวดหัวกับค่าไฟกันอีกแน่นอน 

OfficeMate สนับสนุนให้ทุกคน Work From Anywhere ด้วยอุปกรณ์สำนักงาน โต๊ะทำงาน เก้าอี้ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พร้อมช่วยอำนวยสะดวกให้การทำงานทุกที่ เพียงคุณเข้ามาช้อปสินค้าบนเว็บไซต์ OfficeMate วันนี้ รับของแถม และโปรโมชั่นดีๆ พร้อมบริการส่งฟรี เมื่อช้อปครบ 499 บาท!

Exit mobile version